หลังภัยแผ่นดินไหวเผชิญภัยค้ามนุษย์

ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ


 

 

 

เหตุการณ์ธรณีพิบัติเอเชียใต้ที่คร่าชีวิตผู้คนไปจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ปากีสถานที่มีผู้เสียชีวิตไปแล้วถึงกว่า 5 หมื่นคนและคาดว่าจะมีคนที่ไร้ที่อยู่อาศัยอีกกว่าครึ่งล้านคน

 

ทว่าในท่ามกลางโศกนาฎกรรมที่ยังไม่ยุติลงนี้ เหล่านักค้ามนุษย์กลับไม่ได้รู้สึกเศร้าสลดใจไปด้วย แต่กลับถือเอาโอกาสนี้เป็นช่องทางในทำรายได้จากความโชคร้ายของผู้อื่นอย่างไร้ศีลธรรมที่สุด

 

ในรายงานพิเศษที่ มูฮัมหมัด เชซัด ได้เขียนให้กับ The reddiff แมกกาซีน ออนไลน์จากปากีสถานบอกว่า กลุ่มนักค้ามนุษย์กำลังรวบรวมข้อมูลเด็กและผู้หญิงที่ได้สูญเสียพ่อแม่หรือสามีจากเหตุการณ์นี้ ได้เดินทางไปเยี่ยมเยียนที่ค่ายบรรเทาทุกข์ โดยแกล้งทำเป็นญาติสนิทที่จะเข้ามาช่วยเหลือและจะรับตัวไปดูแล

 

"ฉันไม่รู้จักเขา เขาไม่ใช่ญาติของฉัน อย่าส่งฉันไปกับเขาเลย" อาเยสชา บีบี เด็กสาววัย 16 ปี กล่าวขณะที่อยู่ที่โรงพยาบาลราวัลพิลดี เนื่องจากมีผู้ชายสองคน ที่ชื่อ ชาฟิก และการิม ต้องการจะเอาตัวเธอไป โดยบอกว่า อาเยสชาเป็นหลานของพวกเขา

 

"เธอเป็นเด็กปัญญาอ่อน (mental retarded) บ่อยครั้งที่เธอจำแม่ของเธอที่ตายอยู่ในซากปรักหักพังไม่ได้ เราเป็นลุงของเธอ และจะมาเพื่อช่วยเหลือเธอ" การิมอ้าง

 

เมื่อถามว่าพวกเขารู้เรื่องของเธอได้อย่างไร พวกเขาบอกว่า เห็นข่าวจากโทรทัศน์และทางโรงพยาบาล เนื่องจากประสบกับภาวการณ์ขาดแคลนเตียง จึงอนุมัติให้อเยสชาออกจากโรงพยาบาล และส่งให้ชายทั้งสองไปโดยที่ไม่ได้มีการพิสูจน์ความจริง

 

ถึงตอนนี้มีคนจำนวนมากที่ต้องการจะรับเด็กกำพร้าไปเป็นบุตรบุญธรรม บางคนก็ต้องการเด็กไปเป็นเลี้ยงดูเป็นลูกจริงๆ ทว่า ส่วนใหญ่กลับมารับเด็กไปเพราะต้องการเอาไปเป็นเด็กรับใช้ในบ้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอาไปเป็นพี่เลี้ยงลูก

 

ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเรียกตัวเองว่าเป็น "นักสังคมสงเคราะห์" ได้ติดต่อทางโทรศัพท์กับโมฮัมเหม็ด เมื่อรู้ว่าเขากำลังจะเดินทางไปที่เมือง มูซาฟฟาราบัด เพื่อไปทำข่าวแผ่นดินไหวว่า "ฉันอยากจะได้เด็กวัยรุ่นไปสักคนหนึ่ง เธอจะได้ไปช่วยฉันเลี้ยงลูกและอยู่กับฉัน ฉันจะให้เธอมีที่อยู่ มีอาหารกินและมีเสื้อผ้าใส่"

 

มูฮัมหมัดกล่าวเตือนว่า เธอไม่ละอายหรือที่จะทำเช่นนี้ เพราะแทนที่เธอจะช่วยคนที่กำลังเดือดร้อน แต่กลับไปแสวงประโยชน์กับเขาในภาวะยากลำบากอย่างนี้ แต่เธอก็ตอบว่า "นี่ไง ฉันกำลังช่วยอยู่อีกทางหนึ่ง ฉันรับเด็กมาทำงานเป็นพี่เลี้ยงลูกฉัน ฉันช่วยเธอไว้จากการต้องไปค้าประเวณีไงล่ะ"

 

อันที่จริงผู้หญิงคนนี้อาจจะไม่ผิดก็ได้ เพราะว่า ขณะนี้แก็งค์แมงดาได้เข้าไปถึงหมูบ้านที่ห่างไกลที่สุดในแคชเมียร์ของปากีสถานแล้ว เพื่อที่จะไปซื้อตัวเด็กผู้หญิงไปที่ซ่องของพวกเขา บรรดาคนที่ยากจนมากๆ จำนวนไม่น้อยขณะนี้ กำลังขายลูกสาวให้แก่พวกแมงดาที่มาในคราบนักบุญที่อ้างว่ามาช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเหล่านั้นโดยการแต่งงานกับผู้หญิงที่ยากจนและต้องการความช่วยเหลืออย่างมาก

 

ในเมืองมูซาฟฟาราบัด มีหญิงสาวสวยคนหนึ่งได้สูญเสียสามีและลูก 3 คนไปกับแผ่นดินไหว กำลังถูกนำมาเปิดตัวที่จะแต่งงานกับผู้ชายวัยใดก็ได้ที่พร้อมที่จะดูแลเธอ

 

"ฉันยินดีที่จะให้ลูกสะใภ้วัย 28 ปี ของฉันซึ่งขณะนี้กำลังเป็นหม้าย แต่งงานกับใครก็ได้ที่สามารถจะคุ้มครองเธอได้" ซากีร์ อาลี แม่สามีวัย 65 ปี ซึ่งอดีตเคยเป็นครูกล่าว

 

การค้าผู้หญิงโดยการแต่งงานไม่ใช่ปรากฏการณ์แปลกใหม่ในปากีสถาน โมฮัมเหม็ด กล่าว เพราะเขาเองก็พบเรื่องนี้มาแล้วด้วยตัวเอง คือ เพื่อนของเขาคนหนึ่งก็ไปตกหลุมรักผู้หญิงและไปขอให้พ่อซึ่งเป็นนายทหารปลดประจำการซึ่งเป็นพ่อหม้ายอยู่ ให้จัดการแต่งงานให้เขา พ่อก็ตั้งเงื่อนไขกับลูกชายว่า ลูกนั้นจะต้องไปจัดการหาผู้หญิงมาแต่งกับพ่อก่อน ลูกชายจึงต้องเดินทางไปยังชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือซึ่งมีเจ้าสาวจำหน่าย เขาซื้อ "แม่เลี้ยง" มาในราคา 25,000 รูปี พ่อก็แต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นแล้วก็จัดการแต่งงานให้กับลูกชาย

 

หมอทหารอยู่ในตำแหน่งที่จะสามารถใช้อิทธิพลที่จะรับลูกใครเป็นบุตรบุญธรรมก็ได้ ในโรงพยาบาลสนามที่เมื่องบาคห์ มูฮัมหมัดได้ยินหมอทหารพูดกับพี่ชายของเขาทางโทรศัพท์ว่า ไม่ต้องเป็นห่วง รอสักสัปดาห์เขาจะหาเด็กผู้หญิงเป็นลูกบุญธรรมให้ ที่หมอบอกให้รอ 1 สัปดาห์นั้นก็เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีญาติมาอ้างสิทธิที่จะดูแลเด็กผู้หญิงที่มีแนวโน้มว่าเขาจะรับไปเป็นบุตรบุญธรรมนั่นเอง

 

มูฮัมหมัด เขียนในบทความของเขา แสดงความเศร้าใจที่ว่าผุ้คนได้นำอิสลามไปใช้ในทางที่ผิด "อิสลาม สนับสนุนให้ผู้ชายแต่งงานกับผู้หญิงที่ขัดสน ผู้ชายมุสลิมสามารถมีภรรยาได้ 4 คน ทว่า น่าเสียดาย ที่มีการนำอิสลามมาใช้ในทางที่ผิด และนำมาใช้ในการกระทำที่ชั่วร้าย

 

"คงมีแต่พระผู้เป็นเจ้าเท่านั้นที่จะรู้ถึงความตั้งใจจริงของมนุษย์ การ "รับบุตรบุญธรรม" และ "การแต่งงาน" ดูหมือนว่าจะกลายเป็นสองวิธีใหญ่ที่นำมาสู่การค้ามนุษย์เสียแล้ว"







ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท