ประชาไท - 14 ก.ย.48 หลังจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับหลักการของร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ เมื่อวันที่ 11 ม.ค.48 และมอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกานำไปพิจารณา เพื่อนำเสนอกลับเข้าสู่ ครม.อีกครั้งนั้น ล่าสุด คณะอนุกรรมาธิการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ วุฒิสภา ได้เชิญตัวแทนจากหลายหน่วยงานให้ข้อมูลความคืบหน้า
นาย
นาย
นายจินตพันธุ์กล่าวด้วยว่า ร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษไม่เกี่ยวข้องกับร่าง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการสนามบินสุวรรณภูมิ ส่วนร่าง พ.ร.บ.การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ฉบับที่..) พ.ศ....นั้นเป็นเรื่องที่พิจารณากันก่อนที่จะมีแนวคิดเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ อย่างไรก็ตาม ทางกฤษฎีกายังเห็นควรให้ดึงเรื่องนิคมอุตสาหกรรมไปอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษ และหากร่าง พ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษมีผลบังคับใช้ก็จะต้องยกเลิก พ.ร.บ.การนิคมฯ
นอกจากนี้ตัวแทนจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังกล่าวถึงวาระการพิจารณาของคณะกรรมการกฤษฎีกาว่า วาระแรกจะเป็นการกำหนดประเด็น วาระที่สองเป็นการหาทางออก และวาระสุดท้ายเป็นการปรับแก้ในรายมาตรา หลังจากนั้นจะเริ่มต้นกระบวนการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน
เมื่ออนุกรรมาธิการฯ ถามถึงความเชื่อมโยงของข้อตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับร่างพ.ร.บ.เขตเศรษฐกิจพิเศษ นายจินตพันธุ์กล่าวว่า ทางกฤษฎีกาได้ตระหนักถึงความสำคัญเอฟทีเอ โดยเฉพาะกรณีของสหรัฐที่กำหนดว่าไม่ให้ลดหย่อนการใช้กฎหมายสิ่งแวดล้อมเพื่อดึงดูดนักลงทุนหลังเปิดเอฟทีเอ อีกทั้งทางกฤษฎีกายังต้องระมัดระวังในการร่างกฎหมายไม่ให้ผิดพันธกรณีที่มีต่อองค์การการค้าโลก (WTO) ที่ระบุไม่ให้ประเทศสมาชิกอุดหนุนการส่งออกด้วย
ด้านตัวแทนจากการนิคมอุตสาหกรรมประเทศไทย (กนอ.) ระบุว่าร่าง พ.ร.บ.การนิคมฉบับใหม่เกิดขึ้นจากการที่ประเทศไทยต้องปฏิบัติตามพันธกรณีของ WTO ซึ่งกำหนดไม่ให้อุดหนุนการส่งออก ขณะที่นาย
ทั้งนี้ นาย
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)