Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

ขณะนี้โครงการก่อสร้างทางหลวง "อา-3" (R 3) มีความคืบหน้ามากหลังจากไทยและจีนลงมือก่อสร้าง ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้าและการท่องเที่ยวจากไทยไปยังมณฑลยูนนาน ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีนมีความสะดวกและรวดเร็ว


รายงานข่าวจาก สปป.ลาว แจ้งว่า การก่อสร้างถนนสายสำคัญดังกล่าวจะแล้วเสร็จทั้งหมดในกลางปี 2550
 ทั้งนี้ การก่อสร้างช่วงปลายสุดของถนนสาย R 3 ช่วงลำน้ำลาง (Lang) ไปจนถึงด่านชายแดนบ่อแตน ความยาว 66.4 กิโลเมตร เริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2547 ด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีนเป็นค่าก่อสร้างราว 28 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ คาดว่าจะใช้เวลา 26 เดือนจึงจะแล้วเสร็จ


                อธิบดีกรมสะพานและทางหลวงของลาว นายเวียงสะหวัด สีพันดอน กล่าวว่า ถนนสาย A3 เป็นส่วนหนึ่งในโครงข่ายถนนสายเศรษฐกิจแนวเหนือ - ใต้ รัฐบาลจีนและลาวได้มอบหมายให้บริษัทก่อสร้างสะพานและถนนแห่งมณฑลยูนนานก่อสร้างถนนช่วงนี้ โดยมีกำหนดแล้วเสร็จในปี 2549


            ทางหลวง R 3 มีจุดเริ่มต้นจากเมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับ อ.เชียงของ จ.เชียงรายของไทย ทอดผ่านแขวงหลวงน้ำทา ไปจรดชายแดนจีนที่ด่านบ่อแตน (Boten) รวมความยาว 227 กิโลเมตร โดยแยกการก่อสร้างออกเป็น 3 ช่วง ตามแหล่งเงินทุนและความช่วยเหลือจากต่างประเทศ


             โดยรัฐบาลไทยได้ให้ความช่วยเหลือลาวจำนวน 19.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับการก่อสร้างถนน A3 ช่วงจากเมืองห้วยทรายรวมความยาว 84 กิโลเมตร การก่อสร้างเริ่มเมื่อเดือน ก..2547 ปัจจุบันสำเร็จไปแล้วราว 15% คาดว่าจะใช้เวลาในการก่อสร้างทั้งหมด 33 เดือน ช่วงกลางของทางหลวง A3 มีระยะทางยาว 76.8 กม. รัฐบาลลาวได้รับเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำจากธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชียเป็นเงิน 16.4 ล้านดอลลาร์ สำหรับการก่อสร้างซึ่งเริ่มในเดือน ก..ปีนี้ ปัจจุบันเสร็จไปแล้วราว 21% คาดว่าจะใช้เวลาทั้งหมด 34 เดือนจึงจะแล้วเสร็จทั้งหมดนี้จะทำให้สามารถเปิดใช้ทวงหลวง A3 ตลอดทั้งสายได้ภายในกลางปี 2550 นายเวียงสะหวัดกล่าว


 


ยักษ์เมล์เขียวขยายอาณาจักร


เล็งถนน R3e วิ่งรถเชื่อม 3 ชาติ


            นายสมชาย ทองคำคูณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยพัฒนกิจขนส่ง จำกัด เปิดเผยว่า ในอนาคตหากการก่อสร้างถนนเชื่อม ไทย-ลาว-จีน หรือ ถนนสาย R3e เสร็จสิ้นตามกำหนดประมาณปี 2550 ตนเองก็เตรียมนำรถเมล์มาวิ่งให้บริการในเส้นทางดังกล่าว แต่จะเป็นลักษณะทัวร์ท่องเที่ยวไปก่อน รอการพิจารณาของรัฐบาลถึงความเป็นไปได้ในการเดินรถโดยสารระหว่างประเทศ รวมทั้งพิจารณาข้อกฎหมายต่างๆ ในการดำเนินการ รวมทั้งรอให้ถนนสร้างแล้วเสร็จด้วย


อย่างไรก็ตามหากการก่อสร้างถนนสายดังกล่าวแล้วเสร็จ เชื่อว่าจะมีผู้ใช้รถโดยสารระหว่างประเทศเป็นจำนวนมาก ทั้งในด้านการค้าและการท่องเที่ยว เนื่องมีความสะดวกกว่าการใช้เส้นทางคมนาคมทางแม่น้ำโขงที่ยังไม่มีความแน่นอน นอกจากนี้ยังได้วางแผนที่จะเข้าไปเดินรถในประเทศพม่า กัมพูชา และเวียดนามอีกด้วย หากมีการเปิดเสรีการเดินรถในกลุ่มประเทศอนุภาคลุ่มแม่น้ำโขง


ทั้งนี้เชื่อว่าหากรถโดยสารสามารถวิ่งให้บริการในเส้นทางสายดังกล่าวได้ จะมีผู้ประกอบการอีกหลายรายเตรียมนำรถโดยสารมาให้บริการ เนื่องจากเป็นเส้นทางที่เชื่อมระหว่างประเทศและมีผู้โดยสารเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าบริษัทฯของตนเองมีความพร้อมเช่นกันที่จะให้บริการได้ ซึ่งนอกจากรถบัส 200 กว่าคัน แล้ว ยังมีรถโดยสารประจำทางวิ่งเส้นทางจังหวัดเชียงรายอีก 200 กว่าคัน ทั้งนี้หากสามารถให้บริการในเส้นทาง ไทย-ลาว-จีน ได้จริง ก็จะเป็นการสะดวกมากขึ้น เพราะตนเองมีโครงข่ายที่พร้อมอยู่แล้ว

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net