Skip to main content
sharethis

ศูนย์ข่าวอิศรา           ผบช.ภ.9 เคลียร์ข้อกังขาชาวบ้าน เจ้าหน้าที่รัฐก่อเหตุยิงถล่มร้านน้ำชาตันหยงลิมอ ผลตรวจหัวกระสุน ยันตรงกับปืนที่เคยใช้ยิงทหารมาก่อน ชี้ชัดเป็นฝีมือกลุ่มก่อความไม่สงบ ก่อเหตุลวงจนท.เข้าพื้นที่แล้วปั่วหัวชาวบ้านให้ปิดล้อม


 


พล.ต.ท.อดุลย์ แสงสิงห์แก้ว ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 (ผบช.ภ.9) ในฐานะรองผู้อำนวยการ กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.) กล่าวว่า ผลการตรวจสอบหัวกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่กลุ่มคนร้ายใช้ยิงถล่มร้านน้ำชา ในหมู่บ้านตันหยงลิมอ ต.ตันหยงลิมอ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส  ทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน และบาดเจ็บอีก 4 คน เมื่อคืนวันที่ 20 กันยายนที่ผ่านมา พบว่าลักษณะเกลียวลำกล้องนั้นตรงกับหัวกระสุนที่คนร้ายเคยใช้ยิงทหารในพื้นที่ อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เสียชีวิตเมื่อเดือนธันวาคมปี 2547


 


 "ผลการตรวจสอบหัวกระสุนของทั้งสองเหตุการณ์ตรงกัน แสดงว่ายิงมาจากอาวุธปืนกระบอกเดียวกัน เป็นที่ยืนยันแน่ชัดแล้วว่ากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเป็นผู้ลงมือยิงอย่างแน่นอน ไม่ใช่ฝีมือของเจ้าหน้าที่ตามที่มีการเข้าใจผิด" พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าว


 


ทั้งนี้เหตุการณ์ยิงถล่มร้านน้ำชาดังกล่าว กลายเป็นความเข้าใจผิดว่าเป็นฝีมือของเจ้าหน้าที่รัฐกระทั่งเหตุการณ์บานปลาย เมื่อชาวบ้านถูกยุยงให้จับตัวนาวิกโยธิน 2 นายเอาไว้ เนื่องจากสงสัยว่า เกี่ยวข้องกับการก่อเหตุ กระทั่งทหารทั้งสองนายถูกกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบรุมทำร้ายจนเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 กันยายนที่ผ่านมา


 


พล.ต.ท.อดุลย์ กล่าวอีกว่า ผลการตรวจของกองพิสูจน์หลักฐานพบว่าทิศทางการยิงของกลุ่มผู้ก่อการที่กราดยิงปืนเข้าไปในร้านน้ำชานั้น เป็นการยิงกราดโดยไม่หวังชีวิตบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่เป็นการกราดยิงเพื่อต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้ามาดูที่เกิดเหตุ และยั่วยุชาวบ้านให้ปิดล้อมเจ้าหน้าที่  เพื่อต้องการให้เกิดความวุ่นวายขึ้น ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังอยู่ระหว่างการสรุปเหตุการณ์ที่หมู่บ้านตันหยงลิมอทั้งหมด ตั้งแต่เกิดเหตุยิงร้านน้ำชาไปจนถึงเหตุการณ์ความวุ่นวายที่ทำให้ 2 นาวิโยธินเสียชีวิต ซึ่งพบว่าเป็นการกระทำที่เป็นขบวนการและเป็นการวางแผนมาอย่างดี เกี่ยวเนื่องกันมาโดยตลอด


 


พล.ต.ท.อดุลย์ ยังยืนยันด้วยว่า ไม่ได้ทำคดีเฉพาะในส่วนที่ 2 นาวิกโยธินถูกฆ่าเท่านั้น แต่เป็นการทำคดีที่ชาวบ้านถูกยิงควบคู่กันไปด้วย เพราะทั้ง 2 คดีมีความเกี่ยวเนื่องกันอย่างสมบูรณ์ เป็นขบวนการเดียวกัน ชาวบ้านที่ถูกนำตัวมาสอบตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กว่า 30 คน และ ผู้ต้องหา 3 คนที่ถูก ศาลจังหวัดนราธิวาส ถือว่าอยู่ร่วมในขบวนการตั้งแต่ต้น


 


สำหรับการติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ  เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.อ.สฤษดิ์ชัย อเนกเวียง ในฐานะหัวหน้าชุดสืบสวน ศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติส่วนหน้า ได้เข้าตรวจค้นบ้านพักของ นายอูเซ็ง สาและลุ หนึ่งในผู้ต้องสงสัยที่ได้ควบคุมตัวมาสอบสวนตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน พบว่า นายอูเซ็ง ได้นำเสื้อลายพรางของนาวิกโยธิน พร้อมด้วยหมวกแบเร่ ไปผังดินซ่อนไว้ใกล้กับบ่อปลาในเขตบ้านพักในหมู่บ้านตันหยงลิมอ นอกจากนี้ยังพบมีดโบวี่ยาวประมาณ 1 ฟุต จำนวน 2 เล่มฝังซ่อนอยู่ด้วยกัน จึงได้ยึดมาเป็นหลักฐานเพื่อตรวจสอบหาคราบเลือด โดยการตรวจหา DNA ว่าตรงกับของ 2 นาวิกโยธินที่เสียชีวิตหรือไม่


 


สำหรับการออกหมายควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยตาม พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน นั้นจนถึงขณะนี้ได้ออกหมายไปแล้วทั้งสิ้น 35 คน และควบคุมตัวมาสอบสวนได้แล้ว 15 คน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net