Skip to main content
sharethis


 


 


 


เดอะ สตาร์- นายกฯมาเลเซีย ย้ำโลกมุสลิมจำเป็นต้องมีการปฎิรูป และยืนยันสายสุดโต่งและนิยมความรุนแรงที่เข้าไปเกี่ยวพันกับการก่อการร้ายสมควรถูกประณาม


 


อับดุลเลาะห์ อาหมัด บัดดาวี นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า องค์กรที่ประชุมกลุ่มประเทศมุสลิม (OIC) ซึ่งกำลังมีจำนวนสมาชิกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ได้ตระหนักดีถึงจุดอ่อนบางประการในโลกมุสลิม และพร้อมที่จะริเริ่มการจัดการแบบธรรมรัฐ (good governance) และเปิดชุมชนอย่างชาญฉลาด


 


นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า การปฎิรูปทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นในโลกมุสลิมนี้จะต้องสอดรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นของนโยบายต่างประเทศของกลุ่มประเทศสำคัญๆ ในตะวันตกที่เห็นได้ในขณะนี้


 


"ผมกำลังจะกล่าวโยงไปถึงประเด็นร้อนที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้ที่ประเทศมุสลิมและอิสลามเข้าไปเกี่ยวข้องด้วย อย่างเช่น ประเด็นของอัฟกานิสถาน ปาเลสไตน์ อิรัก และอัฟกานิสถาน" บัดดาวีกล่าวในระหว่างอาหารเย็นในการประชุม Perdana Global Peace ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม ที่ผ่านมา


 


บัดดาวียังกล่าวด้วยว่า พวกนิยมแบบสุดโต่ง (extremism) และ พวกนิยมความรุนแรง ( Radicalism) นั้น เป็นพวกที่ได้สร้างความหายนะในหลายๆ ส่วนของโลก และสมควรจะถูกประณามหากเป็นที่ประจักษ์ว่า พวกนี้มีส่วนร่วมในการก่อการร้าย


 


"อย่างไรก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถที่ตัดสินได้ว่า การก่อการร้ายนั้นเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์และศาสนาใดศาสนาหนึ่งเป็นการเฉพาะ เราจำเป็นที่จะต้องชี้ให้เห็นกันชัดๆ ว่า ผู้ก่อการร้ายที่ก่ออาชญากรรมในนามของอิสลามนั้นเป็นผู้ละเมิดต่อหลักการของอิสลาม พวกเขาไม่ได้พิทักษ์ผลประโยชน์ของศาสนา ประเทศอิสลามและมุสลิมทั้งหลายจึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของคนพวกนี้" บัดดาวีกล่าว


 


อับดุลเลาะห์ บัดดาวี ในฐานะประธาน OIC ยังกล่าวอีกด้วยว่า ทั้งชาวมุสลิม และไม่ใช่มุสลิม จะต้องไม่ตกหลุมพรางที่สร้างความสับสน ที่เกิดจากคนที่กระทำการด้วยความรุนแรงและต่อมาก็มาอ้างว่าเป็นข้อบังคับทางศาสนา


 


"การต่อสู้เพื่อต่อต้านการก่อการร้ายสากลนั้น จะต้องมีความพยายามร่วมกันในระดับนานาชาติ และจะต้องอยู่ภายใต้ความดูแลขององค์การสหประชาติ เราจะต้องมีความเป็นหนึ่งเดียวกันในการปฎิบัติการและมีความจริงใจในการตัดสินใจที่จะต่อสู้เพื่อขจัดการก่อการร้ายอย่างเต็มที่"


 


นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า สำหรับมาเลยเซียนั้นเชื่อมั่นในเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายเนื่องจากว่า จะสามารถนำศาสนามาใช้เพื่อความก้าวหน้าได้ โดยวิธีการดังกล่าวนี้เรี่ยกว่า "อิสลาม ฮัดฮารี" หรือ "อิสลามอารยะ"


 


"วิธีการดังกล่าวนี้จะมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างจัดระเบียบโลกให้มีความมั่นคง และไม่ใช่เป็นวิธีที่จะสร้างความสงบให้โลกตะวันตกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น"


 


.......................................................


ที่มา:


http://www.asianewsnet.net/level3_template1.php?l3sec=4&news_id=49806&key_word=


 


  กลับหน้าแรกประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net