ผู้นำมุสลิมค้านหัวชนฝา อพยพคนอีสานลงชายแดนใต้


 

 









 

 


นิมุ มะกาเจ


นิเดร์ วาบา


 

 

เนื้อเรื่อง

วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤศจิกายน 2005 16:37น. 

ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

 

นายนิเดร์ วาบา นายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอดีตดาโต๊ะยุติธรรมประจำจ.ปัตตานี กล่าวถึงนโยบายการอพยพประชาชนชาวอีสานมาทำกินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า   ไม่เห็นด้วย และยืนยันที่จะคัดค้านแนวความคิดดังกล่าวอย่างถึงที่สุด นอกจากนี้ในฐานะที่เป็นผู้นำศาสนาที่ต่อสู้เพื่อแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้มาโดยตลอดรู้สึกเป็นห่วง ไม่สบายใจมากกับแนวความคิดดังกล่าว เพราะไม่ได้เป็นการแก้ปัญหา แต่กลับจะสร้างปัญหาให้กับพื้นที่มากยิ่งขึ้น  

 

นายนิเดร์กล่าวอีกว่า สำหรับคนมุสลิมในพื้นที่จะมองว่านโยบายดังกล่าวจะเป็นการอพยพเข้าแย่งที่ดินของคนในท้องถิ่น เพื่อมุ่งหวังทำลายสังคมมุสลิม เป็นการคิดร้ายต่อคนในพื้นที่และเป็นการสร้างปัญหาใหม่ย้ำเข้าไปในปัญหาเดิมที่ยังแก้ไม่ได้ 

 

"หากย้ายคนอีสานลงมาจริงๆ ก็จะยิ่งเปิดโอกาสให้ฝ่ายผู้ก่อเหตุอ้างเหตุผลในการสร้างความรุนแรงมากขึ้น เพราะเขาจะคิดกันว่ารัฐบาลต้องการให้คนนอกพื้นที่เข้ามาแย่งที่ดินของคนในท้องถิ่น และในที่สุดมุสลิมในพื้นที่จะต้องตกเป็นจำเลยของสังคมอีกจนได้"    นายนิเดร์กล่าว

 

อดีตดาโต๊ะยุติธรรมจังหวัดปัตตานีกล่าวว่า  ที่ผ่านมาทางผู้นำศาสนาได้ดำเนินงานเพื่อให้คนในพื้นที่ให้การยอมรับในนโยบายการพัฒนาของรัฐซึ่งสอดคล้องกับหลักการศาสนามาโดยตลอด จนกล่าวได้ว่าขณะนี้มีผู้นำศาสนาที่สนับสนุนรัฐมีราว 70% แล้ว ซึ่งเพิ่มขึ้นจากอดีตมาก ขณะเดียวกันหากเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะคนในระดับรัฐบาลมองการแก้ปัญหาเช่นนี้ การแก้ปัญหาของผู้นำในพื้นที่ที่ผ่านมาดูจะไร้ค่าในที่สุด  

 

นายนิเดร์กล่าวอีกว่า นโยบายการอพยพคนจากต่างพื้นที่ให้เข้ามาทำกินในจังหวัดชายแดนภาคใต้ในสมัยของนายกรัฐมนตรีสฤษดิ์ ธนะรัชต์ สร้างผลกระทบมากมายให้กับพื้นที่ โดยเฉพาะทำให้เกิดความไม่ไว้วางใจระหว่างประชาชนกับรัฐ ซึ่งชาวบ้านจะมองว่านโยบายในครั้งนั้นมีขึ้นเพื่อต้องการกลืนสังคมของชาวมุสลิมที่เขาภาคภูมิใจ กลืนแผ่นดินที่อัลลอฮ์มอบให้แก่พวกเขา และมีเป้าหมายเพื่อทำลายสังคมมุสลิม แม้ว่าในยุคนั้นรัฐธรรมนูญจะเปิดโอกาสให้ทำได้ แต่สำหรับยุคนี้รัฐบาลต้องฟังความเห็นจากคนในท้องถิ่นด้วย  

 

"ทุกวันนี้ใครทำอะไร มุสลิมก็จะถูกกล่าวหาว่าเป็นคนทำ ทั้งๆ ที่หลายเหตุการณ์ก็ไม่ใช่มุสลิมเป็นคนทำ อย่าคิดว่าคนอื่นไม่รู้ การแก้ปัญหาหากยังใช้ความรุนแรงอยู่ก็ไม่สามารถแก้ได้ ผมยืนยันว่าบ้านเมืองนี้ หากทักษิณยังปกครองอยู่ก็ยากที่จะสงบ ผมพูดอย่างนี้ ผมไม่กลัวตาย คิดเพียงว่าตัวเองเป็นเพียงมดตัวเล็กๆ ต้องไม่ลืมว่าพลังอำนาจของอัลลอฮ์นั้นยิ่งใหญ่ สามารถลงโทษผู้กระทำความผิด คนที่ใช้ความรุนแรง หรือแม้แต่คนที่ทำให้สังคมวุ่นวายได้ สักวันหนึ่งอัลลอฮ์จะลงโทษคนเหล่านี้"นายนิเดร์กล่าว

 

 

ด้านนายนิมุ มะกาเจ รองประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดยะลา กล่าวว่า นโยบายดังกล่าวจะยิ่งสร้างปัญหาให้กับคนในพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาในเรื่องความแตกต่างหลากหลายของคนในพื้นที่ยังคงดำรงอยู่และรอการแก้ไข หากนำคนต่างถิ่นที่ต่างวัฒนธรรมวิถีชีวิตเข้ามากลับจะเป็นการสร้างเงื่อนไขใหม่ของความขัดแย้ง  

 

รองประธานอิสลามจังหวัดยะลากล่าวอีกว่า นโยบายดังกล่าวเป็นไปในลักษณะกลมกลืนทางวัฒนธรรมและวิถีชีวิต เหมือนการจัดตั้งนิคมสร้างตนเองเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งก็พบว่าท้ายที่สุดก็ล้มเหลว ไม่ตรงตามที่วางเป้าไว้   เนื่องจากค้นพบในเวลาต่อมาว่าที่ดินซึ่งจัดสรรให้กับผู้ที่อพยพเข้ามาใหม่ถูกเปลี่ยนมือไปเป็นเจ้าของที่ดินใหญ่ไม่กี่ราย เป้าหมายที่ตั้งไว้แรกๆ ว่าต้องการให้คนจากภูมิภาคอื่นๆ เข้ามาตั้งรกรากจึงไม่ประสบความสำเร็จ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลน่าจะต้องทบทวนจากบทเรียนในอดีตให้ดี  

 

"แทนที่รัฐจะส่งเสริมการพัฒนาให้กับคนในพื้นที่ได้อยู่ดีกินดี ได้ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นที่มีอยู่อย่างมากมายให้เกิดประโยชน์แก่คนในท้องถิ่น ซึ่งยังไม่มีโอกาสได้ใช้อย่างเต็มที่ แต่กลับเอาคนต่างพื้นที่เข้ามากอบโกย"   นายนิมุ กล่าว

 

นายนิมุกล่าวอีกว่า ไม่ได้คัดค้านการเข้ามาทำงาน ประกอบอาชีพ และตั้งรกรากของคนในภูมิภาคอื่นๆ แต่เป็นกังวลหากมาตรการดังกล่าวดำเนินงานภายใต้นโยบายของรัฐ เพราะมีความเป็นไปได้อย่างมากที่กลุ่มหัวรุนแรงที่ก่อการอยู่ในพื้นที่จะหยิบเอาประเด็นนี้เป็นเงื่อนไขในการปลุกระดม และสร้างความขัดแย้ง กระทั่งเกิดการแบ่งแยกและใช้ความรุนแรงกันในที่สุด ทั้งๆ ที่ขณะนี้แนวทางการแก้ปัญหาของรัฐบาลเริ่มเป็นไปในแนวทางที่ดีขึ้น

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท