ประชาไท- 7 ต.ค. 48        บึม! ใกล้ตัว "ทักษิณ" เข้าไปทุกที ลูกแรกคลาดกันไป 5 นาที โดยขบวนผ่านไปก่อน ลูกหลังซ้ำที่ร้านลาบห่างโรงแรมรอยัลปริ้นเซส จ.นราธิวาส ที่พักนายกฯ เพียง 2 กิโลเมตร ส่งผลให้นักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และทีมงานได้รับบาดเจ็บหลายราย ส่วน "ทักษิณ" ยังเหนียว เพราะอยู่ระหว่างเตรียมตัวในห้องพัก ก่อนจะไปเข้าเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พรบรมราชินีนาถ ที่พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ในช่วงเย็น

วันที่ 7 ต.ค. เหตุการณ์ระเบิดดังกล่าวเกิดที่ร้านลาบเจ๊สาว เวลาประมาณ 15.20 น. ห่างโรงแรมรอยัลปริ้นเซส จ.นราธิวาส ที่พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะรวมทั้งสื่อมวลชนที่ติดตามไปทำข่าวพักระหว่างการลงพื้นที่สามจังหวัดภาคใต้ไม่เกิน 2 กิโลเมตร ส่งผลให้นักข่าวสถานีโทรทัศน์ช่อง 7 และทีมงานได้รับบาดเจ็บหลายราย

จากการสอบสวนผู้เห็นเหตุการณ์ พบว่าก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้ขี่มอเตอร์ไซด์วนเวียนอยู่ด้านหน้าร้านหลายรอบ ก่อนจะขว้างระเบิดเข้ามาภายในร้าน ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้เข้าเคลียร์พื้นที่ ตรวจสอบที่เกิดเหตุแล้ว ส่วนผู้สื่อข่าวและทีมงานที่ได้รับบาดเจ็บได้ถูกนำตัวเข้า โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 08.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์คนร้ายวางระเบิดแสวงเครื่องน้ำหนักประมาณ 5 กิโลกรัม จุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือที่ต้องสงสัยว่ามุ่งเป้าขบวนรถยนต์ของนายกรัฐมนตรีและคณะ ระหว่างการเดินทางกลับจากบ้านของนายรอมลี อุตรสินธุ์ พี่ชายนายอารีเพ็ญ อุตรสินธุ์ ในพื้นที่ อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส  เพื่อไปเยี่ยมชาวบ้านในพื้นที่  ต.ตันหยงลิมอ  อ.ระแงะ จ.นราธิวาส แต่ระเบิดดังกล่าวได้ระเบิดขึ้นบริเวณป้ายบอกสัญญาณจราจร ปากทางเข้ามัสยิดดารุลฮูดา  ริมถนนสายจารุเสถียร  หมู่ที่ 9  บ้านตลิ่งสูง  ต.สุไหงปาดี  อ.สุไหงปาดี  จ.นราธิวาส หลังจากที่ขบวนรถยนต์ของคณะนายกฯ เดินทางผ่านไปแล้วประมาณ 5นาที

จากเหตุการณ์ระเบิดในครั้งนี้ทำให้ ด.ต.นุ่ม  สมบูรณ์เกื้อ อายุ 47 ปี  ตชด.กองร้อยที่ 447  บ้านเจาะวา  ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 นาย ในขณะกำลังตัดหญ้าอยู่ริมถนนเพื่อทำความสะอาดในช่วงเดือนถือศีลอด  และถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงปาดีแล้ว และต้องส่งต่อไปรักษาที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก  เนื่องจากมีอาการสาหัส 

จากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ พบว่า เพื่อป้องกันการลอบวางระเบิดจุดชนวนด้วยโทรศัพท์มือถือ จึงมีการตัดสัญญาณโทรศัพท์ในทุกๆ จุดที่คณะของนายกฯจะผ่านไป ทำให้คณะของนายกฯรอดพ้นจากเหตุระเบิดดังกล่าวไปได้อย่างหวุดหวิด

สำหรับภารกิจของนายกรัฐมนตรีและคณะในวันนี้ ช่วงเช้าได้ร่วมรับประทานอาหารเช้ากับข้าราชการในพื้นที่ที่วัดเจาะไอร้อง อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส จากนั้นจึงได้เดินทางไปที่ อ.สุไหงปาดี เพื่อไปที่บ้านของนายรอมลี อุตรสินธุ์ ผู้ต้องหาคดีก่อความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ แต่พบว่าไม่มีใครอยู่ที่บ้านได้ฝากบอกกับญาตินายรอมลีให้บอกนายรอมลีว่าให้กลับมามอบตัว และรับปากว่าจะให้ความเป็นธรรมอย่างเต็มที่

จากนั้นคณะของนายกรัฐมนตรีจึงเดินทางต่อไปที่บ้านตันหยงลิมอ ม.7 อ.ระแงะ จ.นราธิวาส โดยมีชาวบ้านประมาณ 300 คน มาให้การต้อนรับซึ่งนายกรัฐมนตรีได้พูดคุยกับชาวบ้านตันหยงลิมอ พร้อมกับซักถามเหตุการณ์ในวันที่มีการสังหารเจ้าหน้าที่ทหารนาวิกโยธินเสียชีวิต 2 นาย แต่ชาวบ้านปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

จากนั้นคณะของนายกรัฐมนตรีจึงได้ออกเดินทางจาก จ.นราธิวาส สู่ จ.ปัตตานี เพื่อติดตามความคืบหน้าการทำบัตรสมาร์ทการ์ดแจกจ่ายให้แก่ประชาชนในพื้นที่ ก่อนที่จะกลับที่พักเพื่อเตรียมตัวเข้าเฝ้าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ที่โรงแรมรอยัลปริ๊นเซส