ฝายหินทิ้งพญาคำ ฝายหนองผึ้งและท่าวังตาลเป็นมรดกทางวัฒนธรรมมากกว่า 700 ปี มี 5-6 ชั่วอายุคน เป็นฝายระบบชลประทานราษฎรผู้ใช้น้ำเป็นผู้ก่อสร้างฝายไม้ไผ่ มีการซ่อมแซมทุกครั้ง หากปีไหนน้ำมาก จึงได้ทำการเปลี่ยนเป็นผายหินทิ้งทั้ง 3 ฝายเมื่อปีพ.ศ.2527
ฝายมีความสำคัญให้น้ำทุกฤดูกาล ฝายทั้ง 3 ฝายและลำเหมืองเป็นความจำเป็นของชาวบ้านทั้ง 3 อำเภอ คือ อำเภอเมืองเชียงใหม่ อ.สารภี และ อ.เมือง จ.ลำพูนที่รับน้ำจากแม่น้ำปิง เพราะสภาพพื้นที่แอ่งที่ราบลุ่มเชียงใหม่-ลำพูน ที่ราบน้ำท่วมกว้างขวางชาวบ้านอาศัยและปรับตัว หากินอยู่กินกับลำน้ำปิงเป็นต้นน้ำลำธารมาตั้งแต่บรรพบุรุษ
ปัจจุบันกลุ่มผู้ใช้น้ำได้จัดตั้งเป็น คณะกรรมการเหมืองฝาย โดยได้รับการแต่งตั้งจากนายอำเภอสารภีอย่างเป็นทางการ คณะอนุกรรมการลุ่มน้ำปิง ทางคณะกรรมการเหมืองฝายเป็นผู้ดูแลบริหารจัดการเหมืองฝายโดยใช้กฎระเบียบมังรายศาสตร์ และกฎหมายชลประทานราษฎร์
น้ำปิงจากฝายเหล่านี้ได้หล่อเลี้ยงชีวิต ได้แก่ การปลุกข้าว ผักสวนครัวต่างๆ และลำไย อันเป็นความมั่นคงทางอาหารชาวบ้านและคนเมืองเชียงใหม่และจังหวัดใกล้เคียง โดยมีพื้นที่การเกษตรดังนี้
1. ฝายพญาคำ 30,000 ไร่ 8 ตำบล 104 หมู่บ้าน
2.ฝายหนองผึ้ง 5,000 ไร่
3.ฝายท่าวังตาล 81,000 ไร่ สมาชิก 35,000 คน 3 ตำบล 21 หมู่บ้าน
ความสำคัญอีกประการทั้งฝายทั้ง 3 ฝายเป็นสนามแห่งการเรียนรู้ และสั่งสมองค์ความรู้ ภูมิปัญญาชาวบ้านในการจัดการน้ำล้านนามาช้านาน ซึ่งได้รับการศึกษาวิจัยค้นคว้า จากนักศึกษาต่างประเทศ แหล่งอ้างอิงข้อมูลที่สำคัญคือ
1.วันเพ็ญ สุรฤกษ์ พัฒนาการประวัติความเป็นมา และการจัดการเกี่ยวกับระบบชลประทานในภาคเหนือของประเทศไทย.กรุงเทพ.สถาบันวิจัยสังคมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,2528 และ 2534
2.พรพิไล เลิศวิชา ชุมชนลุ่มน้ำขาน 2534 - 2545. สวก.,มกราคม 2546
นอกจากนั้น ฝายพญาคำ ยังเป็นสถานที่ใช้สำหรับจัดทำหลักสูตรท้องถิ่น "ลำเหมืองพญาคำ" ในโรงเรียนต่างๆ ใน จ.เชียงใหม่และลำพูน
ซึ่งจากกรณีที่ เกิดเหตุการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่ที่ผ่านมา พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งให้รื้อฝายพญาคำ ฝายพญาคำ ฝายหนองผึ้ง ฝายท่าวังตาล โดยให้เหตุผลว่า "เป็นฝายหินทิ้งเป็นสิ่งกีดขวางทางน้ำในน้ำปิง ทำให้น้ำไหลไม่สะดวกนั้นเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ และริเริ่มสร้างความเดือดร้อนแก่ชาวบ้านอำเภอสารภีเป็นอย่างมาก
ทั้งนี้คือ ฝายที่กั้นลำน้ำปิงอยู่ระดับต่ำกว่าสันแม่น้ำปิงลงไปถึง 3 เมตร ไม่ได้เป็นสาเหตุการกีดขวางทางน้ำแต่อย่างใด แต่การสร้างถนนวงแหวนรอบนอก รอบในรอบกลาง การสร้างถนนเลียบรถไฟ การปรับ เปลี่ยนพื้นที่เป็นบ้านจัดสรรบริเวณอำเภอสันทราย สันกำแพงมีผลต่อการเปลี่ยนเส้นทางเดินและการระบายน้ำเป็นอย่างมาก รวมทั้งโครงการพัฒนาระบบขนส่งมวลชลระดับจังหวัด และกลุ่มจังหวัดที่จะตามมา กลับไม่มีการหยิบยกนโยบาย การพัฒนาที่จะสร้างความเดือดร้อนต่อชาวบ้านมาพิจารณา
กลุ่มผู้ใช้น้ำฝายน้ำฝายพญาคำ ท่าวังตาล หนองผึ้ง ขอเรียงร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้
1.ระงับการใช้เครื่องจักรที่ฝายท่าวังตาล ฝายหนองผึ้งและฝายพญาคำ
2.ขอให้มีการชี้แจง ถามความคิดเห็นชาวบ้าน สาเหตุการรื้อฝายพญาคำและการสร้างฝายยางต่อคนสารภี ออกหนังสือให้ประชุมกลุ่มผู้ใช้น้ำฝายก่อน ที่ว่าการอำเภอสารภีโดยเร็ว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)