ประชาไท- เชื่อดัลมาติน ผู้ก่อการร้ายสมาชิกคนสำคัญของกลุ่มเจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือ เจ.ไอ.จากอินโดนีเซีย ที่ถูกสหรัฐฯตั้งค่าหัวกว่า 400 ล้านบาท ขณะนี้แอบซุกตัวอยู่กับกลุ่มอาบู ซายาฟในฟิลิปปินส์
พลตรีเอดินแบร์โต อาดาน ผู้บัญชาการกองทัพภาคใต้ของฟิลิปปินส์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์เมื่อวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า แน่ใจว่า ดัลมาติน ขณะนี้หลบอยู่ในจังหวัดหนึ่งในมินดาเนาของฟิลิปปินส์นี่เอง ซึ่งหน่วยข่าวกรองจะติดตามเพื่อหารายละเอียดที่มากกว่านี้ต่อไป
ดัลมาติน สมาชิกคนสำคัญของ เจมาห์ อิสลามิยาห์ หรือ เจ.ไอ. เป็นหนึ่งในผู้ที่อยู่เบื้องหลังการระเบิดบาหลีในปี 2002 ว่ากันว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระเบิด และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วทางสหรัฐฯเพิ่งจะตั้งค่าหัวไป 10 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ( 410 ล้านบาท) ให้กับผู้ที่สามารถให้ข้อมูลที่จะนำไปสู่การจับกุมตัวเขาได้
เจ้าหน้าที่จากฟิลิปปินส์กล่าวว่า เชื่อว่าดัลมาติน รวมทั้ง อูมาร์ ปาเต๊ะห์ อีกหนึ่งสมาชิก เจ.ไอ ที่เป็นผู้ต้องสงสัย ขณะนี้อยู่กับกลุ่มสมาชิกอัล-กออิดะ ที่มีความสัมพันธ์กับกลุ่มหัวรุนแรงอาบู ซายาฟ ที่จังหวัดโคตาบาโต ตอนกลางของมินดาเนา
"มีรายงานว่าทั้งสองคนนี้อยู่กับกลุ่มของจานจาลานี" พลตรีอาดานกล่าว โดยหมายถึงคาดาฟี จานจาลานี ผู้นำกองกำลังขนาด 200 คนของอาบู ซายาฟ
จากคำสารภาพของสมาชิก เจ.ไอ. ที่ถูกคุมขังอยู่และรวมทั้งจากรายงานของหน่วยข่าวกรอง เจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารยอมรับว่ามีกลุ่มสมาชิกเจ.ไอ. บางคนกำลังทำการฝึกอบรมและอาจจะวางแผนที่จะโจมตีมินดาเนาอยู่
"เรารู้ว่ามีปฎิบัติการของเจ.ไอ อยู่หลายสิบชุดในประเทศฟิลิปปินส์ เรากำลังติดตามอยู่และเราได้ข้อมูลที่เชื่อถือได้ว่าฐานปฏิบัติการเหล่านั้นตั้งอยู่ที่ไหนบ้าง" พลตรีอาดานกล่าว
อย่างไรก็ตาม การเจรจาสันติภาพกับแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร ( MILF) ที่มีกองกำลัง 12,000 คน ซึ่งถือเป็นกลุ่มกบฏที่มีกองกำลังมากที่สุดนั้นอาจทำให้การค้นหาสมาชิกเจ.ไอ.และอาบู ซายาฟ เป็นไปได้ยากขึ้น ทั้งนี้เนื่องจากภายใต้ข้อตกลงหยุดยิงนั้น ทางกองทัพจะต้องแจ้งให้ MILF ทราบก่อนที่จะเข้าไปมีปฎิบัติการใดๆในพื้นที่ที่เป็นกองบัญชาการของกลุ่มกบฏ
"นั่นเป็นเพียงปัญหาทางยุทธวิธี" พลตรีอาดานกล่าว
"มีเหล่าผู้นำของ MILF ที่จริงใจในการเจรจาสันติภาพอยู่และได้ห้ามสมาชิกให้ที่พักหรือคุ้มครองสมาชิกเจ.ไอ. แต่ก็อาจจะมีบางหน่วยที่ไม่ยอมปฎิบัติตามคำสั่งนั้นและมีการส่งข่าวให้กับผู้ก่อการร้าย"
ช่องว่างด้านชายแดนทางทะเลกับอินโดนีเซียและทางพื้นดินที่ขรุขระหนทางที่ลำบากในภาคใต้ของฟิลิปปินส์ทำให้ความพยายามที่จะจับตัวผู้ก่อการร้ายเป็นไปได้ยาก
"ทางรัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะจับพวกก่อการร้ายเหล่านี้ แต่ว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่จับได้" พันตรี กัมมาล ฮายาดูนี โฆษกของกองบัญชาการกองทัพภาคใต้ของฟิลิปปินส์กล่าว
"พื้นที่กว้างมากและมีหลายส่วนที่เป็นป่ารกทึก"
ผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการก่อการร้าย อับราฮัม พูรักกานัน อดีตเจ้าหน้าที่ของกองทัพที่ครั้งหนึ่งเคยได้รับมอบหมายให้ปฎิบัติงานที่มินดาเนา กล่าวว่า "ในฐานะที่เคยเป็นทหาร ผมรู้ว่าพื้นที่นี้ใหญ่แค่ไหน เป็นไปไม่ได้ที่จะนำกองกำลังด้านความมั่นคงเข้าไปปูพรมเต็มพื้นที่ในเขตนี้"
และยังกล่าวเพิ่มเติมถึงข้อได้เปรียบของผู้หลบหนีว่า พวกเขาได้รับการดูแลจากกลุ่มก่อการร้ายในท้องถิ่นซึ่งคุ้นเคยกับพื้นที่เป็นอย่างดี " เปรียบเทียบกับเหล่าทหารแล้ว พวกนี้คุ้นเคยกับพื้นที่มากกว่า"
อีกทั้งช่องว่างของบรรดาเกาะเล็กเกาะน้อยประตูหลังของภาคใต้ก็ยิ่งทำให้กลุ่มก่อการร้ายผลุบเข้าผลุบออกประเทศจากสุลาเวสีของอินโดนีเซีย ได้อย่างง่ายดาย
"เราไม่ได้จัดกำลังนาวิกโยธินไว้ตลอดแนวชายแดน ซึ่งสำหรับผมแล้ว นี่คือจุดอ่อนที่สุดเพราะว่าการข้ามแดนของกลุ่มก่อการร้ายทำได้โดยไม่มีสิ่งใดขัดขวางเลย" พูรักกานันกล่าว
-----------------------------------------------
ที่มา: http://www.asianewsnet.net/level3_template1.php?l3sec=4&news_id=46670&key_word=