Skip to main content
sharethis



 


ประชาไท - 8 พ.ย.48        เวลาประมาณ 10.00 น.เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากแผนพัฒนาบึงบอระเพ็ด ซึ่งประกอบไปด้วยชาวบ้านพระนอน ทับกฤช พนมเศษ และวังมหากร ประมาณ 100 คน เดินทางมาที่หน้าศาลากลางจังหวัดนครสวรรค์เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียนและขอเข้าเจรจากับผู้ว่าราชการจังหวัด นายชนินทร์ บัวประเสริฐ กรณีแผนพัฒนาของกรมชลประทานที่มีโครงการเพิ่มความสูงของสันฝาย ซึ่งจะส่งผลให้เกิดน้ำท่วมบ้านและที่ดินทำกินของชาวบ้านบางส่วนที่อาศัยอยู่รอบๆ บึงบอระเพ็ด โดยชาวบ้านเหล่านั้นถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้บุกรุกเข้าไปสร้างที่อยู่และที่ทำกินในเขตของบึงบอระเพ็ดเอง


 


ความต้องการของชาวบ้านคือ การระงับแผนพัฒนาบึงบอระเพ็ดไว้ก่อน ไม่ต้องการให้เพิ่มความสูงของสันฝายขึ้นและขอให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการกำหนดแผนพัฒนาบึงบอระเพ็ด


 


นายมานพ คงกลั่นดี แกนนำเครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากแผนพัฒนาบึงบอระเพ็ดกล่าว่า การสร้างฝายกั้นบึงบอระเพ็ดนั้น จะทำให้เกิดน้ำท่วมและชาวบ้านจะได้รับความเดือดร้อน


 


"บึงบอระเพ็ดนั้นมีคนอาศัยอยู่กันมาตั้งแต่สมัยปู่ย่าตายาย และก็เคยถูกย้ายกันมาครั้งหนึ่งแล้ว จะมาย้ายผมไปที่ไหนอีก และผมจะอยู่อย่างไร"นายมานพกล่าว


 


หลังจากนั้นนายอำเภอท่าตะโก ก็ออกมาเจรจากับเครือข่ายฯว่า โครงการพัฒนาบึงฯนั้นจะไม่ให้ได้รับผลกระทบ จะไม่ให้ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนและจะไม่ให้ต้องอพยพ


 


อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านยังยืนยันที่จะขอพบผู้ว่าราชการจังหวัดอยู่ จนกระทั่งเวลาประมาณ 10.20 น. นายชนินทร์ บัวประเสริฐ  ผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ จึงออกมาพบและเจรจากับเครือข่ายฯ ซึ่งท่านก็พูดถึงความจำเป็นในการพัฒนาบึงบอระเพ็ด ฟื้นฟูให้มีสภาพที่ดีขึ้น เพราะตอนนี้บึงมีสภาพที่เสื่อมโทรม หน้าแล้งก็มีน้ำน้อย จึงต้องการที่จะขุดบึงฯให้ลึกขึ้น เพื่อเก็บกักน้ำให้มากขึ้น


 


ทั้งนี้ ความจำเป็นในการพัฒนาบึงฯนั้น ทางรัฐบาลก็ได้มีการประชุมกันแล้วและทุกฝ่ายก็ตกลงกันว่า จะต้องฟื้นฟูบึง  แต่ในการฟื้นฟูและการพัฒนาบึงนั้นต้องเป็นไปในลักษณะที่ทุกฝ่ายไม่ได้รับความเดือดร้อน


 


นายอำนาจ  ศิริชัย  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครสวรรค์ ได้กล่าวทำความเข้าใจกับชาวบ้านว่า การพัฒนาบึงฯ นั้นจะมีใน4มิติคือ เพื่อการประมง เพื่อการเกษตร เพื่อการอุปโภค บริโภค และเพื่อระบบนิเวศ


 


"ผมก็ไม่เห็นด้วยกับกรณีศึกษาของโครงการที่เสนอให้มีการเสริมฝาย เพราะจะทำให้น้ำท่วมพื้นที่ถึง 170,000 ไร่ รวมไปถึงที่ทำกินของชาวบ้านรอบๆบึงฯอีกด้วย" นายอำนาจกล่าว


 


ภายหลังจากการเจรจา ได้ข้อสรุปว่า ทางผู้ว่าราชการจังหวัดยินดีและสนับสนุนให้ชาวบ้านได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วย และจะจัดตั้งคณะกรรมการพัฒนาบึงบอระเพ็ดร่วมกันระหว่างเครือข่ายฯ กับทางจังหวัด โดยให้เป็นคนของเครือข่ายครึ่งหนึ่งและเป็นคนของทางจังหวัดครึ่งหนึ่ง


 


ทั้งนี้ ในวันจันทร์ที่ 14 พ.ย.48 แกนนำเครือข่ายฯ จะนำรายชื่อคณะกรรมการพัฒนาบึงบอระเพ็ดในส่วนของชาวบ้าน ไปยื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อร่วมเป็นคณะกรรมการพัฒนาบึงบอระเพ็ด

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net