Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis






 

 



 


เปิดฉาก


เสียงปรบมือและโห่ร้อง ไชโย! พร้อมรอยยิ้มดีใจดังลั่น บริเวณบันไดทางขึ้นศาลปกครองสูงสุด ถนนนราธิวาสฯ ช่วงบ่าย 2 โมงวานนี้ (15 พ.ย.) ภายหลังศาลปกครองสูงสุดมีคำสั่งระงับการกระจายหุ้นบริษัท กฟผ. จำกัด มหาชน (กฟผ.) ก่อนที่จะมีการเปิดให้ประชาชนจองหุ้นในวันนี้


 


"ตอนแรกฟังไม่เข้าใจนึกว่าศาลจะไม่ยุติธรรม จนสุดท้ายศาลบอกให้ระงับขายหุ้นชั่วคราวทำให้รู้สึกดีใจมาก" นางสมจิตร วิเชียร แม่ค้าข้าวแกงที่มาร่วมคัดค้านและได้เข้าร่วมรับฟังคำสั่งศาลในฐานะประชาชนคนหนึ่งถ่ายทอดให้เรารับรู้ถึงความรู้สึก


 


"พอได้ยินศาลพูดว่าระงับขายหุ้น ป้าก็ไข้ขึ้น น้ำตาไหล แล้วก็ตะโกนออกไปว่า "ชนะแล้ว!" แทรกในห้องพิจารณา ที่ผ่านมาป้าก็ร่วมรณรงค์ด้วยตลอดแม้จะไม่มีความรู้แต่จะคอยรับข้อมูลข่าวสารและแจกจ่ายต่อเพราะว่าเป็นแม่ค้าขายข้าวแกงอยู่ตลาดแถวเขตยานนาวาด้วย หลังจากนี้ก็พร้อมที่จะเข้าเป็นแนวร่วมทุกอย่างที่ทำได้ ไม่ว่าทุนหรือว่าประชาสัมพันธ์ ป้าจะเป็นสื่อปากต่อปากให้เอง" แม่ค้าข้าวแกง กล่าวด้วยรอยยิ้ม  


 


"การที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวในวันนี้แสดงถึงเป็นชัยชนะเบื้องต้นของภาคประชาชนที่ลุกขึ้นมาต่อสู้ เราได้ใช้กลไกการต่อสู้อย่างสันติวิธีเพื่อผลประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน อย่างน้อยความหวังที่ให้รัฐบาลรับฟังและพิจารณาก็ประสบความสำเร็จโดยสามารถหยุดยั้งการกระทำการที่ไม่ถูกต้องลงไปได้ อีกทั้งเรายังต้องตรวจสอบในเรื่องข้อมูลและเปิดเผยข้อมูลให้ศาลพิจารณาคำร้องของเราต่อไป" นางสาวรสนา โตสิตระกูล กรรมการสหพันธ์องค์กรผู้บริโภค กล่าวภายหลังออกมาจากห้องพิจารณาคดีที่ 2 ศาลปกครองสูงสุด


 


ตอนต่อไป


น.ส. รสนา กล่าวถึงการขยับก้าวต่อไปว่า จากนี้จะทำการตรวจสอบเรื่องของบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) ต่อไป เพราะที่ผ่านมาหลังแปรรูปไปแล้ว 4 ปี สิ่งที่เคยสัญญาว่าจะแก้ปัญหาเรื่องการผูกขาดและตั้งองค์กรอิสระขึ้นมากำกับดูแลก๊าซธรรมชาติ แต่จนวันนี้ ปตท.ยังไม่ทำอะไร ซึ่งก็ต้องศึกษาข้อกฎหมายต่อไปว่าในหนังสือชี้ชวนซื้อหุ้นนั้นเป็นการโฆษณาหลอกลวงผู้บริโภคหรือไม่ ซึ่งยังมีรายละเอียดอีกมาก


 


ด้านนางสาวสารี อ๋องสมหวัง ผู้จัดการมูลนิธิเพื่อผู้บริโภค กล่าวว่า ช่วงต่อจากนี้ต้องทำงานด้านข้อมูล ที่สำคัญมากยังต้องพยายามเผยแพร่ให้ประชาชนรับรู้ด้วย รวมทั้งร่วมมือกับองค์กรต่างๆ โดยจะยังคงมีการชุมนุมคัดค้านเช่นเดิม แต่จะเน้นในส่วนของการสนับสนุนข้อมูลมากขึ้น


 


ยัง....นี่ยังไม่ใช่ตอนจบ!!!


ถ้าเปรียบเป็นหนังสักเรื่อง คำตอบข้างต้นสะท้อนถึงชัยชนะในวันนี้ว่า ยังไม่ใช่ที่สุด และ....ชัยชนะในตั้งแต่ต้นเรื่องก็ไม่อาจจะเป็นตัวรับประกันว่า จะนำไปสู่ชัยชนะในตอนจบ....ศาลปกครองสูงสุดระบุเหตุผลให้ระงับการขายหุ้น กฟผ. ว่า ยังต้องพิจารณา พ.ร.ฎ.กำหนดอำนาจสิทธิและประโยชน์ของบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) พ.ศ.2548 และ พ.ร.ฎ.กำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 2548 นั่นหมายความว่า ในรายละเอียด....เราจึงยังต้องรอกันต่อไป


 


นายนคร ชมพูชาติ ทนายความ ในฐานะผู้รับมอบอำนาจเพื่อดำเนินการฟ้องร้องกล่าวว่า ในเบื้องต้นต้องรอให้รัฐบาลแก้คำฟ้อง ซึ่งต้องคอยดูเหตุผลของรัฐบาลต่อไป ซึ่งเมื่อวันที่14 พ.ย.ที่ผ่านมา นายวิเศษ จูภิบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานก็ได้ให้ข้อมูลไว้ระดับหนึ่งแล้ว และเมื่อรัฐบาลแก้คำฟ้องมาก็ต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงกันอีก


 


"ตอนนี้การบริหารของ กฟผ.ก็เป็นไปโดยปกติ แต่ภายหลังหากมีการยกเลิก พ.ร.ฎ.แล้วก็อาจจะเกิดความเสียหายซึ่งเราจำเป็นต้องติดตามกันต่อ อีกทั้งยังต้องดูว่าการระดมทุนนั้นมีเพียงการเข้าตลาดหุ้นวิธีเดียวหรือไม่ หรือว่ามีวิธีการอื่นๆ ด้วย ซึ่งเราจะต้องขอให้รับประกันความชัดเจน ส่วนปัญหาภายหลังการแปรรูปการไฟฟ้านั้น ก็ต้องศึกษาว่า กฟผ.จะมีมาตรการปกป้องประชาชนหรือไม่"


 


นายนครกล่าวและอธิบายต่อไปว่า สำหรับกระบวนการขายการไฟฟ้านั้น ปัญหาอยู่ที่ตลาดหลักทรัพย์จะยอมหรือไม่หลังฟังคำสั่งของศาลปกครอง เขาย้ำว่ากลไกสำคัญอยู่ที่คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งการไฟฟ้าคงจะไม่ขายเองเมื่อตลาดหลักทรัพย์ไม่ให้ความร่วมมือด้วย


 


ตอนต่อไปใครกำกับ


"วันนี้ศาลยังไม่ได้คุ้มครองการใช้อำนาจจาก พ.ร.ฎ.แต่จากพยานหลักฐานคิดว่า มีประเด็นที่พบว่า การออก พ.ร.ฎ.ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หลังจากนี้เราจะนำข้อมูลการออก พ.ร.ฎ.ที่กระทบต่อสิทธิ ความมั่นคง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะกระทบต่อประชาชนผู้เป็นเจ้าของร่วมกันในสมบัติของชาติ ซึ่งเราต้องรวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริงให้มากที่สุด"


 


นายนิติธร ล้ำเหลือ ประธานคณะอนุกรรมการสิทธิมนุษยชนด้านชนชาติ ผู้ไร้สัญชาติ แรงงานข้ามชาติและผู้พลัดถิ่น สภาทนายความ กล่าว และเสนอด้วยว่า ประชาชนควรแสดงการคัดค้านการแปรรูปร่วมกัน เพราะเรื่องยังไม่จบ ตอนนี้ พ.ร.ฎ.อาจมีปัญหา รัฐบาลอาจไปออกเป็น พ.ร.บ.ก็ได้ ซึ่งจะเป็นการออกกฎหมายใหม่ต่อไป ดังนั้นประชาชนจำเป็นต้องแสดงตนว่า ไม่ต้องการแปรรูปรัฐวิสาหกิจพื้นฐานทั้งหมด


 


ก็คงต้องติดตามกันต่อไป และต้องไม่ลืมว่า คำสั่งศาลครั้งนี้เป็นคำสั่ง "ระงับ" โดยให้เหตุผลว่าเนื่องจาก พ.ร.ฎ. 2 ฉบับ ซึ่งเป็นเงื่อนไขในการกระจายหุ้น กฟผ.นั้น ยังเป็นปัญหาที่ต้องพิจารณา


 


คงต้องติดตามอย่างใกล้ชิดและระทึกในหัวใจกันต่อไปว่า แล้ว พ.ร.ฎ. ที่เป็นทั้งตัวปัญหาและเป็นเงื่อนไขของชัยชนะ ณ จุดเริ่มต้นนั้น จะถูกพิจารณาอย่างไร


 


……………………………………..


ข่าวที่เกี่ยวข้อง


ด่วน! ศาลปกครองระงับขายหุ้น กฟผ. ชั่วคราว


http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=1594&SystemModuleKey=HilightNews&System_Session_Language=Thai


 


ฟ้องศาลปกครองออก พ.ร.ฎ. กฟผ.ทำคนเดือดร้อน http://www.prachatai.com/05web/th/home/page2.php?mod=mod_ptcms&ContentID=1499&SystemModuleKey=HilightNews&SystemLanguage=Thai












 ข่าวประกอบ
 นักลงทุนชี้ กฟผ.ไม่กระจายหุ้น กระทบบรรยากาศตลาดหุ้น

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net