Skip to main content
sharethis



 


วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2005 18:18น. 


ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย


 


ข้าราชการครูในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นับหมื่นคน ร่วมลงชื่อขอให้ครม.ทบทวนตัดเบี้ยเสี่ยงภัยจาก 2,500 บาทต่อเดือน เหลือเพียง 1,000 บาท จี้ให้รัฐบาลรับรองพื้นที่ไหนปลอดภัยไม่เสี่ยงบ้าง


 


นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ ตัวแทนข้าราชการครู ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะประชุมร่วมกัน เพื่อหารือเรื่องที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงการคลังยกเลิกการจ่ายเงินตอบแทนพิเศษรายเดือนสำหรับผู้ปฏิบัติงานในเขตพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือเบี้ยเสี่ยงภัยจากเดิมที่มีการจ่ายให้ในอัตราเดือนละ 2,500 บาท แต่ตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นมาตัดเหลือเดือนละ 1,000 บาท


 


"ขณะนี้ข้าราชการครูทั้ง 3 จังหวัดกว่า 10,000 คนได้ลงชื่อคัดค้าน และขอให้รัฐบาลทบทวนเรื่องดังกล่าวแล้ว การหารือในวันที่ 15 พฤศจิกายนนี้ เราจะมีแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ และหาทางนำรายชื่อทั้งหมดเสนอต่อไปยังระดับสูงต่อไป" นายบุญสมกล่าว


 


ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวอีกว่า การยกเลิกเบี้ยเสี่ยงภัยดังกล่าวก่อให้เกิดผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงานในพื้นที่พิเศษของข้าราชการครู ลูกจ้าง และบุคคลากรทางการศึกษาเป็นอย่างยิ่ง เพราะขณะสถานการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในเขตพื้นที่ยังไม่ยุติ  ขอให้ผู้บริหารระดับสูง หรือใครก็ตามที่สั่งยกเลิกการจ่ายเบี้ยเสี่ยงภัยดังกล่าว ระบุมาเลยว่า ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีพื้นที่ไหนบ้างที่ปลอดภัย ขณะนี้เรียกได้ว่า อยู่ในภาวะสงคราม มีใครรับรองได้บ้างว่าพื้นที่ไหนไม่เสี่ยง


 


ทั้งนี้รัฐบาลมอบหมายให้กองอำนวยการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กอ.สสส.จชต.)เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบในการกำหนดความชัดเจนการจัดกำลังคนของทุกหน่วยงานเพื่อเป็นกรอบในการบรรจุรายชื่อข้าราชการให้ปฏิบัติงานตามแผนยุทธศาสตร์ในการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งจะได้รับเงินตอบแทนพิเศษรายเดือนหรือเบี้ยเสี่ยงภัยเดือนละ 2,500 บาท


 


พ.อ.บัญชา  เขางาม นายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำส่วนกำลังพล ( กอ.สสส.จชต.) กล่าวถึงวัตุประสงค์ในการให้เบี้ยเสี่ยงภัยแก่ข้าราชการในพื้นที่  3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า เงินในส่วนนี้ให้เพื่อที่จะสร้างขวัญและกำลังใจให้แก่ข้าราชการที่ปฏิบัติงานในพื้นที่เสี่ยงภัยจริงๆ ซึ่งมีปัญหาว่าในปีที่แล้วข้าราชการทุกคนได้รับเงินเท่า ๆ กัน แต่บางคนก็ปฏิบัติงานไม่เท่ากันหรือลักษณะงานที่มีความเสี่ยงนั้นไม่เท่ากัน อย่างเช่น ข้าราชการตำรวจ ทหาร ซึ่งจะจัดให้เข้าแผนยุทธ์ศาสตร์แน่นอน แต่สำหรับข้าราชการอื่น ๆ เช่น ข้าราชการครู จะต้องมีการวางกรอบอื่น ๆ ที่ ชัดเจนมากขึ้น


 


"ใครจะได้มากได้น้อยนั้นก็ต้องมีการยอมรับและทำใจว่าถ้าชื่ออยู่ในแผนยุทธศาสตร์ก็จะได้ 2,500 บาทถ้าไม่มีชื่อก็จะได้เพียง 1,000 บาทเท่านั้น การที่จะให้เงินข้าราชการเท่ากันทุกคนคงทำไม่ได้เพราะขึ้นอยู่กับงบประมาณด้วย ซึ่งอาจจะไม่ยุติธรรมเท่าไหร่นักแต่ในอนาคตนั้นคาดการณ์ไว้ว่าอาจมีการหมุนเวียนรายชื่อหรือเอาเงินงบประมาณทั้งหมดมารวมกันแล้วหารยาวก็น่าจะเป็นแนวทางที่สามารถแก้ไขปัญหาเพื่อให้เกิดความยุติธรรมมากขึ้น"พ.อ.บัญชากล่าว


 


นอกจากนี้ พ.อ.บัญชา ได้เปิดเผยถึงสาเหตุของการปรับเปลี่ยนระเบียบการให้เบี้ยเสี่ยงภัยแก่ข้าราชการในพื้นที่ว่า ทางหน่วยงานได้มีการจัดการประชุมเรื่องนี้แล้ว และขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อตรวจสอบและอนุมัติ ซึ่งยังไม่ทราบแน่ชัดว่าจะเสร็จสิ้นเมื่อใด ในส่วนของรายละเอียดของโครงการที่เสนอไปได้วางกรอบที่จะบรรจุอัตราข้าราชการให้ปฏิบัติงานตามแผนยุทธศาสตร์ไว้ 6 หมื่นอัตรา ในปีงบประมาณ 2549 นี้ เป็นเงินทั้งสิ้นกว่า 1,800 ล้านบาท แต่ก็ต้องรอผลจากคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งว่าจะอนุมัติให้ตามจำนวนที่เสนอไปหรือไม่อย่างไร ซึ่งอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงได้"


 


ด้านพ.ต.วาทยุทธ์ ชูช่วย เจ้าหน้าที่ประจำส่วนกำลังพล กอ.สสส.จชต. กล่าวถึงรายละเอียดของโครงการนี้ว่า โครงการเบี้ยเสี่ยงภัยมีตั้งแต่ปีงบประมาณ  2548 โดยในระเบียบการระบุให้ข้าราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับเงินในอัตราคนละ 2,500 บาท แต่ในปีงบประมาณ 2549 นี้ ได้ปรับเปลี่ยนโดยจะจัดสรรให้เฉพาะข้าราชการและลูกจ้างประจำที่ได้รับการบรรจุให้ปฏิบัติงานตามแผนยุทธศาสตร์ในการในการเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ของคณะกรรมการนโยบายเสริมสร้างสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้(กสชต.) เท่านั้น  ส่วนข้าราชการอื่น ๆ ที่เหลือจะได้รับเงินสวัสดิการสำหรับการปฏิบัติงานประจำสำนักงานในพื้นที่พิเศษ (สปพ.) ในอัตราคนละ 1,000 บาทต่อเดือน เท่ากันทุกคน

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net