"สุรนันท์"ร่วมกับกรมประชาสัมพันธ์ผลิตรายการสร้างสันติสุขชายแดนใต้ จ้องตรวจสอบรายการวิทยุภาษามลายู หวั่นยุยงป่วนใต้ แต่ไม่แทรกแซงนักจัดรายการร้องรัฐบาลเพิ่มรายการภาษามลายูหวังผ่อนคลายชาวบ้านจากปัญหาใต้ ชี้รัฐอาจระแวงเกิดไป
เมื่อเช้าวันที่ 28 กันยายน นาย
นายสุรนันท์ กล่าวว่า หน่วยงานของรัฐได้เฝ้าจับตาวิทยุท้องถิ่นภาคภาษามลายูอยู่ด้วยว่า จัดรายการมีเนื้อหาสาระไปในทิศทางที่หมิ่นเหม่ต่อความมั่นคงหรือไม่ แต่ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงรายการหรือเนื้อหาสาระ เนื่องจากทุกวันนี้มีรายการวิทยุชุมชนอยู่ในพื้นที่เป็นจำนวนมาก จึงต้องคอยดูและตรวจสอบจนกว่า คณะกรรมการกิจการ (กสช.) จะเข้ามารับผิดชอบในส่วนนี้
"รัฐไม่มีอำนาจไปเซ็นเซอร์ ผู้บริโภคตรวจสอบเองจะดีที่สุด แต่บางเรื่องต้องทำความเข้าใจ ต้องขอร้องให้เสนอเนื้อหาให้ตรงกับมุมมองของรัฐบาลบ้าง เพราะเราเป็นประเทศประชาธิปไตย ควรจะต้องมีมุมมองจากหลายฝ่าย"
อย่างไรก็ตามหากพบว่า คลื่นวิทยุไหนจัดรายการในลักษณะที่เป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศชาติก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายอยู่แล้ว" นายสุรนันท์ กล่าว
นายดุษฎี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กรมประชาสัมพันธ์คอยตรวจสอบเนื้อหาและนักจัดรายการวิทยุท้องถิ่นภาคภาษามลายูร่วมกับทหาร แต่ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับรายการ เพียงแต่ตรวจสอบและฟังรายการตามปกติเท่านั้น
นาย
"ที่ผ่านมาชาวบ้านมุสลิมไม่มีจุดผ่อนคลาย เพราะรายการบันเทิงที่เป็นภาษามลายู และไม่ผิดต่อหลักศาสนามีอยู่น้อย หากรัฐมาจัดทำรายการให้ก็จะช่วยให้ชาวบ้านผ่อนคลายจากความตึงเครียดในพื้นที่ได้"นายมะยูโซ๊ะกล่าว
นายมะยูโซ๊ะ กล่าวอีกว่า รายการวิทยุภาคภาษามลายูที่มีอยู่ ส่วนใหญ่เป็นรายการสอนศาสนาคล้ายกับรายการธรรมะของคนไทยพุทธ เนื่องจากคนมุสลิมไม่นิยมฟังรายการบันเทิงเพราะติดขัดในคำสอน ซึ่งเนื้อหารายการจะเป็นการสอนให้เด็กและเยาวชนเป็นคนดี ไม่เกี่ยวกับการยั่วยุหรือส่งเสริมให้คนในพื้นที่ก่อความไม่สงบอย่างที่รัฐคอยจับตามอง
"ปกติจะมีการตรวจสอบอยู่แล้ว ถ้าเป็นรายการยั่วยุก็ถือว่าผิดกฎหมาย และคิดว่าผู้ฟังแยกแยะออก แต่การเข้าตรวจสอบของรัฐนั้นจะต้องดูด้วยว่าเหมาะสมหรือไม่ หากเป็นการตรวจสอบที่ละเมิดรัฐธรรมนูญก็ไม่ควรจะทำ เพราะจะเป็นการละเมิดสิทธิได้" นายมะยูโซ๊ะ กล่าว
นาย
"ถ้ารัฐมัวแต่คิดว่ารับไม่ได้กับภาษาที่ 2 ที่เป็นภาษามลายู ผมคิดว่าเป็นแนวคิดที่ไม่ถูกต้อง เพราะในสังคมย่อมมีความหลากหลาย อย่าว่าแต่ภาษามลายู ภาษาจีนก็น่าที่จะสามารถจัดรายการได้ ฉะนั้นรัฐควรจะเข้ามาส่งเสริมเพราะเป็นการเพิ่มความรู้ให้กับชาวบ้าน อย่าปิดกั้นการรับรู้ของชาวบ้าน"นายสุขเกษมกล่าว
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)