พลตรี อันซียาอัด เอ็มบาอี ผู้บัญชาการด้านการต่อต้านการก่อการร้ายของอินโดนีเซีย ตำหนิรัฐบาลสหรัฐฯอย่างรุนแรงที่ไม่แจ้งให้ทราบกรณีที่ นายโอมาร์ อัล-ฟารุค ผู้ต้องสงสัยว่าเป็นสมาชิกฝ่ายปฏิบัติการคนสำคัญของอัล ไกดา พร้อมพรรคพวกอีก 3 คน หลบหนีออกจากศูนย์ควบคุมตัวในเมืองบากรัม ภายใต้การดูแลของกองทัพสหรัฐในอัฟกานิสถาน เพราะเกรงว่าอาจก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวครั้งใหม่ของผู้ก่อการร้ายในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข่าวการแหกคุกของอัล-ฟารุค แพร่สะพัด หลังจากสถานีโทรทัศน์อัลอารอบิยะห์เผยแพร่ภาพจากวีดิโอเทปที่นักโทษแหกคุก 4 คนนี้ทำขึ้น หลังจากที่สามารถหลบหนีออกมาจากเรือนจำได้ โดยภายในเทป พวกเขากล่าวว่า หลบหนีออกมาในช่วงที่ทหารอเมริกันหลายคนอยู่ในช่วงพักเวร นอกจากนี้ ในภาพยังปรากฎให้เห็นว่า พวกเขามีกุญแจห้องขัง และยังถือแผนที่ของเรือนจำอีกด้วย

ด้าน โฆษกทหารสหรัฐฯ กล่าวว่า ความบกพร่องในการรักษาความปลอดภัย ทำให้นักโทษทั้ง 4 คนสามารถหลบหนีไปได้เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้สหรัฐฯ กำลังสอบสวนเรื่องนี้อยู่

อย่างไรก็ตามยังมีหลายฝ่ายตั้งข้อสงสัยอยู่ว่า นายอัล ฟารุค สามารถแหกคุกหนีออกมาได้อย่างไร ทั้งๆ ที่รอบศูนย์ควบคุมนักโทษในเมืองบากรัม ถูกปิดล้อมด้วยรั้วลวดหนามหลายชั้น อีกทั้งด้านนอกยังเต็มไปด้วยทุ่นระเบิดตั้งแต่สงครามกลางเมืองในช่วงที่สหภาพโซเวียตยึดครอง และมีทีมลาดตระเวนของกองทัพสหรัฐคอยตรวจตราอย่างเข้มงวด รวมทั้งบริเวณทางเข้าหลักก็มีการตั้งด่านตรวจเอาไว้หลายชั้น

ทั้งนี้ นายอัล-ฟารุค เป็นชาวอิรักที่เกิดในคูเวต และถูกระบุว่า เป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงของกลุ่มก่อการร้ายอัล ไกดา ของอุสมา บิน ลาเดน โดยเข้าเป็นสมาชิกอัลกออิดะห์ตั้งแต่ช่วงปี 1990 จนกระทั่งปี 1995 จึงได้ไปสมทบกับกลุ่มเจไอ ในฟิลิปปินส์ หลังจากนั้นจึงเดินทางไปอินโดนีเซียเพื่อตั้งค่ายฝึก โดยช่วงที่ผ่านมาเขาพยายามกระทำการก่อการร้ายในประเทศอาเซียนอยู่เป็นระยะๆ จนกระทั่งถูกทางการอินโดนีเซียจับกุมได้เมื่อปี 2002 และได้ถูกส่งต่อไปให้สหรัฐฯ ควบคุมตัว