Skip to main content
sharethis


โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แย้ม สตช. ยืนยันคำสั่งห้ามเผยแพร่ภาพผู้ต้องหาต่อสื่อมวลชน ระบุเป็นไปตามรัฐธรรมนูญและกฎหมาย ขณะที่ผู้สื่อข่าวอาชญกรรมยื่นหนังสือประท้วง อ้างว่าอาจเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชน

      


พล.ต.ท.อชิรวิทย์ สุพรรณเภสัช โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่ชมรมผู้สื่อข่าวและช่างภาพอาชญากรรม ได้ยื่นหนังสือต่อ พล.ต.อ.โกวิท วัฒนะ ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อขอให้ทบทวนคำสั่ง ที่ สตช.855/2548 เรื่องการแถลงข่าวเผยแพร่ข่าว และภาพต่อสื่อมวลชน ซึ่งอาจเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข่าวสารของประชาชนว่า ผู้สื่อข่าวอาชญกรรมอาจจะได้รับคำตอบที่ไม่ถูกใจทุกฝ่ายซึ่ง สตช.จะแถลงในวันนี้ (2 ธ.ค.) โดยยืนยันว่า คำสั่ง สตช. ดังกล่าวถูกต้องตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญ และวิธีพิจารณาความคดีอาญา (ป. วิอาญา) โดยจะไม่มีการแก้ไขคำสั่งดังกล่าวใดๆ ทั้งสิ้น และได้นำเรื่องนี้ปรึกษา ผบ.ตร. ซึ่งเห็นด้วยที่จะให้คำสั่งนี้สัมฤทธิผล ส่วนขั้นตอนการปฏิบัติอาจต้องมีการทำความเข้าใจในรายละเอียดบ้าง


   


พล.ต.ท.อชิรวิทย์ ยังเปิดเผยด้วยว่า จากการประชุมทีมโฆษกที่ขึ้นตรงกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั่วประเทศ เมื่อวานนี้ ทุกคนต่างมีความเห็นตรงกันในการแถลงข่าวหรือการให้สัมภาษณ์โดยไม่มีผู้ต้องหา


 


ทั้งนี้คำสั่ง สตช.ดังกล่าว เป็นคำสั่งเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การให้สัมภาษณ์ การเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน และการจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ ของเจ้าพนักงานจะต้องไม่มีการแสดงตัวผู้ต้องหา


 


ก่อนหน้านี้ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ พร้อมคณะสภาทนายความออกแถลงการณ์สนับสนุนสำนักงานตำรวจแห่งชาติเกี่ยวกับคำสั่งดังกล่าว เนื่องจากเห็นว่า สอดคล้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ กติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง อนุสัญญาว่าด้วยการขจัดการเลือกปฏิบัติต่อสตรีในทุกรูปแบบ อนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 เป็นมาตรฐานที่ดี และเห็นว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติออกคำสั่งฉบับนี้ด้วยความถูกต้องและสอดคล้องกับบรรทัดฐานของกฎหมาย และข้อปฏิบัติในหมู่ประเทศที่พัฒนาแล้ว


      


"คำสั่งดังกล่าวถือว่าเป็นคำสั่งแรกในรอบ 50 ปีที่ผ่านมา ที่ให้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ประกอบกับการเสนอข่าวที่เน้นรูปเหตุการณ์และบุคคลที่ตกเป็นข่าว ทำให้เกิดความเคยชินต่อภาพที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะกรณีที่ผู้กระทำความผิด หรือผู้ต้องหาที่เป็นเด็กอายุไม่เกิน 18 ปี สตรี เด็ก พระภิกษุ สามเณร นักพรต นักบวช ซึ่งในต่างประเทศจะไม่มีการนำเสนอข่าวที่มีภาพชัดเจนเช่นนี้ เพราะถือว่าผู้ที่ถูกจับกุม คุมขัง หรือตกเป็นผู้ต้องหาหรือจำเลยไม่ว่ากรณีใดก็ยังถือว่าเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่จนกว่าจะมีคำพิพากษาของศาลถึงที่สุดให้ลงโทษผู้นั้น" นายกสภาทนายความกล่าว


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net