Skip to main content
ประชาไททำหน้าที่เป็นเวที เนื้อหาและท่าที ความคิดเห็นของผู้เขียน อาจไม่จำเป็นต้องเหมือนกองบรรณาธิการ
sharethis

อินไควเรอร์/เอเอ็นเอ็น-  กระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ รายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า มีแรงงานฟิลิปปินส์ที่ไปทำงานอยู่ในต่างประเทศทั่วโลกถูกจำคุกอยู่ถึง 4, 775 คน ซึ่งขณะนี้ทางรัฐสภากำลังหาทางช่วยเหลืออยู่


 


โรลันโด อันดายา จูเนียร์ สมาชิกสภาผู้แทนจากจังหวัด คามารินส์ ซู กล่าวว่า ทางคณะกรรมาธิการตัดสินใจที่จะให้ผ่านข้อเสนอฉบับหนึ่งที่จะเพิ่มจำนวนสถานทูตฟิลิปปินส์ที่จะได้รับอนุญาตให้เก็บรายได้จากงานบริการทางด้านกงสุลต่างๆ เช่นค่าธรรมเนียมการออกวีซ่าและการต่ออายุหนังสือเดินทางได้ โดยรายได้เหล่านี้จะไว้ใช้สำหรับให้ความช่วยเหลือกับแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างแดนที่ประสบกับภาวะยากลำบาก ซึ่งรวมถึงแรงงานฟิลิปปินส์ 4,775 คนที่อยู่ในคุกต่างประเทศ


 


ยังไม่มีจำนวนที่แน่นอนในขณะนี้ว่า ค่าธรรมเนียมที่ทางการฟิลิปปินส์ได้รับจากสำนักงานในต่างประเทศเป็นจำนวนเท่าใดในแต่ละปี แต่ในอดีตนั้นทางสถานทูตจะต้องส่งเงินรายได้ส่วนนี้กลับเข้ามาที่มนิลา


 


เพื่อที่จะช่วยเหลือชาวฟิลิปปินส์ที่มีปัญหาเรื่องกฎหมายและวัฒนธรรมในต่างประเทศ อันดายา กล่าวว่า พ.ร.บ.งบประมาณปี 2006 จะอนุญาตให้สำนักงานต่างประเทศสามารถเก็บเงินรายได้จากการบริการงานกงสุลไว้ได้ถึงร้อยละ 50 ซึ่งสูงกว่าในอดีตมาก


 


อันดายา กล่าวว่า นอกจากนั้นกรมกิจการต่างประเทศก็จะจัดงบประมาณร้อยละ 5 ของกรมที่มีอยู่ 5.3 พันล้านเปโซ (ประมาณ 4 พันล้านบาท)  เพื่อใช้ในการจัดระเบียบสำนักงานกงสุลเก่าๆ ด้วย


 


อันดายากล่าวว่า ตามรายงานของกรมกิจการต่างประเทศ ปี 2004 เรื่องสถานการณ์โลกว่าด้วยเรื่องของแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างแดนนั้น ได้เน้นถึงความจำเป็นที่จะต้องให้ความช่วยเหลือแก่แรงงานที่อยู่ในส่วนของแรงงานโลกเพิ่มขึ้น


 


ทั้งนี้รายงานที่มีความหนา 430 หน้านี้ ได้คัดเลือกทำการศึกษาจากสำนักงานกงสุลในต่างประเทศ 82 แห่ง และค้นพบรายการคนฟิลิปปินส์ออกไปทำงานต่างประเทศประมาณถึง 5.7 ล้าน  รายงานดังกล่าวยังได้แสดงให้เห็นด้วยว่า จนถึงสิ้นปี 2004 มีชาวฟิลิปปินส์ถูกจำคุกอยู่ถึง 4,775 คน มีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือจากสถานทูต 5,883 คนด้วยเหตุผลที่แตกต่างกันออกไป และมีคนอีก 12,613 คนถูกส่งกลับประเทศโดยความช่วยเหลือของรัฐบาล


 


"จำนวนตัวเลขของผู้ถูกคุมขังอยู่ในต่างประเทศนี้เชื่อว่าจะเป็นเพียง 1 ใน 200 ของจำนวนแรงงานฟิลิปปินส์ในต่างประเทศทั้งหมดเท่านั้น อาจจะดูน้อยในเชิงอัตราส่วน แต่ว่าทุกๆ คนก็ควรจะได้รับความช่วยเหลือ เพราะเป็นไปตามนโยบายที่ว่า หากมีคนฟิลิปปินส์ไปติดคุกอยู่ในต่างประเทศแม้เพียงคนเดียวก็ถือว่ามากเกินไปแล้ว" อันดายากล่าว


 


ทั้งนี้ในจำนวน 4,775 คนที่ติดคุกในต่างประเทศนั้น เป็นหญิงถึง 1,103 คน และจากจำนวนสถานทูต สถานกงสุล 82 แห่งในต่างประเทศ พบว่ามีเพียง 12 แห่งเท่านั้นที่ไม่ได้มีรายงานความช่วยเหลือคนฟิลิปปินส์ในที่คุมขัง


 


"ซึ่งหมายความว่าในทุกๆ ทวีป ยกเว้นแอนตาคติการ์ ทุกๆ เขตอากาศจะสามารถพบชาวฟิลิปปินส์ได้ที่นั่น"


 


ที่ประเทศมาเลเซีย เป็นประเทศที่ชาวฟิลิปปินส์ถูกคุมขังสูงสุด คือ 1,200 คน ส่วนใหญ่อยู่ที่รัฐซาบาร์ อิสราเอลเป็นอันดับสอง ซึ่งจากรายงานของสถานทูตฟิลิปปินส์ ณ กรุงเทล อาวีฟ รายงานว่า มีชาวฟิลิปปินส์ถูกคุมขัง 1,028 คน อยู่ในเมือง ราเมลา, ฮาเดรา, เบียร์ชีวา และ โฮลอน ส่วนที่ประเทศอื่นๆก็มี ญี่ปุ่น (314) ซาอุดิอาระเบีย ( 213) สิงคโปร์ ( 192) คูเวต ( 47) และ ฮ่องกง ( 77)


 


ส่วนสาเหตุของการคุมขังชาวฟิลิปปินส์นั้น อันดายากล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนใหญ่เป็นเหตุผลเกี่ยวกับการเข้าเมือง และการทำงาน และในประเทศคูเวต เป็นประเทศที่ชาวฟิลิปปินส์ที่ประสบปัญหาแล้วให้สถานทูตมากที่สุดคือประมาณร้อยละ 40 หรือ 2,122 จาก 5,583 ราย


 


ทั้งนี้ทั้งหมดที่ต้องวิ่งเข้ามาหลบภัยในสถานทูตในคูเวตเป็นผู้หญิง ซึ่งหนีมาจากการถูกปฎิบัติอย่างเลวร้ายและการกดขี่ ที่มีตั้งแต่การคุกคามทางเพศ ทำร้ายร่างกาย และไม่จ่ายเงินเดือน เป็นต้น


 


จากรายงานของกรมกิจการต่างประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เป็นประเทศที่สองรองจากคูเวตที่มีแรงงานฟิลิปปินส์มาขอความช่วยเหลือมากที่สุด 797 คน และอันดับ 3 คือ สิงคโปร์ 448 คน


 


อันดายากล่าวว่า จากรายงานทั่วโลกพบว่า 12,613 คนที่ถูกส่งกลับประเทศนั้น ประมาณ 1 ใน 3 หรือ 4,476 คนมาจากประเทศมาเลเซีย ภายหลังจากที่รัฐบาลได้ปราบปรามแรงงานต่างชาติที่ไม่ได้จดทะเบียนเมื่อปีที่ผ่านมา รองลงมาคือซาอุดิอาระเบียจำนวน 1,094 คน ซึ่งหากคิดเป็นเปอร์เซ็นก็เป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนชาวฟิลิปปินส์ที่ทำงานอยู่ที่นั่นถึง 1 ล้านคน


 


" แต่ที่ใกล้กับอันดับสองมากคือ คูเวต ที่มีผู้ถูกส่งกลับมากถึง 1,043 ราย ซึ่งไม่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด เพราะประเทศนี้เป็นประเทศที่มีตัวเลขของแรงงานตกอยู่ในภาวะยากลำบากสูงที่สุด" อันดายากล่าว


 


--------------------------------------------------


http://www.asianewsnet.net/level3_template1.php?l3sec=8&news_id=49015









ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net