รัตน์ บิดู
นายเจษฎาวุธ และนาย
ด้าน "ทีมู" หรือนางสาว
ในขณะที่ พฤ โอโด่เชา ตัวแทนชาวบ้านจากบ้านแม่ลานคำ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า พวกเราเดินธรรมชาติยาตราเพื่อป่าชุมชนในครั้งนี้ ก็เพื่อคนทั้งประเทศ เป็นการเดินแบบแผ่เมตตา และสื่อสารให้คนข้างล่างได้รู้ว่า ธรรมมะ ธรรมชาติ คน นั้นอยู่ด้วยกันได้ และรู้ว่าในสภาเขากำลังพิจารณา พ.ร.บ.ป่าชุมชน ให้มีการตั้งเขตป่า "อนุรักษ์พิเศษ" ขึ้นมา ซึ่งมันจะเกิดปัญหากระทบต่อพี่น้องที่อยู่บนดอยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่เข้าใจว่า พวกเขากำลังคิดอะไรกันอยู่ การที่ทางกรรมาธิการร่วม 2 สภา คิดกันอย่างนี้ ก็เพื่อต้องการบีบไม่ให้พวกเราคนอยู่กับป่าออกไป แล้วพวกเราจะอยู่กันอย่างไร
"ซึ่งจริงๆ แล้ว ถ้าเราไม่รักษาป่า เราก็อยู่ไม่ได้ เรารักษามาโดยตลอด แต่กลับถูกกล่าวหาว่า ชาวเขาเป็นตัวทำลาย ทำไมไม่คิดกันว่า เราต่างมีชีวิต มีลมหายใจเหมือนกัน หายใจเท่าๆ กัน สูดอากาศเหมือนๆ กัน แล้วทำไมเราต้องมาแก่งแย่งเบียดเบียนกันด้วย"
อย่างไรก็ตาม นาย
ล่าสุด รายงานแจ้งว่า เมื่อเวลาบ่ายของวันที่ 12 ธ.ค. ทางคณะกรรมาธิการร่วมฯ 2 สภา ได้มีการเรียกประชุมด่วน เพื่อประเมินสถานการณ์และทบทวนในจุดยืนของประชาชน ในร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนกันอีกครั้ง ก่อนจะนำเข้าในสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 14-15 ธ.ค.นี้
ทั้งนี้ ขบวนธรรมชาติยาตราได้เดินทางเข้าถึงกรุงเทพฯ ล่าสุด ได้เดินเท้าเข้าพักแรมที่สหภาพแรงงานรถไฟ หลังจากนั้น ในวันที่ 13 ธ.ค. จะออกเดินทางจากสหภาพแรงงานไปยังสวนสันติภาพ โดยจะมีเครือข่ายพี่น้องเกษตรกร องค์กรพันธมิตรที่สนับสนุนร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชนฯ กว่า 5,000 คน จากทั่วประเทศ เข้าร่วมเรียกร้องและยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี แสดงจุดยืนว่า จะนำร่างพ.ร.บ.ป่าชุมชนเข้าพิจารณา เพื่อให้ทันสมัยประชุมสภาฯ นี้ และลงมติไม่รับร่าง พ.ร.บ.ป่าชุมชนฉบับที่แก้ไขโดยคณะกรรมาธิการร่วมกัน 2 สภา ด้วยการยืนยันตามร่างเดิมที่เสนอเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎร
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)