Skip to main content
sharethis

 



ประชาไทคัดสรร - ไทยโพสต์ 31 ตุลาคม 2548 - โผใบสั่งล็อบบี้เก้าอี้ 9 ป.ป.ช.คลอดแล้ว ก่อนวุฒิสภาลงมติเลือกอังคารนี้ ล้วนคนสนิทใกล้ชิดสายรัฐบาล กรรมาธิการสอบประวัติทางลับพบผู้พิพากษาศาลฎีกาพี่ชาย ส.ส.ไทยรักไทยแต่คนละนามสกุลเข้ารอบด้วย "ดรุณ" ตัวเก็งว่าที่ประธาน ป.ป.ช.ยอมรับ "ทักษิณ"  คือศิษย์คนโปรดสมัยอยู่นายร้อยสามพราน  ภูมิใจปั้นมากับมือ  อัดวุฒิฯ ใจแคบซักอยู่ได้ ถามกลับรู้จักนายกฯ  ที่เสียสละเพื่อชาติผิดตรงไหน!  "ทองใบ" เตือนคิดให้ดีก่อนลงมติ อย่าให้ประชาชนโห่ "สภาโหลยโท่ย"


 


การประชุมวุฒิสภาในวันอังคารที่  1  พฤศจิกายนนี้  มีวาระสำคัญที่ต้องจับตามองอย่างยิ่ง ก็คือการประชุมลับเพื่อลงมติเลือกคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชุดใหม่ 9  คน จากรายชื่อที่ส่งมาให้วุฒิสภาคัดเลือก 18 คน ท่ามกลางกระแสข่าวที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากต่างวิพากษ์วิจารณ์กันตลอดช่วงหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าฝ่ายการเมืองได้มีการล็อกโผว่าที่  ป.ป.ช.ชุดใหม่ทั้ง 9 คนไว้เรียบร้อยแล้ว


 


นายทองใบ  ทองเปาด์ ส.ว.มหาสารคาม ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการวิสามัญตรวจสอบประวัติและความประพฤติของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็น ป.ป.ช. วุฒิสภา เปิดเผยว่า นายสุชน  ชาลีเครือ  ประธานวุฒิสภา ได้บรรจุวาระเรื่องการเลือก ป.ป.ช.ชุดใหม่เป็นวาระเร่งด่วนในการประชุมวุฒิสภาวันที่ 1 พ.ย.นี้  ซึ่งจากการเปิดโอกาสให้ประชาชนและองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ส่งข้อมูลประวัติและความประพฤติของผู้ผ่านการคัดเลือกเป็น ป.ป.ช.ทั้ง 18 คนมาให้กรรมาธิการ


 


ปรากฏว่ามีผู้ถูกร้องเรียนทั้งสิ้น 12 คน โดยมีการร้องเรียนและการส่งข้อมูลมาให้กรรมาธิการทั้งเรื่องการครอบครองทรัพย์สินจำนวนมาก ทั้งเงินฝากธนาคารและที่ดิน,  การร้องเรียนเรื่องสมัยเป็นกรรมการสอบทุจริตในหน่วยงาน ปรากฏว่าตัดสินผิดพลาด รวมทั้งการทำสัญญากับเอกชนที่เอื้อประโยชน์กับเอกชน ทำให้รัฐได้รับความเสียหาย, การใช้ทรัพย์สินของรัฐมาหาเสียงกับวุฒิสภาเพื่อล็อบบี้ให้ได้รับเลือกเป็น ป.ป.ช, การยักยอกเงินฝากในองค์กรไปฝากกับองค์กรอื่นที่กระทรวงการคลังไม่ค้ำประกันความเสี่ยง  ซึ่งกรรมาธิการก็ได้เรียกผู้ถูกร้องเรียนมาชี้แจง ซึ่งบางคนก็ชี้แจงได้บางประเด็น แต่บางประเด็นก็มีเอกสารราชการที่แสดงให้เห็นความผิดชัดเจน


 


"ข้อมูลทั้งหมดจะอยู่ในรายงานลับซึ่งผมจะชี้แจงประวัติแต่ละคนอย่างละเอียด ตั้งแต่การตรวจสอบข้อร้องเรียนกับหน่วยราชการต่างๆ  การเรียกผู้สมัครมาชี้แจงข้อกล่าวหาต่อที่ประชุมและเอกสารลับต่างๆ  แต่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมเองว่าจะตัดสินใจอย่างไร  ผมคิดว่าวุฒิสภาจำเป็นต้องเลือก ป.ป.ช.ชุดใหม่ทั้ง  9 คนให้แล้วเสร็จในวันอังคารนี้ เพราะเราจำเป็นต้องมี ป.ป.ช.มาสะสางปัญหาทุจริตที่มีมากเหลือเกินตอนนี้  แต่การเลือกต้องเลือกโดยอิสระ  ที่ผ่านมาวุฒิสภาชุดเรามีข่าวมาตลอดว่ามีการล็อบบี้เลือกองค์กรอิสระ  แต่ผมยังเชื่อว่าพวกเราเป็น ส.ว.ที่มีวุฒิภาวะจะไม่ทำเช่นนั้น เราต้องรักษาเกียรติของเราไว้  เพราะไม่เช่นนั้นก็เป็นสภาโหลยโท่ยที่ไม่มีสำนึก  ป.ป.ช.เป็นเรื่องใหญ่เกินกว่าที่จะมานั่งเลือก เพราะเห็นว่าเป็นญาติหรือเป็นเพื่อนกับคนรู้จักกัน ตรงนี้ต้องตัดออกไปให้ได้ แต่ถ้ายังเลือกเพราะถูกล็อบบี้ก็ถือว่าเป็นเวรเป็นกรรมของประเทศที่ไม่รู้จะพูดอย่างไรแล้ว" นายทองใบระบุ


 


รายงานข่าวจากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาตรวจสอบประวัติและความประพฤติของผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นกรรมการ ป.ป.ช. ที่มีนายทองใบ  ทองเปาด์ เป็นประธาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรรมาธิการได้จัดทำรายงาน "ลับที่สุด" เพื่อชี้แจงต่อที่ประชุมวุฒิสภาถึงผลการตรวจสอบประวัติ ทั้งกับหน่วยงานราชการต่างๆ รวมทั้งผลการตรวจสอบข้อร้องเรียนที่กรรมาธิการเปิดโอกาสให้ประชาชนส่งข้อมูลมาให้กรรมาธิการ


 


โดยรายชื่อทั้ง  18  คนดังกล่าวที่ประกอบด้วย 1.พล.ต.ท.วันชัย  ศรีนวลนัด  ผู้ช่วย ผบ.ตร. 2.นายคัมภีร์  แก้วเจริญ  อดีตอัยการสูงสุด 3.นายประเสริฐ เขียนนิลศิริ ผู้พิพากษาอาวุโสศาลเยาวชนจังหวัดขอนแก่น  4.นายศิวะ  แสงมณี  อดีตอธิบดีกรมการปกครอง 5.นายไสว จันทะศรี อดีตรองประธานศาลฎีกา  6.นายภักดี  โพธิศิริ  เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา 7.นายสุรพล  เอกโยคยะ ผู้พิพากษาศาลฎีกา 8.นายประวิตร วงษ์สุวรรณ อดีตผู้บัญชาการทหารบก


 


9.นายสมศักดิ์  แก้วสุทธิ  ผู้ตรวจราชการกระทรวงมหาดไทย และอดีตผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา  10.นางแน่งน้อย    นคร อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  11.นายสมโภชน์  กาญจนาภรณ์  รองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ 12.พล.อ.พิชาญเมธ  ม่วงมณี  รองแม่ทัพภาคที่  3  13.นายสันติ บางอ้อ รองเลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  14.นายภิรมย์  สิมะเสถียร รองปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 15.พล.ต.อ.ดรุณ  โสตถิพันธุ์  อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. 16.พล.อ.เกษมชาติ นเรศเสนีย์ อดีตประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม 17.นางสัจจา ศศะนาวิน  รองผู้ว่าการสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน  18.นายกุลพัชร์ อิทธิธรรมวินิจ ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา


 


รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัติในทางลึกของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง 18 คน พบว่ามีผู้ที่ไม่ถูกร้องเรียนประวัติและความประพฤติ รวมทั้งมีประวัติการรับราชการที่ดีจนไม่ถูกกรรมาธิการตรวจสอบประวัติซักถาม ปรากฏว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อจากสายตุลาการ คือ  นายประเสริฐ  เขียนนิลศิริ, นายไสว  จันทะศรี, นายสุรพล เอกโยคยะ, นายกุลพัชร์ อิทธิธรรมวินิจ ไม่ถูกร้องเรียนแม้แต่เรื่องเดียว คงมีเพียงนายสุรพล เอกโยคยะ เท่านั้นที่กรรมาธิการได้ข้อมูลมาว่าเป็นพี่น้องกับนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ และประธานคณะกรรมาธิการการคมนาคม สภาผู้แทนราษฎร จากพรรคไทยรักไทย ซึ่งกรรมาธิการได้ทำการซักถามนายสุรพลถึงความสัมพันธ์กับนายวิชิตว่าเป็นอย่างไร


 


โดยนายสุรพลก็ยอมรับกับกรรมาธิการว่าเป็นพี่น้องกับนายวิชิตจริง  แต่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องใดๆ ต่อกันในเรื่องการทำงาน  แต่สาเหตุที่นามสกุลไม่เหมือนกัน เพราะเป็นเรื่องทางข้อกฎหมายในช่วงมีการเปลี่ยนนามสกุลจากแซ่มาเป็นนามสกุลไทย


 


นอกจากนี้ กรรมาธิการยังพบว่าผู้ได้รับการเสนอชื่อที่ไม่ถูกร้องเรียนประวัติและความประพฤติ นอกจากสายตุลาการแล้วยังมี พล.อ.เกษมชาติ  นเรศเสนีย์, นางสัจจา  ศศะนาวิน, นายสมโภชน์ กาญจนาภรณ์, พล.อ.พิชาญเมธ  ม่วงมณี ที่ไม่ถูกร้องเรียนประวัติการทำงานและความประพฤติแม้แต่เรื่องเดียว


 


มีรายงานว่า ในการตรวจสอบประวัติทางลึกของผู้ได้รับการเสนอชื่อทั้ง  18 คน กรรมาธิการได้ทำการซักถามประวัติและความสัมพันธ์ทางการเมืองและทางธุรกิจของผู้ได้การเสนอชี่อทั้งหมด  โดยบุคคลที่กรรมาธิการติดใจและเตรียมชี้แจงต่อที่ประชุมถึงสายสัมพันธ์ทางการเมืองมีประมาณ 4-5 คน เช่น พล.ต.อ.ดรุณ  โสตถิพันธุ์  อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. แต่ได้ย้ายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรีก่อนเกษียณอายุราชการได้ไม่นาน จนได้ยศ พล.ต.อ. ซึ่งในที่ประชุม พล.ต.อ.ดรุณได้กล่าวยอมรับกับกรรมาธิการว่าเคยเป็นครูสอน พ.ต.ท.ทักษิณ   ชินวัตร  นายกรัฐมนตรี เมื่อครั้ง พ.ต.ท.ทักษิณยังเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจสามพราน และ พ.ต.ท.ทักษิณเป็นลูกศิษย์ที่ตนรักมากเป็นพิเศษ และ พ.ต.ท.ทักษิณก็เคารพนับถือตนมาตลอด ส่วนกรณีที่ขอย้ายจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ปรากฏว่ากรรมาธิการได้ทำการซักถามอย่างมากว่าเป็นการย้ายเพื่อเปิดทางให้ พล.ต.ท.เพรียวพันธ์  ดามาพงศ์  พี่ชายคุณหญิงพจมาน ได้ขยับขึ้นเป็นผู้ช่วย ผบ.ตร.ใช่หรือไม่ แต่ พล.ต.ท.ดรุณชี้แจงว่า สาเหตุที่ไปช่วยงานสำนักนายกรัฐมนตรีเพราะได้รับการทาบทามให้ไปช่วยงาน และเห็นว่าหากอยู่สำนักงานตำรวจแห่งชาติต่อไปจะไม่ได้เกษียณอายุราชการในตำแหน่ง พล.ต.อ. จึงตัดสินใจออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี


 


นอกจากนี้ กรรมาธิการยังได้ซักถามนางแน่งน้อย ณ นคร รองอธิบดีกรมศุลกากร ช่วยราชการสำนักงานนายกรัฐมนตรี ที่เคยมีข่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นญาติกับสมุห์บัญชีส่วนตัวของคุณหญิงพจมาน  ชินวัตร  ภริยานายกรัฐมนตรี  ถึงกรณีที่ขอย้ายตัวเองจากกรมศุลกากรไปช่วยราชการที่สำนักนายกรัฐมนตรี  ซึ่งนางแน่งน้อยกล่าวกับกรรมาธิการว่า เคยได้พบกับ พ.ต.ท.ทักษิณตอนที่ร่วมคณะไปเจรจาเรื่องการเปิดเสรีทางการค้าเอฟทีเอ  พ.ต.ท.ทักษิณจึงถามว่า "ทำงานที่กรมศุลกากรเป็นอย่างไรบ้าง" ซึ่งก็ได้ตอบไปว่า "รู้สึกเบื่อๆ" หลังจากนั้นไม่นานก็มีคำสั่งให้ไปช่วยราชการ เป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร


 


รายงานข่าวจากวุฒิสภาเปิดเผยว่า  สำหรับโผรายชื่อตัวเก็งว่าที่กรรมการ ป.ป.ช.ชุดใหม่ประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.ดรุณ โสตถิพันธุ์ อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. และอาจารย์ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร 2.พล.อ.ประวิตร  วงษ์สุวรรณ  อดีต ผบ.ทบ. ซึ่งเป็นพี่ชายของ พล.ต.ท.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ที่ล่าสุดขยับขึ้นจากผู้ช่วย ผบ.ตร.มาเป็นรอง ผบ.ตร. 3.นายศิวะ แสงมณี อดีตอธิบดีกรมการปกครอง 4.นางแน่งน้อย ณ นคร 5.พล.ต.ท.วันชัย ศรีนวลนัด ผู้ช่วย ผบ.ตร. และเพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่น 26 รุ่นเดียวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ  6.นายคัมภีร์ แก้วเจริญ  อดีตอัยการสูงสุด  7.นายประเสริฐ  เขียนนิลศิริ ซึ่งได้รับเลือกจากกรรมการสรรหา ป.ป.ช.ด้วยคะแนนเสียงสูงสุด 8.นายสุรพล เอกโยคยะ เป็นต้น


 


พล.ต.อ.ดรุณ  โสตถิพันธุ์   อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวว่า หากได้รับเลือกเป็นกรรมการ ป.ป.ช.จะเป็นตัวเก็งอันดับหนึ่งที่จะมาเป็นประธาน ป.ป.ช.คนใหม่  กล่าวให้สัมภาษณ์ยืนยันว่า การที่เขาลงสมัครเป็น ป.ป.ช.ครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับ พ.ต.ท.ทักษิณ  ชินวัตร เพราะในสังคมไทยทุกคนย่อมรู้จักกันได้ เป็นพี่เป็นน้องกันได้ ไม่ใช่เรื่องเสียหาย   และการที่ตนเคยสอนหนังสือ พ.ต.ท.ทักษิณ ก็อยากรู้เหมือนกันว่าเป็นความผิดมากนักหรือ และทำไมจะรู้จักกันไม่ได้


 


"การที่ผมรู้จักกับท่านนายกฯ ทักษิณมันผิดตรงไหน  ผมภูมิใจที่เคยสอนหนังสือให้ท่านนายกฯ ทักษิณร่ำรวยขนาดนี้ แต่ลงมาทำงานเพื่อชาติทุ่มเทเสียสละทำงาน คนแบบนี้หายาก ทำไมจะต้องมานั่งจับผิดกันว่าใครเคยรู้จักใครกันบ้าง  ตอนผมไปชี้แจงกรรมาธิการสอบประวัติผมก็ไม่เข้าใจทำไมกรรมาธิการบางคน อย่างนายเจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ถึงถามผมแต่เรื่องนี้ว่ารู้จักกับนายกฯ ทักษิณไหม ทำไมต้องมากีดกันคนทำงานเพียงเพราะเขารู้จักกันเท่านั้น  ผมก็แค่รู้จักกับนายกฯ ทักษิณ แต่เรื่องงานก็อีกเรื่องหนึ่ง ไม่เกี่ยวกัน ผมมีความรู้ความสามารถพอ เรียนจบปริญญาโท  3 ใบ ปริญญาเอกอีก 1 ใบ ทำไมจะทำงานไม่ได้" พล.ต.อ.ดรุณระบุ.

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net