หลังสถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองเชียงใหม่ระลอกที่สามในรอบสองเดือนคลี่คลายลงพร้อมกับน้ำที่ลดระดับลง พื้นที่ต่างๆเริ่มทำความสะอาดและสำรวจความเสียหาย ซึ่งเชื่อว่าน่าจะน้อยกว่าครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคมแม้ว่าความรุนแรงจะเท่ากันหรืออาจมากกว่า เนื่องจากประชาชนทั่วไปมีความตื่นตัวและเตรียมพร้อมรับมือเป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตามในหลายจุดโดยเฉพาะตามบ้านเรือนและร้านค้ายังคงไม่มีการเก็บกวาดกระสอบทรายสำหรับทำแนวกั้นน้ำ เนื่องจากอาจจำเป็นต้องใช้งานอีกครั้งก่อนหมดฤดูฝน บนพื้นฐานความกังวลที่ว่าอิทธิพลมรสุมลูกสุดท้ายก่อนเปลี่ยนสู่ฤดูหนาว อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมระลอกที่สี่อีก ประสบการณ์น้ำท่วมสามครั้งที่เป็นประวัติศาสตร์ยิ่งกว่าประวัติศาสตร์บอกคนเชียงใหม่ให้ทราบว่าไม่มีสิ่งไหนรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นอีก อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่ปรากฏทั่วไปจากเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งที่สาม ดูเหมือนว่าชาวเมืองเชียงใหม่จะสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี หรือหากมองอีกแง่หนึ่งอาจหมายถึงการก้มหน้ายอมรับชะตากรรม
น่าเห็นใจสำหรับบางพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบซ้ำแล้วซ้ำเล่า ไม่ว่าจะเป็นบ้านเรือน ร้านค้า หน่วยงานราชการ และสถานศึกษา แม้ว่าจะมีการเตรียมการล่วงหน้าอย่างไรก็ยังคงได้รับความเสียหายไม่มากก็น้อย พื้นที่ย่านมหิดล-หายยาอย่างเชียงใหม่แลนด์ยังพอโชคดีอยู่บ้างที่ลักษณะสิ่งปลูกสร้างซึ่งส่วนมากเป็นตึกแถวช่วยให้อย่างน้อยหากกั้นแนวกระสอบทรายดีพอ แม้ว่าบริเวณถนนจะเกิดน้ำท่วมแต่ตัวอาคารก็ยังรอด อย่างไรก็ตามนั่นหมายความว่าน้ำปริมาณมหาศาลก็จะไหลไปท่วมบริเวณอื่นที่ใกล้เคียงกันอยู่ดี หมู่บ้านเวียงทองบนถนนมหิดลซึ่งอยู่ต่ำกว่าถนนค่อนข้างมาก จากสภาพที่พบเห็นแม้เมื่อระดับน้ำยังไม่ขึ้นสูงสุด ก็ทำเอาคิดไม่ออกว่าผู้คนในหมู่บ้านจะสามารถดำรงชีวิตอย่างปกติสุขต่อไปได้อย่างไร หากต้องพบกับสภาพดังกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่า
ย่านถนนเจริญประเทศและช้างคลานซึ่งมีสถานศึกษากระจุกตัวอยู่หนาแน่น ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนมงฟอร์ตแผนกประถม พระหฤหัย วชิรวิทย์ เรยีนาฯ และไชยโรจน์วิทยา รวมทั้งเป็นที่ตั้งของย่านธุรกิจสำคัญอย่างไนท์บาซาร์ เป็นพื้นที่ซึ่งจะได้รับผลกระทบเป็นอันดับต้นๆเสมอหากเกิดน้ำท่วม
โดยเฉพาะตอนปลายถนนช้างคลานช่วงต่อกับถนนมหิดล เป็นจุดที่ต่ำเป็นพิเศษและน้ำลดระดับช้ากว่าบริเวณอื่นเสมอ บริเวณดังกล่าวเป็นจุดกลับรถจุดเดียวที่มีอยู่ของถนนมหิดลตลอดระยะทางประมาณ 3-4 กิโลเมตรตั้งแต่สี่แยกแอร์พอร์ตไปถึงสี่แยกหนองหอย ผลกระทบที่มีต่อสภาพการจราจรจึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้ว่าถนนสายหลักจะไม่ถูกน้ำท่วมก็ตาม มีผู้ตั้งข้อสังเกตว่าสภาพคอขวดของลำน้ำปิงบริเวณสะพานป่าแดดอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้น้ำทะลักขยายขอบเขตตามแนวถนนมหิดลปากทิศเหนือไปค่อนข้างไกลจากลำน้ำปิง
โดยฝั่งตะวันออกกินพื้นที่ผ่านย่านหนองหอยไปถึงโรงเรียนมงฟอร์ตแผนกมัธยมและโรงเรียนกาวิละฯ และฝั่งตะวันตกกินพื้นที่ไปถึงสี่แยกแอร์พอร์ต โดยมีถนนมหิดลกั้นแบ่งพื้นที่สองฝั่งเหนือ-ใต้ ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนของภาวะน้ำท่วม
ส่วนย่านไนท์บาซาร์นั้น การกั้นกระสอบทรายป้องกันน้ำเข้าท่วมในพื้นที่เรียกว่าเป็นไปไม่ได้เลยในทางเทคนิค โดยมีสภาพตรอกซอกซอยสลับซับซ้อนเป็นสาเหตุ ทำให้เกิดจุดโหว่ที่เปิดให้น้ำไหลเข้าไปอยู่ดี ทางเดียวที่บรรเทาความเสียหายได้คือการย้ายสิ่งของมีค่าขึ้นไว้ในที่ปลอดภัยและสร้างแนวกั้นน้ำรอบตัวอาคารเท่านั้น และเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งหลังสุดนั้น ไนท์บาซาร์ต้องจมอยู่ในน้ำเกือบสามวันเต็ม เทียบกับครั้งเดือนสิงหาคมที่น้ำลดระดับลงอย่างรวดเร็วจนแห้งสนิทภายในชั่วข้ามวัน
บริเวณตลาดวโรรส ก่อนวันที่ 29 กันยายน เทศบาลนครเชียงใหม่ได้สร้างแนวกั้นน้ำตลอดแนวตลิ่งลำน้ำปิง และสร้างความมั่นใจกับชาวบ้านว่าแนวกั้นน้ำดังกล่าวสามารถรับระดับน้ำได้ถึง 5 เมตร ซึ่งจะเกินจุดวิกฤตมาถึง 1.30 เมตร เชื่อว่าตลาดวโรรสน้ำไม่ท่วมแน่นอน
อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายของวันที่ 29 กันยายน ระดับน้ำอยู่ที่ประมาณ 4.40 เมตร เพิ่มระดับและไหลแรงขึ้นเรื่อยๆ จนถึงช่วงเย็นวันเดียวกันน้ำได้เพิ่มขึ้นสูงกว่าเดิมอีกราว 30-40 เซนติเมตร ปริ่มอยู่ที่แนวกระสอบทรายเรียงซ้อนกันสูง 3 ชั้น แต่มีความหนาเพียงชั้นเดียว ชาวบ้านหลายคนต่างส่ายหน้าเนื่องจากเชื่อว่าไม่สามารถต้านทานได้แน่นอน ขณะเดียวกันย่านบ้านต้าวัดเกตซึ่งแนวตลิ่งต่ำกว่า เริ่มถูกน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงกลางวันแล้ว และเมื่อถึงช่วงดึกคืนนั้น ในท้ายที่สุดตลาดวโรรสก็ต้องจมน้ำไม่ต่างจากพื้นที่อื่น กรณีดังกล่าวทางเทศบาลนครเชียงใหม่ให้เหตุผลว่า เนื่องมาจากปริมาณกระสอบทรายไม่เพียงพอ ทำให้ไม่แข็งแรงพอที่จะต้านน้ำไว้ได้ หากจะให้สามารถต้านทานน้ำไว้ได้ต้องมีฐาน 3 ชั้นเป็นอย่างต่ำ แนะนั่นหมายความว่าต้องใช้กระสอบทรายเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว
หลังน้ำลดระดับลง นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี ได้ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์ที่เชียงใหม่ และเสนอแนวทางแก้ปัญหาไว้ 5 แนวทาง ได้แก่ การขุดลอกลำน้ำปิงที่ตื้นเขิน ดำเนินคดีกับผู้บุกรุกลำน้ำปิง สร้างอ่างเก็บน้ำที่แม่แตงเพื่อเพิ่มความสามารถในการกักเก็บน้ำ ยกแนวถนนริมฝั่งน้ำปิงให้สูงขึ้น และยกแนวกันน้ำริมน้ำปิงให้สูงขึ้น และจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีต่อไป
ล่าสุดทางนายกรัฐมนตรีให้แนวทางดำเนินการแก้ปัญหาน้ำท่วมไปว่าจำเป็นต้องสร้างอ่างเก็บน้ำขนาด 300-400 ลูกบาศก์เมตร 2 แห่งขึ้นบริเวณ อ.แม่แตง หรือ อ.เชียงดาว.