"อานันท์" สมานฉันท์เจ้าคณะสงฆ์ปัตตานีถกปัญหาไฟใต้

วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน 2005 20:05น. 

ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

 

เมื่อวันที่ 11 พ.ย. เวลา 16.00น. นายอานันท์ ปันยารชุน ประธานคณะกรรมการอิสระเพื่อความสมานฉันท์(กอส)และคณะ อาทิ น.พ.ประเวศ วะสี นายชัยวัฒน์ สถาอานันท์ นายพิภพ ธงไชย นายสุริชัย หวันแก้ว พร้อมด้วยนายภานุ อุทัยรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางมายังวัดหลักเมือง เพื่อนมัสการคณะสงฆ์ปัตตานี โดยมีพระอุดมธรรมคณี(พระมหาถวิล เขมกาโร) พระมหาชรัส เจ้าคณะและรองเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี พระครูพิพัฒน์สมณคุณ เจ้าคณะอำเภอเมืองปัตตานี อยู่ต้อนรับ

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อนายอานันท์และคณะเดินทางมาถึงกุฏิเจ้าอาวาสก็ได้มีการถวายสังฆทาน รวมทั้งปะพรมน้ำมนต์จากเจ้าคณะจังหวัดปัตตานี  จากนั้นได้ร่วมพูดคุยกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งการพบกันครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ กอส.ได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงสถานการณ์ปัญหาความรุนแรงสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ หลังจากคณะสงฆ์จังหวัดปัตตานีได้ออกแถลงการณ์ 20 ข้อรวมและหนึ่งในเรียกร้องนั้นขอให้รัฐบาลยุบ กอส. ด้วย

 

จากนั้นพระอุดมธรรมคณี กล่าวว่า เมื่อพระออกความเห็นก็หาว่าพระยุ่งกับการเมือง แต่ความจริงการเมืองเข้าไปในวัด พระที่ถูกฆ่าก็ตายในวัด เพราะพระจะไม่ออกไปนอกวัดนอกจากบิณฑบาตหรือมีกิจนิมนต์

 

 "อาตมาขอแถลงอีกครั้งว่า การฆ่าพระ เผากุฏิทำลายวัตถุทางศาสนา ผู้ที่ทำเป็นมนุษย์ก่อนยุคหิน ไม่มีจิตใจเป็นธรรม ไม่มีเมตตา อุเบกขาและการที่พระออกแถลงการณ์ครั้งนั้น ไม่ใช่เกิดจากพระรูปเดียวแต่เป็นความเห็นของพระ 80 วัดในปัตตานีจนกลายมาเป็น 20 ประเด็น แต่ข้อที่มุ่งมั่นที่สุด คือ การรักษาความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของผู้สุจริตต้องทำอย่างเร่งด่วน ส่วนเรื่องที่ยืดยาวทำทีหลังได้ ที่ผ่านมาพระก็อึดอัด เมื่อไม่มีใครออกพระก็ต้องออก บางทีการทำงานของหน่วยงานที่แก้ปัญหาก็ลำเอียงโดยไม่รู้ การที่พระออกมาพูดไม่ต้องการทำลายผู้หนึ่งผู้ใด แต่อยากให้โลกรู้"พระอุดมธรรมคณี กล่าว

 

นายอานันท์ ชี้แจงว่า ข้อเสนอของพระคุณเจ้า กอส.ไม่มีข้อขัดข้องแต่อย่างใด เพราะพระมีสิทธิในการแสดงความเห็น และถ้าติดตามคำให้สัมภาษณ์ของตนจะทราบว่า ขอชื่นชมและรับได้กับข้อเสนอทั้งหมดไม่เคยคิดว่าเป็นเรื่องการเมือง แต่คราวนี้อยากนมัสการและชี้แจงถึงความเห็นบางประการที่ไม่ตรงกัน

 

นายอานันท์ กล่าว  3-4 เดือนแรกที่กอส.มักจะพบกับผู้นำมุสลิมนั้น เพราะได้วิเคราะห์แล้วว่าปัญหาในสามจังหวัดไทยพุทธไม่ใช่ผู้ก่อปัญหา แม้จะมีความหวาดกลัว เนื่องจากรัฐบาลไม่สามารถรักษาชีวิตและทรัพย์สินได้ แต่ก็ยังอุ่นใจที่มีรัฐบาลเป็นชาวพุทธ ขณะที่ไทยมุสลิมก็มีความกลัวเหมือนกัน และคิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจากรัฐบาล  กอส.จึงเห็นว่าปัญหาอยู่ที่ไหนก็จะไปหาตรงนั้น ดังนั้น กอส.จึงถูกกล่าวหาว่าไม่เป็นกลาง

 

ขณะที่นายอานันท์กำลังชี้แจงเรื่องโครงสร้างของกรรมการ กอส.โดยยืนยันว่า มีกรรมการที่นับถือศาสนาพุทธจำนวนมากกว่ามุสลิมและในจำนวนนั้นมีพระสงฆ์ร่วมอยู่ด้วย 2 รูปนั้น พระครูพิพัฒน์ ได้แย้งขึ้นว่าพระทั้งสองรูปมาจากไหน นายอานันท์ตอบว่า พระรูปหนึ่งคือพระไพศาล  วิสาโล แห่งวัดป่า จ.ชัยภูมิ เป็นพระซึ่งทำเรื่องการแก้ปัญหาความขัดแย้งทางสันติวิธี  และอีกรูปหนึ่งคือพระครูธรรมธรนิพล โชตโก เจ้าอาวาสวัดทุ่งข่อย อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี

 

พระครูพิพัฒน์ได้แย้งว่า เจ้าอาวาสวัดทุ่งข่อยไม่ใช่คนปัตตานีโดยกำเนิดแต่เป็นคนนครศรีธรรมราช จะรู้ปัญหาได้อย่างไร

 

นายอานันท์ ยืนยันว่าเป็นพระที่อยู่ในปัตตานีนานถึง 16-17 ปี แต่พระครูพิพัฒน์ บอกว่า วัดทุ่งข่อยเพิ่งตั้งไม่ถึง 10 ปีจะอยู่ถึง 16-17 ปีได้อย่างไร และการเลือกพระเข้าไปแก้ปัญหาควรเป็นพระในพื้นที่ซึ่งเกิดในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เพราะพระในพื้นที่รู้เหตุการณ์ดีแต่ไปเอาพระจากพื้นอื่นถามว่าใครเป็นคนแต่งตั้ง

 

"ผมเป็นคนแต่งตั้งเอง  แต่เราไม่ได้เลือกพระในลักษณะของตำแหน่ง" นายอานันท์ กล่าว

 

พระครูพิพัฒน์ แย้งว่า ไม่ใช่เรื่องตำแหน่ง แต่พระรูปดังกล่าวเคยมาเจอกับพระในพื้นที่บ้างหรือไม่ พระที่อยู่ในพื้นที่ไม่ค่อยรู้จักกับพระที่มาทำงานกับ กอส.  เช่นนี้จะทำงานกันได้อย่างไร ที่ผ่านมาไม่เคยมาคลุกคลีกับพระ ไม่ต้องมีตำแหน่งก็ไม่เป็นไร แต่ขอให้สัมพันธ์กับพระในพื้นที่ เขาเป็นพระสายธรรมยุตที่มีวัดในความรับผิดชอบไม่กี่แห่ง แต่วัดส่วนมากในภาคใต้เป็นมหานิกายอยากถามว่าที่จะสมานฉันท์จะไปสมานฉันท์กับใคร

 

นายอานันท์  กล่าวว่า สมานฉันท์กับประชาชนทั่วไป

 

พระครูพิพัฒน์ ยังถามอีกว่า แล้วรู้ได้อย่างไรว่าใครขัดแย้งกับใคร และใครจะสมานฉันท์ได้หรือไม่ได้ และรู้หรือไม่ว่าใครเป็นโจร

 

นายอานันท์ ตอบว่า ได้ถามนายกฯแล้วนายกฯยังไม่ทราบว่าโจรเป็นใคร และไม่ใช่หน้าที่ของกอส.เราไม่มีข่าวกรอง  เราไม่มีกลไกที่จะไปค้นหาได้

 

พระครูพิพัฒน์ กล่าวว่า นายกฯไม่รู้แล้ว ฝ่ายปกครองไม่รู้เหรอ นี่กี่ปีไปแล้วที่พระตาย  พระเคยเรียกร้องไหม

 

นายอานันท์ กล่าวว่า อันนี้ท่านต้องไปถามนายกฯ  หลายประเด็นที่ท่านตั้งคำถามคงไม่ยุติธรรมหากจะถามผม  จะต้องไปถามนายกฯ ถามรัฐบาลสิครับ

 

จากนั้นพระครูพิพัฒน์ ได้เปิดประเด็นพระที่ถูกฆ่าว่า กอส.จะมีมาตรการอย่างไรเพราะ พระไม่ได้ไปหาเรื่อง แต่อยู่วัดก็ตาย นายอานันท์ กล่าวว่า ก็ตายทั้งมุสลิม อุสตาช  ก็ตาย

 

พระครูพิพัฒน์ กล่าวตอบว่า ตายตรงไหน ตายในปอเนาะ มัสยิดหรือเปล่า  แต่พระตายในวัดนะ ซึ่งนายอานันท์ตอบว่า หากผมเป็นท่านผมก็คงจะไปถามนายกทักษิณมากกว่า

 

 "นายกทักษิณ  ไม่เคยมาพูดเลย ไปรับกฐินตอนมาถวายรีบไปเลย ไม่เคยได้เจอกันหรอกแล้วบอกว่ามาพบผู้นำศาสนา  ฝากถามว่ามาพบผู้นำศาสนาฝ่ายไหน ศาสนาพุทธ นายกทักษิณเคยมาพบกันบ้างไหม ไปพูดกับพระลูกแถว และพระระดับผู้ใหญ่เคยพูดกันบ้างหรือไม่ ระดับเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะอำเภอ  ไม่เคยไปหา  ตรงนี้อาตมาของฝากไว้หน่อย"พระครูพิพัฒน์ กล่าว

 

 พระครูพิพัฒน์ กล่าวว่า การทำงานสมานฉันท์  รับรู้เหตุการณ์ จะต้องมาหาวัดผู้ใหญ่  เพราะเป็นผู้ปกครองทั้งจังหวัด จะไปหาพระลูกแถว หรือชาวบ้านอย่างเดียวไม่เพียงพอ พระถูกฆ่าที่วัดพรหมประสิทธิ์  มาแก้ปัญหาด้วยการถวายเงินมาสร้างกำแพงวัด  ถูกต้องไหม  แก้ได้ไหมระยะยาว ไม่ใช่มาแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

 

จากนั้นพระอุดมธรรมคณี กล่าวเสริมว่า เมื่อพระออกความเห็นก็หาว่าพระยุ่งกับการเมือง แต่ความจริงการเมืองเข้าไปในวัด พระที่ถูกฆ่าก็ตายในวัด เพราะพระจะไม่ออกไปนอกวัดนอกจากบิณฑบาตหรือมีกิจนิมนต์

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท