ไต่สวนพยาน 6 ปาก ยังไม่มีใครเห็นตอนยิงทีมบอลสะบ้าย้อย


เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม 2548 ที่ศาลจังหวัดสงขลา นายประเสิรฐ กาญจนะ ผู้พิพากษาศาลจังหวัดสงขลา ขึ้นนั่งบัลลังค์พิจารณาคดีไต่สวนชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิต 19 ศพ จากเหตุการณ์ปะทะกันบริเวณหน่วยบริการประชาชนตลาดสะบ้าย้อยและร้านอาหารสวยนะ อำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2547 โดยพนักงานอัยการจังหวัดสงขลาได้เบิกตัวพยานปากนางกุมารี หรือ นู๋นี๋ วัฒนานนท์ ผู้จัดการร้านขายของชำ ข้างร้านอาหารสวยนะซึ่งเป็นพยานปากที่ 6 มาเบิกความ มีทนายญาติผู้เสียชีวิตมาทำหน้าที่ซักค้าน 6 คน และญาติผู้เสียชีวิตมาฟังการพิจารณาคดี 17 คน

 

นางกุมารี เบิกความต่อศาลว่า ตนเป็นเพื่อนของนางสวยน๊ะ กาเดร์ เจ้าของร้านอาหารสวยนะ เปิดร้านขายของชำข้างร้านสวยนะทางด้านทิศตะวันออกของร้านอาหารสวยนะ ซึ่งใช้ส่วนหนึ่งของร้านขายของชำเป็นที่พักอาศัยร่วมกับนางสวยน๊ะและหลานอีก 1 คน โดยในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.45 น.ตนรู้สึกตัว จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 3 นัด มาจากป้อมตำรวจ ซึ่งอยู่ทางด้านทิศตะวันตก ต่อมาอีก 2 นาทีได้ยินเสียงบึม นางสวยน๊ะถามว่าเสียงอะไร ตนบอกว่าน่าจะเป็นเสียงปืน จากนั้นประมาณ 5 นาที ตนไปเปิดประตู ยืนดูอยู่กับนางสวยน๊ะ เห็นผู้ชายอายุประมาณ 20 ปี ยืนเป็นแถวอยู่หลายคน บางคนโพกศีรษะ สวมเสื้อแขนยาวสีขาวยาวถึงน่อง แบบมุสลิมสวมใส่ มีผู้ชายตัวเล็กยืนอยู่บนถนนหน้าร้านอาหารสวยนะ ถืออาวุธปืนยาวแบบทหารใช้ อีกคนหนึ่งถือปืนสั้น สวมเสื้อกั๊ก อีกคนถือมีดวิ่งผ่านหน้าร้านไป สวนคนอื่นมองไม่เห็นว่าถืออะไรบ้าง ตนยืนดูนานประมาณ 10 นาที มีพนักงานของร้าน 2 คน มายืนที่ประตูใกล้ห้องพัก ตนกับนาวสวยนะบอว่าอย่าออกไป ทั้ง 2 จึงเข้าไปในร้านตนยืนดูเหตุการณ์ต่อ ผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าร้านส่วนมากจะมีกระเป๋าหลังเกือบทุกคน

 

นางกุมารี เบิกความต่อว่า สักพักได้ยินเสียงปืนดังมาจากป้อมตำรวจ 1 นัด เห็นผู้ชายที่ยืนอยู่หน้าร้านอาหารสวยนะ จับกลุ่มคุยกันแต่ไม่ได้ยินว่าคุยอะไรกัน จากนั้น เห็นผู้ชายที่ยืนอยู่กระโดดเข้าไปในร้านอาหารสวยนะ นางกับนางสวยน๊ะจึงรีบหลบเข้าไปในห้องพัก เข้าไปแอบในห้องน้ำ จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังมากจากในร้านอาหารสวยนะและนอกร้านอาหารสวยนะ ดังอยู่นานประมาณ 1 ชั่วโมง ตนได้ยินเสียงพูดมาจากนอกร้านว่า "ออกมา ออกมา" ต่อมาได้ยินเสียงวิทยุของตำรวจ จึงเข้าใจว่าคงเป็นตำรวจมาเรียกให้ออกไป ตนจึงเปิดประตูออกไป พบกับตำรวจ ซึ่งตำรวจบอกให้คลานออกไป เนื่องจากขณะนั้นยังได้ยินเสียงปืนดังอยู่ในร้านอาหารสวยนะ ตนกับนางสวยน๊ะคลานไปที่บ้านพักครูชื่อบุญเลิศ ซึ่งอยู่อีกฟากถนน ต่อมาเวลา 08.00 น. ได้ยินเสียงบึมมาจากร้านอาหารสวยนะ แล้วเห็นกลุ่มควันอยู่ในร้าน ซึ่งเป็นบริเวณที่จอดรถยนต์ของนางสวยน๊ะ ตนจะวิ่งไปเอากุญแจรถ แต่นางสวยน๊ะบอกไม่ต้องไปแต่ให้เรียกรถดังเพลิง จากนั้นได้ยินเสียงปืนดังขึ้นประปราย จนเวลา 09.00น. จึงสงบ

 

นางกุมารี เบิกความต่อว่า จากนั้นตนและตำรวจ 1 นาย เข้าไปที่ห้องพัก เพื่อเอากุญแจรถยนต์ โทรศัพท์และทรัพย์สินอื่นๆ โดยตนเห็นศพผู้ชายบริเวณซุ้มที่นั่งรับประทานอาหาร ใกล้กับห้องพัก 1 ศพ ใกล้ศพมีปืนยาวสีดำ 1 กระบอก เป็นปืนที่ทหารใช้ บริเวณซุ้มที่ 4 มีอีก 1 ศพ ข้างศพมีลูกระเบิด 1 ลูก ปืนยาว 1 กระบอกวางอยู่ ที่หน้าประตูห้องน้ำอีก 1 ศพ จากนั้นตนจึงเข้าห้องพักเพื่อเอาทรัพย์สินแล้วออกจากห้องพัก ระหว่างอาคาร 1 และ 2 ใกล้น้ำตำเทียม มี 1 ศพ มีปืนสั้น แต่ไม่แน่ใจว่าอยู่ในมือศพหรือไม่ บริเวณอาคาร 1 พบว่ามีศพอีกหลายศพ เมื่อไปที่จอดรถ มีรถจักรยานยนต์ 1 คัน ล้มอยู่ โดยมีเศษผ้าอุดอยู่ที่ท่อไอเสียและมีรอยไหม้ ผาครอบถังน้ำมันเปิดออก มีคราบน้ำมันที่พื้น ส่วนรถยนต์ของนางสวยนะ กระจกด้านคนขับถูกทุกแตก ที่พวงมาลัยมีรอยถูกฟัน เมื่อตำรวจพาออกนอกร้าน จากนั้นจึงมีแพทย์เข้าไปภายในร้าน จนเวลา 13.00 น.เจ้าหน้าที่ได้ขนศพไปที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอสะบ้าย้อย

 

การเบิกความสิ้นสุดเวลา 12.00 น.เศษ ต่อมาในช่วงบ่าย พนักงานอัยการจังหวัดสงขลาแถลงต่อศาลว่า  เนื่องจากตนติดสืบพยานที่ห้องพิจารณาคดีอื่น จึงขอเลื่อนการไต่สวนออกไปเป็นวันที่ 14 พฤศจิกายน 2548 ญาติผู้ตายและทนายไม่คัดค้าน ศาลจึงอนุญาต

 

เป็นที่น่าสังเกตว่า ได้มีการไต่สวนพยานแล้ว 6 ปาก ยังไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะที่มีการยิงกันแต่อย่างใด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท