แถลงการณ์ กลุ่มสาละวินว็อชต์คัดค้านการลงนามข้อตกลงเพื่อสร้างเขื่อนในพม่าของ กฟผ.

แถลงการณ์

กลุ่มสาละวินว็อชต์คัดค้านการลงนามข้อตกลงเพื่อสร้างเขื่อนในพม่าของ กฟผ.

7 ธันวาคม 2548

 

นายไกรสีห์ กรรณสูตร ประธานบริษัท กฟผ. ประกาศเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2548 ถึงแผนการที่จะลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลทหารพม่า ในโครงการร่วมทุนเพื่อก่อสร้างเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำหลายเขื่อนในแม่น้ำสาละวินและตะนาวศรี สมาชิกของพันธมิตรสาละวินว็อชต์มีความกังวลอย่างยิ่ง และมีคำถามเกี่ยวกับกระบวนการวางแผนและดำเนินงานโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญและขาดความโปร่งใส และพื้นที่ของโครงการเขื่อนเหล่านี้ล้วนเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลทหารพม่ากระทำการละเมิดสิทธิมนุษยชน และทำสงครามกับกองกำลังชาติพันธุ์อย่างต่อเนื่อง

 

โครงการที่เป็นการลงทุนด้วยเงินทุนจากทั้งภาคเอกชนและภาครัฐขนาดใหญ่ จะส่งผลให้คนจำนวนมากต้องอพยพหาที่อยู่ใหม่ ทั้งยังมีผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม การเมืองและเศรษฐกิจ ในขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับแผนการสร้างเขื่อน ไม่มีการพูดถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ไม่มีการปรึกษาหารือกับผู้ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อมาตรา 58, 59 และ 60 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.. 2540 และพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.. 2540

 

รัฐบาลทหารพม่าทำสงครามเพื่อปราบปรามกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนมาเป็นเวลานาน ทำให้มีคลื่นผู้อพยพจำนวนมาก นอกจากนั้นยังมีการทรมาน ข่มขืน และสังหารผู้คนจำนวนมาก ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เหล่านี้จะได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเนื่องจากการสร้างเขื่อนและโครงการพัฒนาที่ตามมา การลงทุนร่วมกับรัฐบาลทหารพม่าจะทำให้ทั้งบริษัทกฟผ.และบริษัทจากจีนที่คาดว่าจะร่วมทุนด้วย มีส่วนร่วมในการกระทำอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ

 

ประธานบริษัทกฟผ.ยังกล่าวต่อไปว่า โครงการนี้ "จะช่วยสร้างรายได้ที่จำเป็นต่อประเทศพม่าอย่างมาก" ทั้ง ๆ ที่รัฐบาลทหารพม่าใช้เงินงบประมาณมากกว่าครึ่งหนึ่งของประเทศเพื่อซื้ออาวุธและพัฒนากำลังพล ผลกำไรจากการสร้างเขื่อนในพม่าจะทำให้มีการกดขี่ชนกลุ่มชาติพันธุ์ต่อไป และทำให้กองทหารพม่าเข้าไปยึดพื้นที่ทำกินของพวกเขามากขึ้น

 

การที่รัฐบาลไทยอ้างว่าการสร้างเขื่อนในประเทศเพื่อนบ้านทำให้ได้ไฟฟ้า "ราคาถูก" เป็นการมองข้ามต้นทุนที่แท้จริงทั้งด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ที่จะเกิดขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งพม่า ลาว และประเทศอื่น ๆ ดังกรณีการสร้างเขื่อนน้ำเทิน 2 ขนาด 1,070 เมกะวัตต์ ในประเทศลาว ทั้ง ๆ ที่มีการทักท้วงว่าจะส่งผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสังคมมากมาย

เราจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลไทยและบริษัทกฟผ. ซึ่งยังคงเป็นหน่วยงานของรัฐ

 

·         ให้ยกเลิกการลงนามในบันทึกความเข้าใจกับรัฐบาลทหารพม่าเพื่อร่วมทุนในการสร้างเขื่อน และไม่เข้าร่วมในโครงการใด ๆ ที่ไม่มีกระบวนการให้ประชาชนมีส่วนร่วมและมีการชี้แจงข้อมูลอย่างถ่องแท้ ทั้งนี้ตามข้อเสนอจากคณะกรรมการเขื่อนโลกและบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญไทย

 

·         ให้เปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะโดยทันที ทั้งข้อมูลเกี่ยวกับโครงการและผลกระทบที่จะมีต่อประชาชนในฝั่งไทยและพม่า โดยเฉพาะรายละเอียดเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการที่ผ่านมา รายงานการศึกษาผลกระทบด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม ข้อตกลงด้านการร่วมทุน และบันทึกความเข้าใจซึ่งมีการลงนามไปตั้งแต่หลายปีก่อน และบันทึกซึ่งลงนามเมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2548

 

 

กลุ่มพันธมิตรสาละวินว็อชต์

เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการเขื่อน

กลับหน้าแรกประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท