ลำพูน-7 ต.ค.48               สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือบุกห้องผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน  จี้ให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินที่มีปัญหายืดเยื้อมายาวนาน  หลังจากเคยยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเมื่อ 4  เดือนที่แล้ว  แต่กลับหายเงียบ  ขู่หากมิได้คำตอบภายใน 7 วัน จะชุมนุมประท้วงใหญ่อย่างแน่นอน  ขณะที่ ผวจ.ลำพูน รับปากจะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหาทางออกร่วมกันโดยเร็วที่สุด

วันนี้( 7 ต.ค.) กลุ่มสหพันธ์เกษตรภาคเหนือ และเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ(สกน.) และจังหวัดลำพูนได้เข้าไปยื่นหนังสือเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ไขการถือครองที่ดินและการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกไปโดยมิชอบฯ ต่อนายอุดม  พัวสกุล  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน 

สาระของหนังสือโดยสรุประบุว่า ตามที่กลุ่มสหพันธ์เกษตรภาคเหนือ และเครือข่ายประชาชนภาคเหนือ(สกน.) ได้ยื่นหนังสือถึง พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี  เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.48  ที่บ้านปางแดง อ.ดอยสะเก็ด  จ.เชียงใหม่  และต่อมาในวันที่ 13 มิ.ย.2548  ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ที่ กิ่ง อ.ดอยหล่อ  จ.เชียงใหม่

ซึ่งในหนังสือที่ยื่นถึง พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี  ก่อนหน้านั้น  ได้เสนอข้อเรียกร้องให้

รัฐบาลเร่งดำเนินการแต่งตั้ง และมีการประชุมคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาของกลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือฯ  กรณีปัญหาการถือครองที่ดินและการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกไปโดยมิชอบ  เพื่อเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว 

โดยทางตัวแทนชาวบ้าน  ขอให้รัฐบาลและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินและเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกโดยไม่ชอบในพื้นที่บ้านดงขี้เหล็ก ม.5 ต.ศรีเตี้ย  บ้านหนองสูน ม.1 บ้านท่ากอม่วง ม.3  และบ้านหนองเขียด ม.4 ต.หนองปลาสวาย อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน โดยเร็วที่สุด 

เนื่องจากผลการ สรุปผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินและการเพิกถอนเอกสารสิทธิที่ออกไปโดยมิชอบฯ ในเขตพื้นที่ อ.บ้านโฮ่ง  จ.ลำพูน  ที่นายจาดุร  อภิชาตบุตร  ประธานอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดินฯ จ.ลำพูน ได้นำเสนอต่อ พลเอกชวลิต  ยงใจยุทธ  รองนายกรัฐมนตรี  ในฐานะประธานกรรมการติดตามการแก้ไขปัญหากลุ่มสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือฯ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.47  ที่ผ่านมา  ได้สรุปออกมาชัดเจนว่า กรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงการออกเอกสารสิทธิในที่ดิน  เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องและรับผิดชอบในการออกเอกสารสิทธิดังกล่าว  โดยเห็นว่า  การดำเนินการของเจ้าหน้าที่บางส่วนมีเจตนาและพัวพันกับกระบวนการทุจริตในหน้าที่ พร้อมกับเสนอให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) เข้ามาสอบอีกด้วย

ตัวแทนเกษตรกร  ได้เรียกร้องอีกว่า  ขอให้รัฐบาลดำเนินการจำหน่าย หรือยกเลิกคดีที่มีการจับกุมตั้งข้อหา  ดำเนินคดีเกษตรกรในเขตภาคเหนือทั้งหมดกว่า 1,000 คดี และที่เป็นผู้ต้องหาทั้งหมด 146 ราย ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่และลำพูน  ซึ่งล้วนเกิดจากความผิดพลาดจากนโยบายของรัฐ กรณีปัญหาการแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน ทั้งสิ้น  นอกจากนั้น  ตัวแทนเกษตรกร  จ.ลำพูน  ยังได้ขอให้รัฐบาลเร่งรัดให้มีการปฏิรูปที่ดินนำร่อง  27  พื้นที่ ใน 3 จังหวัด ได้แก่ เชียงใหม่  เชียงราย และ ลำพูน 

ผู้ว่าฯ ขอดูรายละเอียด

นายอุดมกล่าวภายหลังรับเรื่องว่า จะรับข้อเรียกร้องที่ทาง สกน. ที่ขอให้รัฐบาลเร่งช่วยแก้ปัญหาโดยการตั้งคณะกรรมการคณะทำงานแก้ไขปัญหาการถือครองที่ดิน  ทั้งนี้จะต้องขอศึกษาดูความคืบหน้าของกระบวนการแก้ไขปัญหาที่ผ่านมาก่อนว่าไปถึงไหนแล้ว  หลังจากนั้นจะได้เชิญหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรวมทั้งชาวบ้านมานั่งพูดคุยร่วมกันอีกครั้ง   แต่ไม่อยากให้มีการขีดเส้นเวลาในการแก้ปัญหา

นายรังสรรค์  แสนสองแคว  ตัวแทนเกษตรกร  กล่าวหลังเข้าเจรจาว่า  สิ่งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดออกมาพูด  โดยรับปากว่าจะเรียกหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องมาประชุมเพื่อหาทางออกร่วมกันนั้น  อาจเป็นการยื้อเวลา  เพื่อไม่ให้ชาวบ้านออกมาเคลื่อนไหวกดดันรัฐบาลเพียงเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม  หากในวันที่ 14 ต.ค.นี้  หากผลการเจรจาไม่เป็นที่พอใจ  ทางกลุ่มชาวบ้านจะออกมาชุมนุมใหญ่กันอีกครั้งอย่างแน่นอน

ด้าน นายสุริยันต์  ทองหนูเอียด  กองเลขาสหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือฯ  จริงๆ  แล้ว  ปัญหาดังกล่าวนั้นถึงมือนายกรัฐมนตรีตั้งนานแล้ว  แต่ปัญหาอยู่ที่ว่านโยบายของรัฐบาลไม่ได้ให้ความสำคัญ  ซึ่งในขณะนี้  เราจะดำเนินการตามขั้นตอนก่อน

"โดยในวันที่ 14 ต.ค.นี้  เราจะไปยื่นหนังสือถึงนายสุวัฒน์  ตันติพัฒน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กันอีกครั้ง  หากยังไม่มีความคืบหน้า  ก็จำเป็นจะต้องออกมาชุมนุมใหญ่ที่หน้าศาลากลางจังหวัดลำพูน  เพื่อเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลลงมาแก้ไขปัญหานี้ให้เร็วที่สุด"