ประชาไท-  การปิดตัวของเว็บไซด์อาเจ๊ะห์กีตะ ( Acehkita) ซึ่งเป็นเว็บไซด์ที่นำเสนอข่าวเกี่ยวกับอาเจ๊ะห์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในอินโดนีเซียอาจส่งผลกระทบกับการลื่นไหลของข่าวสารข้อมูลจากอาเจ๊ะห์สู่สาธารณชน

พันธมิตรผู้สื่อข่าวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Press Alliance-SEAPA) รายงานเมื่อวันที่ 4 ตุลาคมที่ผ่านมาว่า เว็บไซด์อาเจ๊ะห์กีตะได้ปิดตัวลงไปตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน อันเนื่องมาจากความขัดแย้งภายในองค์กรระหว่างเจ้าของเว็บกับสหภาพแรงงานและผู้สื่อข่าวในเรื่องการบริหารจัดการองค์กร รวมไปถึงการปลดบรรณาธิการใหญ่ออกจากตำแหน่ง

ในวันที่ 26 กันยายนดันดี ดวี ลักโซโน บรรณาธิการใหญ่ซึ่งได้ถูกไล่ออกไปเนื่องจากถูกกล่าวหาว่าสาเหตุหนึ่งที่ทำให้สหภาพแรงงานประท้วง  ได้ออกมากล่าวว่า สหภาพสื่อมวลชนอาจถูกบังคับให้เริ่มเปิดตัวข่าวทางเลือกเกี่ยวกับอาเจ๊ะห์ขึ้นมาใหม่หากไม่สามารถเจรจาตกลงกับเจ้าของเว็บได้

จนถึงขณะนี้ยังไม่มีพนักงานคนใดที่สามารถเข้าไปอาคารสำสำนักงานที่ตั้งอยู่ในจาการ์ต้าที่ถูกปิดไปโดยผู้บริหารตั้งแต่วันที่ 16 กันยายนได้  โดยการปิดตัวลงในครั้งนี้ส่งผลไปถึงการปิดตัวชั่วคราวของนิตยสารอาเจ๊ะห์กีตะ รายเดือน และ อาเจ๊ะหฺกีตะรายสัปดาห์ที่เพิ่งเปิดตัวขึ้นมาใหม่ด้วย

"ความขัดแย้งภายในที่เกิดขึ้นนี้จะไม่มีผลต่อการลื่นไหลของของมูลเกี่ยวกับอาเจ๊ะห์ เราจำเป็นจะต้องเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณ์ในอาเจะห์ให้สาธารณชนรับรู้ต่อไป" ดันดี กล่าวกับ SEAPA

ผู้เชี่ยวชาญด้านสื่อต่างออกมาแสดงความเสียดายถ้าหากว่า acehkita.com จะถูกปิดไปเป็นการถาวรเพราะเว็บไซด์ดังกล่าวนี้ได้มีบทบาทสำคัญมากในการเสนอข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับเรื่องอาเจ๊ะห์ให้กับสาธารณชนได้รับรู้ในระหว่างที่มีการใช้กฎอัยการศึกที่นั่น

การปิดตัวของ acehkita.com มาตรงกับช่วงเวลาที่ประชาชนอยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับกระบวนการสร้างสันติภาพที่จะเกิดขึ้นต่อมาภายหลังจากที่มีการลงนามในข้อตกลงสันติภาพระหว่างรัฐบาลอินโดนีเซียและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนอาเจ๊ะห์ ( GAM) ในเดือนกรกฎาคม

การปิดตัวเกิดขึ้นหลังที่ทางสหภาพได้ประท้วงต่อคณะกรรมการผู้ก่อตั้งมูลนิธิ acehkita ที่ล้มเหลวที่จะทำตามข้อเรียกร้องให้แสดงความโปร่งใสในการบริหารจัดการและให้สมิตา โนโตซูซาน ผู้บริหารสูงสุดของมูลนิธิลาออกเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อกรณีการนำงบประมาณของมูลนิธิมาใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์  ในวันที่ 12 กันยายน ทางเจ้าของได้มาบอกให้ดันดี หรือไม่เช่นนั้นก็จะปลดออก สิ่งเดียวที่ผู้บริหารได้ทำตามที่ผู้ประท้วงเรียกร้องก็คือได้ไปจ้างผู้สอบบัญชีอิสระเข้ามาดูเรื่องการเงินของมูลนิธิ

ดันดี กล่าวว่า เขาต้องตกเป็นเป้าเพราะว่า เพราะว่าเขาต่อต้านการนำเงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมที่ทางมูลนิธิตั้งเอาไว้ว่าจะใช้ในการบรรเทาทุกข์ให้กับผู้ประสบภัยสึนามิในอาเจ๊ะห์มาใช้ในเชิงพาณิชย์ บรรณาธิการใหญ่กล่าวว่า และเขาก็ยังได้คัดค้านการตัดสินใจที่เกิดขึ้นเมื่อไม่นานนี้ที่จะมีการเปิดนิตยสารรายสัปดาห์ในอาเจ๊ะห์ที่จะใช้ชื่อเดียวกันกับเว็บไซด์ และนำไปใช้เจรจาเชิงพาณิชย์กับบริษัทสิ่งพิมพ์อีกด้วย เขากล่าวว่า การตกลงแบบนั้นขัดต่อกฎหมายอินโดนีเซียว่าด้วยการควบรวมมูลนิธิ เนื่องจากมูลนิธิเป็นองค์กรไม่แสวงกำไร และไม่อนุญาตให้นำทรัพย์สินไปรวมกับองค์กรที่สามารถแสวงกำไรได้

แต่ทางเจ้าของแย้งว่า จำเป็นที่จะต้องนำ acehkita เข้าไปสู่ระบบธุรกิจเพื่อจะได้ระดมทุนจากในประเทศเพื่อที่จะสามารถลดการพึ่งพิงเงินสนับสนุนจากต่างประเทศ

Acehkita  เปิดตัวตั้งแต่วันที่ 19 กรกฎาคม 2003  เป็นเว็บไซด์ที่นำเสนอข่าวเป็นภาษาอังกฤษและบาฮาซา(อินโดนีเซีย) และมีนิตยสารรายเดือนที่นำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับจังหวัดอาเจ๊ะห์ ทางตอนเหนือของเกาะสุมาตรา ในช่วงที่มีการประกาศใช้กฎอัยการศึก และในช่วงที่รัฐบาลกุมสื่อและการเข้าถึงข้อมูลของอาเจ๊ะห์  ซึ่งในขณะนั้นยังมีการต่อสู้ระหว่างกองกำลังทหารฝ่ายรัฐบาลและกลุ่มGAM

-----------------------------------------

เปิดชม เว็ปhttp://www.acehkita.com/eng/

ที่มา : Southeast Asian Press Alliance (SEAPA)