เรวัต สิรินุกูล โสภณ ชุมยวง
ประชาไท - ชาวประมงขนาดเล็กสงขลาร้องกรรมาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถูกประมงใหญ่ดึงแรงงานไปใช้ เผยต้นสูงจอดแล้ว 300 ลำ ด้านประมงใหญ่ขอให้เปิดจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวเพิ่ม จำกัดเขตไม่จับแรงงานต่างด้าว เหตุคนไทยไม่อยากทำ
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 10 ธันวาคม 2548 ที่สมาคมประมงจังหวัดสงขลา นาย
นาย
นายโสภณ ได้เสนออีกว่า ขอให้กำหนดพื้นที่ทำประมงให้ชัดเจนจะได้ไม่เกิดการแย่งชิงทรัพยากร และขอให้แก้ปัญหาต้นทุนด้านการประมงด้วยเพราะนับวันจะยิ่งสูงขึ้น จนขณะนี้ได้ทำให้เรือประมงชายฝั่งกว่า 300 ลำเลิกกิจการแล้วเนื่องจากประสบภาวะขาดทุน และขอให้เร่งรัดโครงการแปลงสินทรัพย์เป็นทุนด้วยเพราะชาวบ้านไม่สามารถไปกู้ยืมเงินได้จากที่อื่นแล้ว เพราะไม่มีสถานบันการเงินใดจะปล่อยเงินกู้ให้
ได้มีชาวประมงตัวแทนกลุ่มฟื้นฟูทะเลไทย กองทุนอวนลากแหลมทรายได้ยื่นหนังสื่อ เรื่องวิธีและแนวทางการแก้ปัญหาของชาวประมงขนาดกลาง-เล็ก ลงนามโดยนาย
หนังสือดังกล่าวระบุอีกว่า ชาวประมงขนาดกลาง - เล็กของให้รัฐบาลช่วยเหลือดังนี้ 1.ขยายเวลาขายน้ำมันม่วงสำหรับเรือประมงออกไปอีก จากเดิมที่จะครบกำหนดในวันที่ 7 มกราคม 2548 2.ประกันราคาสัตว์น้ำแบบเร่งด่วน 3.เรื่องนิรโทษกรรมใบอาชญาบัตรที่ผิดประเภททุกชนิดให้ต่อใหม่ได้ถูกต้อง 4.วางปะการังเทียมในทะเลให้มากเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำและอายุควรรับซื้อเรือประมงที่เจ้าของไม่มีเงินทุนที่จะประกอบการได้อีกต่อไปแล้ว
5.แต่งตั้งสมาคมประมงสงขลาเป็นผู้ประสานงานกับกรมแรงงาน ขจัดนายหน้าที่ลอกลวงคนมาทำงานโดยไม่เต็มใจและได้รับค่าตอบแทนไม่เต็มจำนวน เพราะยังมีคนที่ต้องการมาทำงานเป็นแรงงานประมงแต่ยังไม่กล้า หากมีหน่วยงานกลางดูแลและให้ความช่วยเหลือได้ก็จะมีแรงงานคนไทยเข้ามาทำงานมากเพิ่มขึ้น ซึ่งช่วยลดปัญหาขาดแคลนแรงงานได้ และ 6. ขอให้รัฐบาลดำเนินการเรื่องแปลงสินทรัพย์เป็นทุนให้สำเร็จโดยเร็ว เพราะชาวประมงไม่สามารถไปกู้เงินใครได้อีกแล้ว
ด้านนายประพร กล่าวว่า เนื่องมาจากเมื่อต้นเดือนธันวาคม 2548 เจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับจังหวัดสงขลาเข้าทำการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายในจังหวัดสงขลา โดยเฉพาะองค์การที่สะพานปลาสงขลา ได้จับกุมแรงงานต่างด้าวที่ได้ขึ้นทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายไปด้วย ทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือนร้อน จนทำให้ปลาที่อยู่ในเรือเน่าเสีย เพราะไม่มีสามารถหาแรงงานอื่นนำปลาขึ้นมาจากเรือได้ เพราะต้องเป็นแรงงานที่มีความชำนาญเฉพาะเท่านั้น แต่เป็นงานที่คนไทยไม่อยากทำ จึงได้มีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ขออนุโลมการจับกุมแรงงานต่างด้าวออกไปก่อน โดยเฉพาะในเขตรั้วขององค์การสะพานปลา
ด้านนายเรวัต กล่าวว่า ปัญหาทั้งหมดตนจะนำเข้าหารือในที่ประชุมคณะกรรมาธิการพัฒนาเศรษฐกิจสภาผู้แทนราษฎร เพื่อหาทางออกในเรืองนี้และนำเสนอต่อรัฐบาลเพื่อแก้ปัญหาต่อไป นอกจากนี้จะขอความร่วมมือกับผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ให้อะลุมอะล่วยในการกวาดล้างแรงงานต่างด้าวด้วย
จากนั้นนายเรวัต ได้ยื่นหนังสื่อขอความอนุเคราะห์จำกัดขอบเขตที่อยู่อาศัยของแรงงานต่างด้าว ต่อนายจิต เพื่อส่งต่อไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาต่อไปและนำเรียนต่อนายกรัฐมนตรีต่อไป
โดยในหนังสือดังกล่าวระบุว่า จากการะประชุมร่วมกันของคณะอนุกรรมาธิการฯ และสมาคมประมงจังหวัดสงขลา และสมาคมประมงจังหวัดสตูล ข้อเท็จจริงปรากฏว่า ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเปิดโอกาสให้จดทะเบียนแรงงานต่างด้าว ซึ่งผู้ประกอบการประมงและธุรกิจต่อเนื่องดำเนินการโดยพร้อมเพรียงกัน แต่ขณะเดียวกันยังมีปัญหาติดตามมา คือ แรงงานที่จดทะเบียน ทำงานไม่ครบกำหนด อยู่ได้ไม่นานก็ลาออกไปหรือหนีไป ซึ่งกระทรวงแรงงานฯ ไม่ได้กำหนดหลักเกณฑ์รองรับปัญหา ภาระจึงตกอยู่ที่ผู้ประกอบการ
หนังสือดังกล่าวระบุอีกว่า ทางราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการจับกุมแรงงานต่างด้าว ทำให้ผู้ประกอบการเสียหายและเดือดร้อนในด้านแรงงาน และเศรษฐกิจโดยรวม ดังนั้นผู้ประกอบการฯจึงประสงค์ให้กระทรวงแรงงานเปิดโอกาสจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวขึ้นใหม่ อย่างต่อเนื่อง และในการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ควรให้ทุกจังหวัดที่มีการประกอบการประมงจำกัดขอบเขตที่อยู่ของแรงงานต่างด้าว ได้แก่ บริเวณองค์การสะพานปลาในแนวรั้ว บริเวณแพปลา บริเวณเรือจอดตลอดแนวฝั่งคลองและแนวเรือวิ่งเข้า-ออก ระยะห่างจากแนวจอดเรือ