Skip to main content
sharethis

ประชาไท - 13 ก.ย.48      "ภารกิจสุดท้ายก่อนที่วุฒิสมาชิกจะหมดวาระจะรวบรวมรายชื่อเสนอศาลรัฐ


ธรรมนูญให้พิจารณาว่าการเจรจาเอฟทีเอขัดต่อรัฐธรรมนูญ การปิดบังข้อมูลผิดกฎหมาย หวังว่าศาลจะมีความยุติธรรมอยู่บ้าง แต่นี่ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายจริงๆ" นายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ ประธานกรรมาธิการการต่างประเทศวุฒิสภา กล่าวในงานสัมมนาวันที่ 2 เรื่อง" "ข้อเสนอแนะก่อนหายนะ"การเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรีไทย-สหรัฐฯ "


 


นอกจากนี้นายไกรศักดิ์  เรียกร้องให้ทุกภาคส่วนร่วมกันตรวจสอบการเจรจาการค้าระหว่างประเทศโดย


เฉพาะนักวิชาการหากเมื่อใดนักวิชาการไม่กล้าที่จะปกป้องสังคมสังคมก็ถึงการหายนะ ซึ่งเริ่มปรากฏแล้วจากตัวเลขคนจนที่เพิ่มขึ้นและการฆ่าตัวตายในภาคเหนือที่มากที่สุด ดังนั้นทุกฝ่ายจะต้องมีการประสานงานกัน


 


นางชนิดา จรรยาเพศ ตัวแทนกลุ่มศึกษาข้อตกลงเขตการค้าเสรีภาคประชาชน หรือ เอฟทีเอ ว็อทช์ กล่าวว่าหลังจากการประชุมครั้งนี้ จะมีการจัดตั้ง"สภาประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากเอฟทีเอ" เพื่อเป็นกลไกของภาคประชาชนในการเข้าร่วมกระบวนการตัดสินใจนโยบายการค้าระหว่างประเทศ


 


จากนั้นนางชนิดาได้สรุปข้อเสนอของที่ประชุมภาคประชาชนในเวทีสัมมนาครั้งนี้ที่มีต่อรัฐบาลว่า 1.ให้ชะลอการเจรจา เพื่อให้มีเวลาในการปรับกระบวนการเจรจาให้เป็นไปอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้ประชาชน และรัฐสภามีส่วนร่วมอย่างแท้จริง 2. ให้เปิดเผยข้อมูลการเจรจาต่อประชาชนเพื่อจะได้รับรู้ เตรียมตัว และร่วมให้ข้อเสนอแนะเพื่อการตัดสินใจอย่างรอบด้าน


 


3.ให้มีการศึกษาข้อมูลผลกระทบเพื่อเตรียมความพร้อมในการเจรจา และรองรับผลกระทบที่จะเกิดขึ้น 4. ให้นำเรื่องการเจรจาเอฟทีเอ เสนอต่อรัฐสภา ทั้งในช่วงการเจรจา และก่อนการลงนาม ในฐานะที่รัฐสภาเป็นตัวแทนประชาชนที่มาจากการเลือกตั้ง และช่วยเพิ่มอำนาจของรัฐบาลในการเจรจา รวมทั้งให้มีการออกกฎหมายควบคุมการเจรจาการค้า และการจัดทำข้อตกลงระหว่างประเทศ


 


5. ให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในระดับการตัดสินใจ โดยกลไกทำประชามติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 214


ทั้งนี้ต้องมีการเผยแพร่เปิดเผยข้อมูลล่วงหน้าก่อนการทำประชามติ 6.ให้นำประเด็นเรื่องทรัพย์สินทางปัญญาออกจากการเจรจาเอฟทีเอ ไทย-สหรัฐ


 


นางชนิดากล่าวด้วยว่า ข้อเสนอทั้งหมดเกิดจาการที่ที่ประชุมมีการทบทวนผลกระทบการเปิดเขตการค้าเสรีที่มีการลงนามไปแล้ว ซึ่งปรากฏชัดว่าส่งผลกระทบอย่างหนักหนาสาหัสต่อเกษตรกรรายย่อยผู้ปลูกผัก ผลไม้ เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม โคเนื้อ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ยิ่งไปกว่านั้นยังจะกระทบต่อความมั่นคงทางอาหาร และความหลากหลายทางชีวภาพของพืชพรรณธัญญาหารของประเทศในอนาคต


 


ด้านนายจอน อึ๊งภากรณ์ วุฒิสมาชิก ซึ่งเพิ่งได้รับรางวัลแม็กไซไซ 2548 ยืนยันว่า ภาคประชาชนต้องมีบทบาทในการกำหนดนโยบายสาธารณะ โดยเฉพาะการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรีต้องพูดทั้งในรัฐสภาและข้างถนน


 


"เรื่องเอฟทีเอ เป็นเรื่องที่ประชาชนรับรู้น้อย และสื่อมวลชนของเราไม่มีอิสระ มีแต่กล่อมให้เห็นว่าเอฟทีเอคือทางออกที่จะสร้างสังคมทันสมัยให้แก่ประเทศไทย มีแต่ผู้ที่สนใจจริงๆจึงจะเข้าใจ หากดูประสบการณ์ของเม็กซิโกจะพบว่ากว่าประชาชนจะตื่นตัวก็มีการเซ็นข้อตกลงไปแล้ว และก็ประสบปัญหาอย่างหนัก"


 


ขณะที่ น.พ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ ส.ว.อุบลราชธานี กล่าวว่า เอฟทีเอคือระบบนายทุนผูกขาด เชื่อมโยงกับต่างชาติมีผู้นำเป็นสมุนรับใช้ ทุนต่างชาติเป็นผู้ดำเนินการ และการต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่ชนะด้วยการปลุกระดมและกำลังใจเท่านั้น แต่ต้องร่วมกับคณะกรรมการสิทธิฯ วุฒิสภา นักวิชาการ องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรประชาชน


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net