อินโด-เอเชียน นิวส์ เซอร์วิส-  บังคลาเทศสั่งหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทุกหน่วยให้จับกุมชาวโรฮิงยาผู้อพยพมาจากพม่าที่ออกมาอยู่นอกค่ายผู้ลี้ภัย อ้างว่า หลายๆ คนมีส่วนร่วมกิจกรรมกับกลุ่มนักรบ

ชนเผ่าโรฮิงยาเป็นชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในพม่าซึ่งหนีออกจากพม่ามายังบังคลาเทศมาในช่วงปี 2534-2535 เนื่องจากต้องการหลบหนีจากการถูกจับกุมและลงโทษโดยรัฐบาลทหารพม่า

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกระทรวงมหาดไทยบังคลาเทศกล่าวว่า  ภายหลังจากที่ได้รับรายงานว่าผู้อพยพจำนวนไม่น้อยได้มาเข้าร่วมกับกลุ่มนักรบอิสลามในท้องถิ่น ทางรัฐบาลบังคลาเทศจึงได้เพิ่มการเฝ้าระวังกับคนในกลุ่มนี้อย่างเข้มงวดมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงมหาดไทยได้กำชับให้หน่วยงานที่ทำงานเกี่ยวข้องกับผู้อพยพให้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากว่ามีองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนนานาชาติหลายๆ องค์กรกำลังให้ความใส่ใจและเห็นใจต่อกลุ่มโรฮิงยางซึ่งเข้ามาลี้ภัยในบังคลาเทศไม่ว่าจะโดยถูกกฎหมายหรือผิดกฎหมายตามที่ต่างๆ ในสองตำบลที่เป็นชายแดนระหว่างบังคลาเทศกับพม่า

ทางรัฐบาลบังคลาเทศนั้น ดูเหมือนจะเริ่มตื่นตัวขึ้นภายหลังจากที่ได้จับกุมชาวโรฮิงยา 25 คน ในจิตตะกอง และแถลงการณ์ของกลุ่มที่ออกมายอมรับว่ามีการเชื่อมโยงกับกลุ่มนักรบท้องถิ่นที่มีส่วนในการวางระเบิดทั่วประเทศเมื่อวันที่ 17 สิงหาคม และการระเบิด 3 ลูกที่โจมตีศาลเมื่อวันที่ 3 ตุลาคมที่ผ่านมา

"ทางกระทรวงมหาดไทยได้มีการประชุมกันสัปดาห์ที่ผ่านมาและได้ตัดสินใจที่จะเข้าปฎิบัติการกับโรฮิงยาที่เข้าร่วมกลุ่มนักรบดังกล่าว" เจ้าหน้าที่กล่าว

ในที่ประชุมได้ตั้งข้อสังเกตด้วยความกังวลใจอย่างยิ่งว่า มีผู้อพยพจำนวนมากได้เข้าร่วมกับกลุ่มนักรบอิสลามหลายๆกลุ่มด้วยกันในนามของศาสนา แหล่งข่าวกล่าวว่า มีผู้อพยพผู้หญิงก็ถูกคัดเลือกให้เข้าร่วมกลุ่มนักรบด้วย รวมทั้งได้รับการอบรมให้สามารถดำเนินกิจกรรมของเหล่านักรบ

ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมจากพม่าเข้ามาหลบภัยอยู่ในบังคลาเทศประมาณ 250,000 คน ระหว่างปี 2534-2535 เพื่อหลบหนีจากกางถูกลงโทษโดยรัฐบาลทหารพม่าในรัฐอารกัน ( ยะไข่)  โดยผู้อพยพส่วนใหญ่ได้ถูกส่งกลับไปยังพม่าแล้วโดยความช่วยเหลือของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ภัยแห่งสหประชาติ  (UNHCR) กระนั้น ก็ยังมีผู้ลี้ภัยที่เหลืออยู่ในบังคลาเทศอีกประมาณกว่า 20,000 คนซึ่งอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย บาซาร์ เทคาฟ และในเมืองคอกซ์

แหล่งข่าวระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวว่า มีบรรดาพวกที่ถูกส่งตัวกลับไปแล้วจำนวนไม่น้อยก็กลับเข้ามาที่บังคลาเทศอีกครั้งหนึ่ง โดยกลับเข้ามาอยู่อย่างผิดกฎหมาย

-----------------------------------------

ที่มา : http://www.hindustantimes.com/news/7598_1527268,000500020001.htm