นายอุทิศ ชูช่วย นายกเทศมนตรีนครสงขลา กล่าวถึงปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลภาคใต้ ด้านอ่าวไทย ซึ่งอยู่ในขั้นวิกฤติว่า ถึงเวลาแล้วที่รัฐบาลจะกำหนดเรื่องนี้ขึ้นเป็นวาระแห่งชาติ เพราะเป็นปัญหาที่ต้องระดมสรรพกำลังเข้ามาแก้ไขอย่างเร่งด่วน จากการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นประชาชน ของกรมทรัพยากรธรณี ที่จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2518 ทางกรมทรัพยากรธรณีแจ้งว่า ไม่มีงบประมาณในการแก้ปัญหา เนื่องจากการกัดเซาะชายฝั่งทะเลภาคใต้ เริ่มตั้งแต่จังหวัดนราธิวาสขึ้นไปจนถึงจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
นาย
"ขณะนี้เจ้าหน้าที่ทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เนื่องจากเป็นช่วงมรสุม เกรงว่าการกัดเซาะจะรุนแรงมากขึ้น คาดว่าอาจต้องใช้ทรายอีกมาก ตอนนี้ยังไม่ได้คำนวณว่าจะต้องใช้งบประมาณเท่าไหร่ ส่วนข้อเสนอของที่ให้ซื้อทรายมาถมในจุดที่ถูกกัดเซาะนั้น สามารถทำได้ แต่ปัญหาตอนนี้คือยังไม่สามารถหาแหล่งทรายได้อย่างเพียงพอ สำหรับข้อเสนอให้ถมหาด จากผลการศึกษาของโครงการสำรวจและศึกษาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงแม้จะทำได้ แต่ปัญหาก็คือไม่สามารถหาแหล่งทรายได้มากเพียงพอ" นายอุทิศ กล่าว
ก่อนหน้านี้ ดร.
ทั้งนี้ จากการศึกษาของโครงการสำรวจและศึกษาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน สถาบันวิจัยและให้คำปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์พบว่า ชายหาดชลาทัศน์ บริเวณบ้านเก้าเส้ง - บ้านทุ่งใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา ความยาว
รายงานการศึกษาของโครงการฯ ระบุว่า การกัดเซาะอย่างรุนแรงในพื้นที่นี้มีอยู่ 2 บริเวณ คือ บริเวณชายฝั่งบ้านเก้าเส้งไปจนถึงฐานทัพเรือจังหวัดสงขลา ยาวประมาณ
สำหรับการสร้างรอหินทิ้งป้องกันคลื่นรูปตัว T 3 ตัว ความยาว
บริเวณที่ 2 คือ ชายฝั่งด้านใต้สุดรั้วของสถาบันวิจัยประมงทะเล จนถึงชายฝั่งบริเวณสถานีอนามัยบ้านทุ่งใหญ่ พื้นที่บริเวณนี้มีการถอยร่นของทะเลเซาะมาจนติดขอบถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 3044
จากการศึกษาของโครงการสำรวจและศึกษาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามัน ได้เสนอให้แก้ปัญหาการกัดเซาะบริเวณนี้ ด้วยการถมหาด เพราะเป็นชายฝั่งที่ถูกใช้ประโยชน์เพื่อการท่องเที่ยว การสร้างโครงสร้างชายฝั่งเพื่อสลายพลังงานคลื่น จะบดบังทัศนียภาพชายหาดท่องเที่ยว นอกจากนี้บริเวณเก้าเส้ง ยังมีปัญหาการกัดเซาะ การถมหาด ขาดที่จอดเรือ และการระบายน้ำเสียจากคลองสำโรงด้วย
ดังนั้น เพื่อแก้ปัญหาทั้งระบบ ทางโครงการฯ จึงเสนอให้สร้างท่าเรือขนาดเล็ก สำหรับเรือประมงพื้นบ้านบริเวณเก้าเส้งครอบคลุมคลองสำโรง และป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ลักษณะโครงสร้างเป็นเขื่อนหินทั้งสองด้าน รวมทั้งสร้างเขื่อนที่ปากคลองสำโรง เพื่อให้คลองสำโรงมีเสถียรภาพ สำหรับบ้านทุ่งใหญ่และด้านเหนือของบ้านเก้าเส้ง ทางโครงการฯ ได้เสนอให้ถมหาดและติดตามการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งข้างเคียง ค่าใช้จ่ายประมาณ 120 ล้านบาท
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)