Skip to main content
sharethis

 



บีบีซี ออนไลน์- องค์กรยูนิเซฟ ระบุภายในปี 2010 (พ.ศ.2553) จะมีเด็กที่อาศัยในดินแดน ซับ-ซาฮารา อัฟริกา กำพร้าจากเอดส์มากถึง 18 ล้านคน


 


ยูนิเซฟยังกล่าวด้วยว่า ในทุกๆ 1 นาที จะมีเด็ก 1 คนติดเชื้อเอชไอวี และจะมีเด็กอีกหนึ่งคนเสียชีวิตด้วยโรคที่เกี่ยวเนื่องกับเอดส์ และเด็กๆ นั้นมักถูกมองข้ามไปในโครงการทำงานเพื่อต่อสู้กับเอดส์ในระดับโลก


 


ยูนิเซฟกล่าวว่า มีเด็กติดเชื้อเพียงร้อยละ 5 เท่านั้นที่ได้รับการช่วยเหลือทางการแพทย์ และมีเด็กน้อยกว่าร้อยละ 10 ของเด็กกำพร้าจากเอดส์ที่มีอยู่แล้วในขณะนี้ 15 ล้านคนได้รับการสนับสนุนทางด้านการเงิน


 


แอน เวเนแมน ผู้อำนวยการบริหารของยูนิเซฟกล่าวว่า เด็กเป็น "หน้าที่มองไม่เห็น" ของโรคที่มองเห็นได้และมักถูกลืมให้ความช่วยเหลือชนิดเดียวกับที่ผู้ใหญ่ได้รับ


 


"มันสำคัญมากที่โลกจะรวมตัวกันเพื่อเด็กและรวมตัวกันเพื่อต่อสู้เอดส์ ขนาดของปัญหาใหญ่อย่างไม่น่าเชื่อ ทว่า การสนองตอบต่อปัญหากลับไม่เพียงพอ" แอนกล่าว


 


ปีนี้ทางยูนิเซฟได้ริเริ่มการรณรงค์ระดับที่ใช้คำเรียกว่า "รวมพลังเพื่อเด็ก รวมพลังต้านเอดส์" (Unite For Children Unite Against AIDS) ขึ้นโดยที่จะพุ่งเป้าหมายหลักไปที่ อัฟริกา แต่ก็จะตั้งเป้าเอาไว้สำหรับเอเชียกลางและยุโรปตะวันออกด้วย


 


การรณรงค์ดังกล่าวนี้จะเฉพาะเจาะจงไปที่เรื่องของการป้องกันการติดเชื้อจากแม่สู่ลูก การให้ความรู้กับคนหนุ่มสาวถึงการป้องกันตนเอง และเพื่อให้มั่นใจว่า เด็กที่ติดเชื้อเอชไอวีจะได้รับการดูแลทางการแพทย์เท่าที่มีความจำเป็น


 


ถึงแม้ว่าโครงการจะเจาะจงไปที่อัฟริกา แต่ทางยูนิเซฟกล่าวว่า ร้อยละ 80 ของผู้ติดเชื้อทั้งหมดที่อยู่ในเอเชียกลางและยุโรปตะวันออกนั้นก็มีอายุต่ำกว่า 30 ปี และอัตราการติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่าที่ใดๆ ในโลก


 


ผู้สื่อข่าวบีบีซีประจำอัฟริกา ตะวันออก แคเร็น อัลเล็น กล่าวว่า ยูนิเซฟกำลังใช้เคนยาเป็นประเทศที่เป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นถึงสิ่งที่ยูนิเซฟพูดเกี่ยวกับเรื่องของการละเลยเด็กมานานไม่ว่าจะเป็นเด็กติดเชื้อหรือเด็กที่ได้รับผลกระทบจากเอดส์


 


แอนกล่าวว่า การรณรงค์นี้เพื่อเรียกร้องเงินทุนอุดหนุน ค่าเล่าเรียน ค่าอาหาร ที่พัก และเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตให้กับเด็กและเยาวชนที่อาจจะถูกบังคับให้ค้าประเวณีหรือก่ออาชญากรรมได้


 


ไนเซียเด็ต มาซัน ที่ปรึกษายูนิเซฟประจำไนโรบี ซึ่งเป็นแม่ติดเชื้อที่มีลูกสองคนกล่าวว่า การรณรงค์แบบเดิมๆ สิ้นสุดไปนานแล้ว


 


"เวลาสำหรับเกมการตำหนินั้นจบลงไปแล้ว เรากำลังเรียกร้องขอความร่วมมือร่วมใจ จากตั้งแต่รัฐบาลลงไปถึงทุกระดับ" มาซันกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์


 


"วันที่ฉันถูกว่าติดเชื้อเอชไอวีนั้น ฉันรู้สึกมึนงงและโดดเดี่ยว เราจะต้องสร้างเครือข่าย ขจัดการตีตราออกไป และจัดหายามาใช้ เราต้องการให้การรักษาเอชไอวีเป็นเช่นเดียวกับโรคอื่นๆ เพราะเรารู้ว่ามันจัดการได้" มาซันกล่าว


 


--------------------------------------------


ที่มา : http://news.bbc.co.uk/1/hi/world/africa/4373576.stm


 


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net