วันนี้ (19 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. สมาพันธ์นักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ได้จัดสนทนากรณีคำสั่ง ตร.ที่ 855/2548 เรื่องการปฏิบัติเกี่ยวกับการให้ข่าว การแถลงข่าว การสัมภาษณ์ และการเผยแพร่ภาพต่อสื่อมวลชน โดย พล.ต.ท.
พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2540 สำนักงานตำรวจแห่งชาติรองรับการเปลี่ยนแปลงของรัฐธรรมนูญโดยเฉพาะในมาตรา 33 ที่ระบุว่า ผู้ต้องหา หรือจำเลยต้องเป็นผู้บริสุทธิ์และมาตรา 34 ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องออกคำสั่ง ที่ 855/2548 ซึ่งเป็นการวบรวมคำสั่งต่างๆทั้งหมดประมาณ 19 คำสั่ง มาเป็นคำสั่งเดียวกัน
"จริงๆ ไม่ได้ห้ามสื่อทำข่าว แค่ไม่ให้เข้ามายุ่มย่ามที่สถานีตำรวจ แต่ถ้าสื่อพบเห็นเองก็ทำได้ ในต่างประเทศเสรีภาพของสื่อเต็มที่ แต่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์และเสรีภาพของคนอื่น" พล.ต.ท.อชิรวิทย์ กล่าว
โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวอีกว่า การที่ตำรวจและสื่อออกมาเผยแพร่ข่าวที่กระทบต่อความรู้สึกของคน อันเป็นความจริงครึ่งเดียวในที่สุด การเสนอข่าวดังกล่าวก็ทำให้สังคมตัดสินไปแล้ว ความเสียหายก็เกิดขึ้น ตำรวจหลายคนใช้สื่อมวลชนสร้างผลงานของตนเอง แต่คนที่รับกรรมเต็มๆ คือ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ต้องชดใช้ค่าเสียหาย ยกตัวอย่างกรณี คดีเชอรี่แอน เป็นต้น
ด้าน นายพงษ์ศักดิ์ ได้กล่าวโดยตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับคำสั่งห้ามว่า คำสั่งดังกล่าวเท่ากับผู้ต้องหาไม่มีสิทธิอะไรเลย ถ้าผู้ต้องหาต้องการพูดกับสื่อโดยตรง ก็เป็นสิทธิส่วนบุคคล ซึ่งคำสั่งไม่ชัดเจน
เมื่อ นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวถึงกรณีดังกล่าว ทำให้ พล.ต.ท.อชิรวิทย์ รับปากและจะพยายามขยายความว่า จะไม่ตัดสิทธิผู้ต้องหา แต่จะให้พูดผ่านทนายเท่านั้น โดยย้ำว่า เป็นการป้องกัน กลัวว่าตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบจะขู่บังคับผู้ต้องหาพูด พร้อมกับรับปาก
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวต่อว่า ไม่ต้องห่วงสื่อจะถูกฟ้องฐานละเมิดสิทธิผู้ต้องหา เพราะประเด็นอยู่ที่สภาพความรู้สึกว่าต้องตกเป็นผู้ต้องหา ซึ่งความผิดยังไม่ปรากฏชัดเจน เพราะว่าเรื่องยังไม่ถึงชั้นศาล โอกาสที่เขาจะพูดกับสื่อได้ยังมี และไม่ควรถูกห้ามโดยกฏของตำรวจข้อนี้ ถ้าเขียนคำสั่งแบบนี้ ใครที่ตกเป็นผู้ต้องหา ก็หมดสิทธิแสดงออกว่า ไม่ใช่ผู้ต้องหา
"ที่น่าห่วงและเป็นความน่ากลัวของคำสั่ง เนื่องจากคำสั่งดังกล่าวเป็นคำสั่งของตำรวจ แต่เป็นการแถลงสู่สาธารณะ ถือเป็นสิทธิของผู้ต้องหา ซึ่งไม่ต่างจากสิทธิของคนธรรมดา
นายพงษ์ศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ควรจะปรึษาสภาทนายความด้วย เพราะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของมนุษย์ ทำไมต้องพูดผ่านทนาย สิ่งที่ พล.ต.ท.
"คำสั่งนี้มีผลต่อตำรวจเอง ไม่รู้ว่าท่านไปอบรมกับตำรวจอย่างไร ประชาชนเขาไม่เข้าใจความปรารถนาของคำสั่งนี้ว่า จะครบถ้วนตามที่ท่านพูดไว้หรือไม่" นายพงษ์ศักดิ์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม พล.ต.ท.
............................................................
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์