ประชาไท - 19 ก.ย.48 "ผมยืนยันว่าร่างกฎหมายนี้ไม่มีใบสั่ง ไม่มีใครสั่งว่าผมต้องเขียนอย่างไร ก่อนหน้านี้มีคณะกรรมการชุดหนึ่งยกร่างซึ่งไม่ได้ออกมาในรูปคณะกรรมการ และผมได้รับมอบหมายให้ยกร่างใหม่เป็นเวลา 7 วัน มันตั้งอยู่บนพื้นฐานของการศึกษากฎหมายต่างๆ และความเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ ซึ่งจะต้องผ่านคณะกรรมการอีกหลายครั้ง" นายธวัชชัย สำโรงวัฒนา ผู้ตรวจราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์กล่าวในการประชุมระดมความคิดเห็นเรื่อง "พ.ร.บ.ข้าวแห่งชาติ"
นายธวัชชัย กล่าวว่า จุดเริ่มต้นของกฎหมายเนื่องจากพระราชเสาวนีย์ของสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรม ราชินีนาถที่ต้องการให้มีสำนักงานดูและเรื่องข้าวอย่างครบวงจร ประกอบกับรัฐบาลมีนโยบายออกกฎหมายดูแลพืชเศรษฐกิจ ซึ่งข้าวถือเป็นหัวใจสำคัญ โดยกฎหมายฉบับนี้จะรวมหน่วยงานที่เกี่ยวกับเรื่องข้าว ด้วยการจัดตั้งสำนักงานข้าวแห่งชาติดูแลเรื่องข้าวอย่างครบวงจร ซึ่งมีคณะกรรมการที่มาจากส่วนที่เกี่ยวข้อง 21 คน เป็นตัวแทนชาวนา 3 คน และมีกองทุนคอยอุดหนุนการวิจัยพัฒนา ส่วนจะมีการรวมกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องข้าวด้วยหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา
"โครงสร้างนี้ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะสมที่สุด ถ้าคิดว่าตัวแทนชาวนาควรจะมากกว่านี้เราก็รับพิจารณา ส่วนเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษถ้าไม่เอาก็บอกในที่ประชุมเลยว่าไม่เอา ไม่ต้องการ แล้วผมจะนำเสนอให้ รับรองได้ว่าการประชุมระดมความเห็นในวันนี้จะไม่เสียเปล่า กฎหมายเป็นแค่ตัวหนังสือเปลี่ยนแปลงได้" ผู้ตรวจราชการฯ กล่าว
นายธวัชชัยกล่าวถึงเขตเศรษฐกิจพิเศษที่มีกำหนดในร่างกฎหมายว่า ไม่ได้เป็นการบังคับชาวนาให้ปลูกข้าวพันธุ์ดี เพราะกฎหมายเขียนชัดเจนว่าจะทำเขตเศรษฐกิจได้ต้องมีเจ้าของที่ดินรวมกันไม่น้อยกว่า 50% ให้ความยินยอม และชาวนาที่จะมาขึ้นทะเบียนก็เป็นไปโดยสมัครใจ โดยรัฐบาลจะต้องลงทุนสูงขึ้นในการพัฒนาปัจจัยพื้นฐานต่างๆ รวมทั้งเงินทุนหมุนเวียนในพื้นที่นั้นๆ เพื่อผลิตข้าวที่มีมาตรฐานส่งออกต่างประเทศ แต่จะให้คนเห็นดีด้วย 100 เปอร์เซ็นต์คงเป็นไปไม่ได้
นอกจากนี้ที่มีความกังวลว่าเขตเศรษฐกิจพิเศษจะทำให้ข้าวพื้นเมืองสูญพันธุ์นั้นก็ไม่เป็นความจริง เพราะเขตเศรษฐกิจพิเศษจะมีบางพื้นที่เท่านั้นที่ทำได้ นอกเหนือจากนั้นยังเป็นไปตามความต้องการปลูกของเกษตรกร
"ผมเชื่อว่าถ้ายังปล่อยให้ปลูกข้าวคละพันธุ์ในทุกพื้นที่ บริเวณที่ปลูกข้าวพันธุ์ดีก็จะหมดไปไปจากประเทศไทย" นายธวัชชัยกล่าว พร้อมกับตอบคำถามเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษเพิ่มเติมว่า "เขตเศรษฐกิจพิเศษในกฎหมายนี้ก็คล้ายกับกฎหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาล แต่เป็นเฉพาะเรื่องข้าว"
นาย
นาย
"ผมเบื่อเต็มที่ที่จะได้ยินว่าโรงสีโกง หน่วยงานรัฐโกง" นายวัฒนากล่าว
นายวัฒนากล่าวว่า การช่วยเหลือเกษตรกรมีหลายมีวิธี ทั้งการรับจำนำข้าว และการอุดหนุนชาวนาเพื่อลดต้นทุนการผลิต ซึ่งตนเห็นด้วยกับหลักการส่วนใหญ่ในร่างพ.ร.บ.นี้ ส่วนหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่ดูเหมือนจะเข้มงวดกับชาวนามากเกินไปนั้นก็ควรพบกันครึ่งทาง อีกทั้งกรมวิชาการเกษตรจะต้องใส่ใจกับการสร้างศูนย์ผลิตพันธุ์ข้าวเพื่อชุมชน ซึ่งทางโรงสีก็ยินดีเข้าร่วมโครงการด้วย เพราะขณะนี้ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ
ขณะที่นาย
"นโยบายเรื่องข้าวควรมีความหลากหลาย นาข้าวไร้สารพิษผลิตได้ 120 ถังต่อไร่ด้วยต้นทุนต่ำ มันเป็นเรื่องเป็นไปได้ แต่ถึงตอนนี้นักวิชาการการเกษตร ข้าราชการหลายคนก็ยังไม่เชื่ออยู่ดี"นายชนวนกล่าว
(อ่านมาตราว่าด้วย คณะกรรมการข้าวแห่งชาติ และ เขตเศรษฐกิจพิเศษปลูกข้าวพันธุ์ดี ได้ในข่าวประกอบ)
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)