อนุกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ และตัวแทนองค์กรชาวบ้านย้ำ การสร้าง 3 เขื่อนเหนือเมืองเชียงใหม่ ไม่สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้จริง เสนอให้ทำการศึกษาการสร้างคลองระบายน้ำเลี่ยงเขตเมืองแทน รวมไปถึงการเข้าไปส่วนร่วมของภาคประชาชน
โครงการสร้างเขื่อนผุด หลังน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่
จากรณีการเกิดน้ำท่วมเชียงใหม่ครั้งใหญ่ในช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย.ที่ผ่านมา ทำให้ภาครัฐต่างหาวิธีการป้องกันและแก้ไขกันหลายวิธีด้วยกัน โดยในส่วนของกรมชลประทานได้เสนอว่า สาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่นั้น มาจากน้ำหลากจากลุ่มน้ำแม่แตง และแม่น้ำปิงตอนบน และได้มีการเสนอโครงการสร้างเขื่อนแม่แตง บริเวณบ้านแข ต.แสนไห อ.เวียงแหง เขื่อนแม่ปิงตอนบน บริเวณบ้านยางโป่งอาง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว และเขื่อนน้ำกึ๊ด บริเวณบ้านต้นตอง ต.กึ๊ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาน้ำท่วม โดยใช้วงเงินงบประมาณทั้งหมด 6,000 ล้านบาท
ล่าสุด เมื่อวันที่ 3 พ.ย.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมโรงแรมนครพิงค์ พาเลซ จ.เชียงใหม่ ทางคณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำและแร่ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้เชิญตัวแทนของกรมชลประทาน มาชี้แจงข้อเท็จจริงถึงโครงการสร้างเขื่อนทั้ง 3 เขื่อน โดยมีตัวแทนภาคประชาชนเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นกับโครงการดังกล่าวด้วย
ตัวแทนกรมชลประทาน ยืนยันเขื่อนแก้ปัญหาน้ำท่วมได้
นาย
"เป้าหมายของการสร้างเขื่อน 3 เขื่อนนี้ ก็เพื่อต้องการชะลอความเร็วของน้ำให้ช้าลง เนื่องจากหลังเกิดพายุและฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ทำให้ปริมาณน้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำแม่แตง และแม่น้ำปิงตอนบนมีปริมาณมาก ซึ่งน้ำแม่แตง มีพื้นที่รับน้ำประมาณ 2,000 ตร.กม และแม่น้ำปิงตอนบนมีพื้นที่รับน้ำ 1,800 ตร.กม. ดังนั้น จึงจำเป็นจะต้องมีการสร้างเขื่อนขึ้นมา ซึ่งจะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมในเขตเมืองได้ และขอยืนยันตามหลักวิชาการของกรมชลประทาน เชื่อว่าเขื่อนจะแก้ปัญหาทั้งหมดได้" นายวีระชัย กล่าว
ภาคประชาชน
ในขณะที่ นาย
ในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างครบถ้วน
นายนิคม ยังได้ยกตัวอย่างหากมีการสร้างฝายเวียงแหงว่า อาจจะเกิดผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน เพราะว่า อ.เวียงแหงเป็นพื้นที่แอ่ง และสองฟากฝั่งแม่น้ำแตง จะเป็นพื้นที่ทำการเกษตรของชาวบ้าน ซึ่งหากสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ขึ้นทางตอนเหนือ ก็จะทำให้น้ำท่วมพื้นที่ทำกิน รวมไปถึงสูญเสียพื้นที่ป่าต้นน้ำ และหากเขื่อนเกิดพังขึ้นมา ก็จะทำให้น้ำท่วมเวียงแหงทั้งอำเภอ นอกจากนั้น ก็ทำให้เกิดน้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในเขต ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว ทั้ง 7 หมู่บ้าน เพราะมีพื้นที่อยู่ลุ่มเขื่อนเวียงแหง นอกจากนั้น รัฐไม่ได้คำนึงถึงภาวะความเสี่ยงให้รอบด้าน เพราะจากข้อมูลพบว่า พื้นที่เวียงแหงนั้น อยู่ในเขตรอยเลื่อนแผ่นดินไหว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อตัวเขื่อนได้
เขื่อนไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่
"ที่สำคัญ เขื่อนไม่ใช่ทางออกที่แท้จริงสำหรับการแก้ปัญหาน้ำท่วม จะเห็นได้ชัดเจนว่า หลังเกิดฝนตกในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา เมื่อปริมาณน้ำฝนเหนือเขื่อนแม่งัดมากเกิน ทางชลประทานก็ยังต้องมีการระบายน้ำทิ้งออกมา เพราะกลัวเขื่อนพัง ซึ่งได้ไหลลงมาสมทบกันน้ำจากลำห้วยสาขา ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้านในเขตเมือง เพราะฉะนั้น จึงไม่อยากให้มีการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แต่อยากให้มีการแก้ปัญหาระยะยาวอย่างเป็นระบบ โดยให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง" นายนิคม กล่าว
ทั้งนี้ นาย
กก.สิทธิฯ จี้ทบทวนโครงการเขื่อน
"สรุปก็คือว่า เขื่อนแม่งัด ไม่สามารถป้องกันน้ำท่วมได้เลย แต่เขื่อนแม่งัดเป็นกลไกเพียงแค่เป็นตัวควบคุมปล่อยน้ำเท่านั้น เพราะฉะนั้น โครงการสร้างเขื่อนทั้ง 3 เขื่อนนี้ ก็ไม่สามารถกักเพื่อป้องกันน้ำได้เช่นกัน เพราะหากมีปริมาณน้ำในเขื่อนมากเกินจะรับได้ไหว ก็จะต้องปล่อยน้ำลงเหมือนกัน แล้วทำไมถึงต้องมีการเสนอให้มีการสร้าง 3 เขื่อน" นายหาญณรงค์ กล่าว
คณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำและแร่ กล่าวอีกว่า ฉะนั้นรัฐจะต้องอธิบายให้เห็นภาพรวมทั้งหมด ให้มีความชัดเจน และนำข้อมูลทุกรอบด้านเสนอให้ประชาชนได้รับทราบด้วย และจะทำอะไรควรต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมก่อน แต่ในขณะนี้ เท่าที่ทราบก็คือ กรมชลประทาน จะเป็นผู้ลงมือสร้างอย่างเดียว โดยให้กรมทรัพยากรน้ำเป็นผู้ศึกษา ผ่านการว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาเป็นผู้ทำการศึกษาเพียงฝ่ายเดียว
เสนอทางออกขุดคลองระบายน้ำเลี่ยงเมืองเชียงใหม่
"อยากให้ทางตัวแทนของกรมชลประทาน ได้กลับไปทบทวนศึกษาในเรื่องการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่กันใหม่ ว่าทำอย่างไรจึงจะแก้ปัญหาน้ำท่วมเชียงใหม่อย่างยั่งยืน เช่น การขุดคลองระบายน้ำออกไปทั้งสองฟากฝั่งแม่น้ำปิง ซึ่งอาจเป็นการลงทุนที่ต่ำกว่า ซึ่งตนเคยไปศึกษาดูกรณี จ.ชุมพร ซึ่งเคยเกิดน้ำท่วมเมืองเหมือนกับเชียงใหม่ และเขาได้ทำบายพาส ขุดคลองระบายน้ำเลี่ยงเมืองออกไปทั้งสองฟาก สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมเมืองได้ ทำไมไม่คิดแบบนี้กันบ้าง" นายหาญณรงค์ คณะอนุกรรมการสิทธิในทรัพยากรน้ำและแร่ กล่าวทิ้งท้าย
เอกสารกรมชลฯระบุโครงการเขื่อน ไม่มีผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ จากเอกสารการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการสร้างเขื่อนทั้ง 3 โครงการนั้นระบุว่า ไม่มีผลกระทบด้านสังคมและด้านสิ่งแวดล้อม และได้มีการศึกษาโครงการเบื้องต้นเสร็จแล้ว
โดยเขื่อนแม่แตง ต.แสนไห อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่ มีความสูงของสันเขื่อน
เขื่อนน้ำปิง ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จะมีความสูงของสันเขื่อน
เขื่อนน้ำกึ๊ด จะมีความสูง
ประมวลภาพน้ำท่วมใหญ่เมืองเชียงใหม่ |
ดูภาพน้ำท่วมเมืองเชียงใหม่ วันที่ 14-15 สิงหาคม 2548 |
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)