Skip to main content
sharethis


ประชาไท--6 ต.ค. 2548 - ว่าที่กรรมการกำกับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสช.) ประชุมนัดแรก ลงมติเลือก พล.อ. ธงชัย เกื้อสกุล เป็นประธาน กสช. ด้าน ครป. เตรียมยื่นฟ้องศาลปกครองกรณีการสรรหาไม่โปร่งใส

 


ว่าที่ กสช. ทั้ง 7 คนได้ใช้เวลาประชุมนัดแรกร่วมกันนานกว่า 3 ชั่วโมง จากนั้นจึงออกมาแถลงร่วมกันว่าได้ลงมติเลือก พล.อ.ธงชัย เกื้อสกุล เป็นประธาน กสช. ด้วยคะแนนเสียง 6 ต่อ1 โดยรายละเอียดในการลงคะแนนนั้น ได้รับการเปิดเผยว่า มีผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นประธาน 2 คน คือ พล.อ. ธงชัย เกื้อสกุล และนายพิเชียร อำนาจวรประเสริฐ


 


ทั้งนี้ พล.อ. ธงชัย เกื้อสกุล เป็นบุคคลที่หลายฝ่ายคาดการณ์ว่า จะได้ดำรงตำแหน่ง ประธาน กสช.ไว้ตั้งแต่ก่อนที่วุฒิสภาจะมีการเลือก กสช. ในขณะเดียวกันก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์เรื่องคุณสมบัติซึ่งศาลปกครองสูงสุดเคยพิพากษาว่ามีส่วนได้เสียกับกรรมการสรรหา และมีส่วนได้ส่วนเสียกับสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ด้วย


 


ว่าที่ กสช. ทั้ง 7 คนยังแถลงด้วยว่า ได้ลาออกจากองค์กรและหน่วยงานตามที่ได้กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติองค์กรจัดสรรคลื่นความถี่และกำกับกิจการวิทยุกระจายเสียง วิทยุโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม พ.ศ.2543 มาตรา 11 ซึ่งระบุห้าม กสช. เป็นข้าราชการซึ่งมีตำแหน่งหรือเงินเดือนประจำ เป็นพนักงานหรือลูกจ้างของหน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจหรือของราชการส่วนท้องถิ่น, ห้ามเป็นกรรมการ หรือที่ปรึกษาของ รัฐวิสาหกิจหรือของหน่วยงานของรัฐ , ห้ามดำรงตำแหน่ง หรือเป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนบริษัท หรือองค์การที่ดำเนินธุรกิจหรือดำเนินการในด้านสื่อ สารมวลชนหรือโทรคมนาคม รวมถึงห้ามประกอบอาชีพหรือวิชาชีพอิสระอื่นใดที่มีส่วนได้เสียหรือมีผลประโยชน์ขัดแย้งไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อมกับการปฏิบัติหน้าที่ ในตำแหน่งกรรมการ กสช. (http://www.kodmhai.com/m4/m4-21/N1/m6-31.html)


 


ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา เลขาธิการคณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) กล่าวกับประชาไทว่า ครป. เตรียมยื่นคำร้องต่อศาลปกครองกรณีการสรรหา กสช. เป็นไปโดยไม่โปร่งใสและไม่เคารพคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในช่วงเช้าวันที่ 7 ตุลาคมนี้


 


โดยนายสุริยะใส ระบุว่า คำร้องที่จะร้องต่อศาลปกครองนั้นมี 2 ส่วนคือ คำร้องเพี่อให้ศาลปกครองมีคำสั่งบังคับให้คำพิพากษาของศาลปกครองมีผลบังคับ กรณีที่ศาลปกครองสูงสุดเคยพิพากษาว่า พล.ท.สุนทร โสภณศิริ กรรมการสรรหา กสช. มีส่วนได้เสียในทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับผู้สมัคร 2 คน คือ พล.อ.ธงชัย เกื้อสกุล และ นางสุพัตรา สุภาพ เพื่อให้ศาลปกครองออกคำสั่งไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการสรรหา ให้ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด


 


ส่วนที่ 2 คือ จะฟ้องสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งคณะกรรมการสรรหา ข้อหาปล่อยปละละเลยไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดที่พิพากษาออกมาว่าการมีส่วนได้ส่วนเสียในทางธุรกิจระหว่างกรรมการสรรหา กับผู้สมัคร กสช. นั้นถือเป็นเหตุร้ายแรง


 


นายสุริยะใสอธิบายต่อไปว่า กระบวนการสรรหา กสช. ต้องไม่มีภาพ หรือมีส่วนได้เสียระหว่างกรรมการสรรหากับผู้สมัคร แต่เมื่อสรรหาใหม่ ปรากฏว่ากรรมการสรรหาก็ไม่ได้นำหลักที่ศาลปกครองพิพากษามาเป็นกรอบ มาเป็นหลักการสำคัญเพื่อให้การสรรหาเกิดความโปร่งใส


 


"ไม่ใช่เรื่องตัวบุคคลนะครับ ที่เราร้องศาลปกครอง เพราะเรารับไม่ได้กับกระบวนการสรรหาที่นอกจากจะเป็นการท้าทายต่อคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดแล้ว ผมถือว่าเป็นการท้าทายต่อประชาชนทั่วไปด้วย เพราะเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนเป็นเรื่องที่สังคมรังเกียจมาก และศาลเองก็มีคำพิพากษา ฉะนั้นในทางปฏิบัติ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องระวังไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้น


 


"แต่ปรากฏว่ากระบวนการสรรหาครั้งใหม่ กลับเกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอย่างโจ๋งครึ่ม เราถึงปล่อยให้ระบบแบบนี้มันเกิดความชอบธรรมหรือมันไปประทับให้คนนั้นคนนี้ให้เป็น กสช. อย่างนั้นไม่ได้นะครับ แต่เราจะไม่สนใจว่า 7 คนจะเป็นใครอะไรอย่างไร แต่ถ้ากระบวนการสรรหา กระบวนการได้มาไม่ชอบแล้ว ผมคิดว่ามันก็ต้องมาเริ่มกันใหม่" นายสุริยะใส กล่าว


 


 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ผู้จัดการออนไลน์ - "ธงชัย เกื้อสกุล" นั่งประธาน กสช.ตามโผ-ขยับรื้อคลื่นความถี่


http://www.manager.co.th/Politics/ViewNews.aspx?NewsID=9480000137512


 


 


 


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net