"ปลอด"ถอดเมนูน่าละอายออกจากไนท์ซาฟารีแล้ว ขอเหลือแต่นกกระจอกเทศและจรเข้  รับทำให้สับสนกับความดีงามของโครงการ โต้กลับเอ็ยจีโอต่างชาติ กลับไปมองประเทศตัวเองเป็นจุดกำเนิดการล่าสัตว์ป่า   

หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักกรณีเมนูพิสดารนำเนื้อสัตว์ป่ามารับประทานภายในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี  นายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผู้อำนวยการโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เปิดแถลงข่าวที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติฯ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2548 ยอมถอยแนวคิดนี้ โดยให้เหตุผล 5 ข้อว่า

1. สิ่งใดหรือสัตว์ใดก็ตามที่มีการแสดงในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี จะไม่มีในเมนูอาหาร เพราะจะทำให้เกิดความสับสนและขาดความเข้าใจในเจตนารมณ์ของการจัดตั้งเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี แต่สำหรับจระเข้ และนกกระจอกเทศ ซึ่งมาจากฟาร์มเลี้ยง หากมีการขายก็ไม่ขัดข้อง

2. ยืนยันว่า วัตถุประสงค์ของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีตั้งขึ้นมาเพื่อศึกษาอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์ป่า สนับสนุนการท่องเที่ยวธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช่ตั้งขึ้นเพื่อเป็นสถานที่ชี้เลือกว่าจะกินอะไร   และไม่ได้ตั้งขึ้นเพื่อทำลายป่าหรือเพื่อประโยชน์ของคนใดคนหนึ่ง

3.  ขอบคุณทุกคนที่ติติง ยินดีรับฟัง และแก้ไขในสิ่งที่ถูกต้อง แต่ก็รู้สึกเสียใจต่อคนบางคนที่ออกมาพูดจาด้วยวาจาที่รุนแรง หยาบคาย และดูถูกดูแคลน เช่น เรียกว่า "องคุลีปลอด" ซึ่งออกจะเกินเลยไป แต่ตนก็ให้อภัย

4. สำหรับเอ็นจีโอต่างประเทศขอให้กลับไปมองพฤติกรรมของประเทศของตนเองให้ดี ว่าได้ปฏิบัติอย่างเหมาะสมหรือไม่ในเรื่องการอนุรักษ์ก่อนที่จะไปว่าคนอื่น เช่น การล่าและกินปลาวาฬ การยิงสุนัขจิ้งจอกเป็นเกม การยิงมูส ซึ่งเป็นสัตว์ตัวใหญ่เหมือนกวาง เพื่อความสนุกสนานและเอามารับประทาน และการรับประทานจิงโจ้   อย่ามาดูถูกคนไทย ฝรั่งเองนั่นแหละเป็นผู้ริเริ่มต้นการล่าสัตว์ป่า เช่น การล่าช้าง และเสือ ในอินเดีย การล่าช้าง สิงโต แรด และสัตว์อื่น ๆ ในทุ่งซาฟารี

5. โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเป็นโครงการที่ดี แต่อาจจะมีข้อบกพร่อง เพราะไม่เคยทำมาก่อน และไม่ใช่อาชีพ แต่ไม่ใช่ไม่ดีไปทุกอย่าง ดังนั้น อยากขอร้องให้ผู้โจมตีมองในแง่ดีบ้าง

นายปลอดประสพ กล่าวว่า ร้านอาหารในเชียงใหม่ไนท์ซาฟารียังต้องมี   แต่จะเป็นร้านอาหารที่ไม่มีสัตว์ป่า ถ้าจะมีคือสัตว์ที่เลี้ยง แต่ถ้าสัตว์ที่เลี้ยงมาเป็นชนิดเดียวกับที่มีในการแสดงก็จะไม่มีเช่นกัน เพราะจะทำให้คนสับสน