ภาพจาก www.manager.co.th
วันที่ 3 ของการประชุมองค์การการค้าโลก (WTO) ระดับรัฐมนตรีครั้งที่ 6 ที่ฮ่องกง ประเทศพัฒนาแล้วกำลังดิ้นรนอย่างหนักเพื่อเอาตัวให้รอดจากการถูกกล่าวหาว่าเป็นตัวการทำให้การประชุมครั้งนี้ล้มเหลว ท่ามกลางเสียงสาปแช่งจากผู้ชุมนุมด้านนอกที่เดินทางไกลไหว้ฟ้าดิน
การประชุม WTO ครั้งนี้ ต้องถือได้ว่า เป็นการประชุมครั้งแรกที่แต่ละประเทศออกมาวิพากษ์วิจารณ์ประเทศอื่นอย่างรุนแรงมากที่สุด เมื่อวานนี้ประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่ ทั้งอินเดีย และบราซิล ได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ท่าทีของประเทศร่ำรวยอย่างรุนแรง
วันนี้ (15 ธ.ค.) นาย
ผู้แทนการค้าของสหภาพยุโรปยังกล่าวด้วยว่า สหภาพยุโรป พร้อมที่จะช่วยเหลือประเทศยากจนผ่านชุดข้อตกลงว่าด้วยการพัฒนา (Development Package) ด้วยการไม่กำหนดโควต้าและไม่เก็บภาษีสินค้าที่มาจากประเทศพัฒนาน้อยที่สุด (LDC) ซึ่งแม้แต่สหรัฐฯยังไม่กล้าเสนอเช่นนี้ เพราะสหรัฐฯต้องการให้มีข้อยกเว้น รวมถึงปัญหาฝ้ายที่สหรัฐไม่ยอมแยกการเจรจา แต่พยายามผูกโยงกับการเจรจาสินค้าเกษตรทั้งหมด
ในช่วงท้ายของการแถลงข่าว ตัวแทนจากเครือข่าย "โลกไม่ได้มีไว้ขาย" ประมาณ 10-15 คนได้ใส่หมวกซานตาครอสที่มีเขาของซาตาน ร้องเพลงทำนองของจิงเกิลเบลล์ แต่ที่มีเนื้อหาประจานข้อเสนอการพัฒนาที่หลอกลวงว่า "หยุดโกหกเสียที เกมการค้าเพื่อแลกกับความช่วยเหลือ หยุดการแย่งชิงที่ดินจากคนยากจนด้วยข้อเสนอการพัฒนาที่ว่างเปล่า"
"Mandelson, Mandelson, this gift we give to you. Trade for aid is the game you play, it's empty through and through."
โดยนักกิจกรรมได้นำกล่องของขวัญซึ่งข้างในว่างเปล่า พยายามที่จะมอบให้กับนายแมนเดอร์สัน แต่ถูกหน่วยรักษาความปลอดภัยขัดขวาง จนต้องใช้วิธีโยนแทน
ขณะเดียวกัน แดนนี่ ลิปซีเกอร์ ตัวแทนจากธนาคารโลกได้แถลงข่าววิพากษ์วิจารณ์ประเทศร่ำรวยเช่นกันว่า "ประเทศพัฒนาแล้วไม่ควรปฏิเสธโอกาสทางเศรษฐกิจของประเทศกำลังพัฒนาอยู่เช่นนี้ร่ำไป การยกเลิกหนี้ ให้เงินช่วยเหลือไม่ใช่คำตอบ ในเมื่อตลาดที่ประเทศเหล่านี้จะขายสินค้าเพิ่มมากขึ้นไม่มี ทำให้ไม่มีการจ้างงานใหม่ๆ"
ธนาคารโลกนับเป็นองค์กรระหว่างประเทศองค์กรที่สองที่แสดงท่าทีชัดเจนเช่นนี้ เมื่อวานนี้ World Food Programme ซึ่งเป็นหน่วยงานของสหประชาชาติได้ลงโฆษณาในหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียล ไทมส์ ซึ่งแจกจ่ายฟรีในศูนย์ประชุม ระบุว่า การให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร หรือ food aid ตามหลักการของ WTO นั้น ส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ความอดอยากของโลกอย่างไร โดยตัวแทนเจรจาจากประเทศพัฒนาแล้ว โดยเฉพาะ สหรัฐฯ ไม่พอใจอย่างมากที่องค์กรของหสประชาชาติมาวิพากษ์วิจารณ์ประเด็นที่อยู่ระหว่างการเจรจา
ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลือด้านอาหาร หรือ food aid ตามหลักการของ WTO สหรัฐฯใช้เป็นกลไกหนึ่งในการอุดหนุนเกษตรกร ด้วยการส่งออกไปประเทศยากจน และทำลายการผลิตของประเทศเหล่านั้น เพียงเพื่อช่วยอุตสาหกรรมเกษตรขนาดใหญ่ของสหรัฐฯเท่านั้น
ในประเด็นการค้าบริการ และสินค้าอุตสาหกรรม แม้จนถึงขณะนี้จะยังไม่มีความคืบหน้า แต่ผู้สันทัดกรณีด้านการเจรจาเชื่อว่า ในช่วง 2 วันสุดท้ายอาจจะมีความพยายามผลักดันอย่างหนัก เพราะขณะนี้ นอกจากบรรษัทข้ามชาติของสหรัฐที่เป็นหัวขบวนด้านพลังงาน ก๊าซธรรมชาติ น้ำมัน และไฟฟ้า รายงานข่าวแจ้งว่า บรรษัทข้ามชาติและรัฐบาลนิวซีแลนด์กำลังพยายามรวมกลุ่มกดดัน เพื่อหวังในการทำไม้ซึ่งอยู่ในกลุ่มสินค้าที่ไม่ใช่อุตสาหกรรม
หนังสือพิมพ์เซ้าท์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า เมื่อวานนี้ (14) นายปาสคา ลามี่ ผู้อำนวยการ WTO
ได้ไปพูดคุยกับภาคธุรกิจเอกชน 30 กลุ่มจาก 60 ประเทศ เพื่อขอร้องภาคธุรกิจอย่าเพิ่งไปกดดันรัฐมนตรีของประเทศตัวเอง (ซึ่งส่วนใหญ่มาจากประเทศพัฒนาแล้ว) ให้เร่งกดดันประเทศต่างๆให้เปิดเสรีการบริการ เพื่อพวกเขาจะได้เข้าไปทำธุรกิจอย่างเต็มที่ โดยนายลามีกล่าวว่า อย่าไปทำให้เรือจม (Don"t rock the boat) เพราะขณะนี้รัฐมนตรีกำลังพยายามทำงานอย่างหนักท่ามกลางความตึงเครียด อย่างไรก็ตาม การตอบรับจากล็อบบี้ยิสต์ของภาคธุรกิจไม่ดีเท่าที่ควร เพราะมีตัวแทนบางส่วนพูดต่อหน้า ผู้อำนวยการ WTO ว่า "พวกเขาจวนจะสิ้นความอดทนแล้ว"
สำหรับบรรยากาศนอกศูนย์ประชุมฯ วันนี้เป็นการเดินรณรงค์ของกลุ่มผู้หญิงจากภาคส่วนต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการค้าเสรี และในช่วงบ่าย กลุ่มเกาตรกรเกาหลีและพันธมิตรได้ร่วมเดินรณรงค์ด้วยตามเส้นทางจากสวนวิคตอเรียจนถึงคลังสินค้าข้างศูนย์ประชุมฯ ประมาณ 3 กิโลเมตรซึ่งการเดินรณรงค์ในวันนี้เป็นกิจกรรมที่ถูกออกแบบเป็นพิเศษคือ ชาวนาเกาหลีเดินแถวหน้ากระดานเรียงห้า เดินสามก้าว แล้วก้มลงกราบพื้นดิน พร้อมกับพูดว่า ขอให้ WTO จงพินาศ เป็นภาษาต่างๆ เช่น ภาษากวางตุ้ง ภาษาอังกฤษ และภาษาเกาหลี สร้างความประทับใจให้กับผู้พบเห็นอย่างยิ่ง เพราะขบวนมีความสง่างาม และสงบ
นอกจากนี้ ขบวนยังมีการหยุดเป็นระยะเพื่อปราศรัยเป็นภาษากวางตุ้ง ภาษาทางการในฮ่องกง เพื่อสื่อสารกับประชาชนที่เดินผ่านไปผ่านมาในย่านธุรกิจใจกลางเกาะฮ่องกงถึงเหตุผลที่ทำไมชาวนาเกาหลีต้องค้าน WTO ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดียิ่ง มีประชาชนสองข้างทางปรบมือเมื่อการปราศรัยจบลง ชาวฮ่องกงบางส่วนกล่าวว่า พวกเขาค่อนข้างเข้าใจชาวนาเกาหลีที่ออกมาประท้วงอย่างรุนแรง เพราะขณะนี้เริ่มมีสื่อมวลชนรายงานข่าวถึงสถานการณ์ที่ชาวนาในเกาหลีต้องเผชิญเมื่อรัฐบาลเลิกประกันราคาข้าวและเปิดตลาดรับสินค้าเกษตรจากประเทศต่างๆ