วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม 2005 16:58น.
ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย
หลังจากรอบสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มผู้ก่อความไม่สงบได้ก่อเหตุขึ้นในหลายพื้นที่ ทั้งการฆ่าพระ และเผากุฏิพระวัดพรหมประสิทธิ์ อ.ปานาเระ จ.ปัตตานี ลอบวางระเบิดขบวนรถไฟลำเลียงยุทโธปกรณ์และกำลังพล ที่ อ.เมือง จ .ยะลา วางระเบิดป้อมควบคุมแผงกั้นทางรถไฟที่ ต.นาประดู่ อ.โคกโพธิ์ จ.ปัตตานี และการลอบวางระเบิดด้านหน้าสำนักงานพาณิชย์จังหวัดยะลา ล่าสุดหน่วยงานด้านความมั่นคงประเมินว่ากลุ่มเยาวชนเบอร์ซาตู ได้เตรียมก่อเหตุอีกระลอกในช่วงปลายเดือนตุลาคมนี้
ทั้งนี้รายงานข่าวของหน่วยงานด้านความมั่นคงระบุว่า กลุ่มเยาวชนดังกล่าววางแผนกก่อเหตุในหลายลักษณะ อาทิ ใช้อาวุธสงครามยิงถล่มฐานปฏิบัติการณ์ของเจ้าหน้าที่ สถานีตำรวจยุทธศาสตร์ต่างๆที่อยู่ในพื้นที่ล่อแหลม หมู่บ้านและชุมชนไทยพุทธ ใช้กองกำลังกลุ่มเยาวชนเบอร์ซาตูลอบเผาและวางเพลิงสถานที่ราชการ สถานีอนามัย โรงเรียน และวัด ซึ่งชุดดังกล่าวได้แบ่งกำลังออกเป็น 2 ส่วน คือชุดโปรยตาปูเรือใบ เผายางรถยนต์ขวางถนน และชุดโค่นต้นไม้ขวางถนน เพื่อถ่วงเวลาการไล่ล่าของเจ้าหน้าที่กองกำลัง และชุดรถจักรยานยนต์ตระเวนวางยาเบื่อสุนัขที่เฝ้าอยู่ตามสถานที่ราชการต่างๆ ก่อนชุดใหญ่จะมาลงมือ
โดยล่าสุดกลุ่มเยาวชนเบอร์ซาตู อย่างน้อย จำนวนกว่า 80 คน พร้อมปฏิบัติการแล้ว โดยเข้ามาฝังตัวอยู่ในพื้นที่อ.สุไหงปาดี,อ.ระแงะ อ.ตากใบ อ.เมือง และ อ.สุไหงโก-ลก เพื่อรอคำสั่งการของแกนนำ
ขณะที่หน่วยงานของทางราชการต่างๆ ได้เพิ่มความเข็มงวดขึ้นในการตรวจตรารถยนต์ รถจักรยานยนต์ทุกคันที่เข้ามาติดต่อในสถานที่ราชการต่างๆ โดยหลายแห่งกำหนดให้จอดรถทิ้งไว้นอกอาคาร หรือห่างอย่างน้อย
พล.ต.
สำหรับในช่วงครบรอบ 1 ปี เหตุการณ์สลายการชุมนุมที่หน้าสภ.อ.ตากใบ จ.นราธิวาส ในวันที่ 25 ตุลาคมนี้ พล.ต.พงษ์ศักดิ์กล่าวว่า หน่วยข่าวกำลังติดตามความเคลื่อนไหว และสถานการณ์ต่างๆ อยู่ เพื่อความไม่ประมาท เพราะอะไรก็สามารถเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
"กรณีที่มีข่าวกลุ่มเยาวชนหรือเปอมูดอเตรียมจะก่อเหตุนั้น ฝ่ายข่าวก็มีการติดตามความเคลื่อนไหวมาโดยตลอด ซึ่งฝ่ายเขาก็เตรียมหาโอกาสและจังหวะที่จะก่อเหตุอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว โดยมีการใช้จ้างวานจากฝ่ายที่เป็นแกนนำ ซึ่งถือเป็นเนื่องปกติ เรามีหน้าที่จะต้องจับตาและเฝ้าระวังมิให้ลงมือก่อเหตุได้สำเร็จ เพื่อความไม่ประมาท" เลขาฯ กอ.สสส.จชต.กล่าว
นาย
ผู้ว่าฯ ยะลา ระบุว่า ในอนาคตทางกระทรวงมหาดไทยจะมีการเพิ่มจำนวนสมาชิกอาสาสมัคร และให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านเป็นสมาชิกกองอาสารักษาดิน แดนด้วย จะให้มีหมู่บ้านละ 5 คน และจะเร่งการฝึกอบรมเพื่อทบทวนการปฏิบัติหน้าที่ ให้กับชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านที่มีอยู่ รวมถึงการปลุกลูกเสือชาวบานจะมีการปรับหลักสูตรให้สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชาวไทยมุสลิม
"ส่วนการรับมือในเขตเทศบาลยะลา เรามีการประเมินการเคลื่อนไหวอยู่เป็นระยะ ที่สำคัญเรามีชุดจู่โจมที่พร้อมปฏิบัติการทุกเวลา"ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลากล่าว
เขายังกล่าวอีกว่า ขณะนี้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบไม่ต้องการสมานฉันท์ด้วย ใช้ความเหี้ยมโหดทำทารุณกับผู้บริสุทธิ์ทั้งชาวไทยพุทธ และชาวไทยมุสลิมจึงให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาให้มากก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ เพราะลำพังเจ้าหน้าที่เพียงฝ่ายเดียวไม่ได้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)