Skip to main content
sharethis

โดย ศูนย์ข่าวประชาสังคม จ. อุบลราชธานี


 


21 ธ.ค. 2548 ไทย-ส.ป.ป.ลาว เตรียมเปิดเส้นทางเดินรถโดยสารสายอุบลฯ -ปากเซ ระยะทางกว่า 130กิโลเมตร โดยจะลงนามร่วมกันระหว่างวันที่ 26 - 27 มกราคมปีหน้า ก่อนเปิดให้บริการเดินรถในเดือนกุมภาพันธ์


 


นายกนก ศิริพานิชกร ขนส่งจังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยถึงความคืบหน้าเส้นทางเดินรถโดยสาร สายอุบลฯ - ปากเซ ว่า การเตรียมเปิดเส้นทางเดินรถโดยสารระหว่างจังหวัดอุบลราชธานีกับแขวงจำปาสัก ส.ป.ป.ลาว นั้นบริษัทที่รับผิดชอบในฝั่งไทยคือบริษัทขนส่ง จำกัด ส่วน สปป. ลาว คือบริษัท ร่วมมือขนส่งโดยสารจำปาสักผ่านแดน จำกัด จะมีพิธีเซ็นสัญญาระหว่างกันในวันที่ 26 - 27 มกราคม 2549 ก่อนจะเริ่มเปิดเดินรถเที่ยวปฐมฤกษ์ได้ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2549

"รถจะออกจากสถานีขนส่งผู้โดยสารทั้งของจังหวัดอุบลราชธานี และแขวงจำปาสัก ในเวลา 07.00 น.และ 09.00 น.และเที่ยวเย็นซึ่งจะมีขึ้นในช่วงเวลา 15.00 น.และ 15.30 น.โดยรถที่ใช้ในการเดินทางจะเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด ถ้ารวมเวลาที่ใช้ในการเดินทางและผ่านด่านของ สปป.ลาว รวม 3 ชั่วโมง ด้วยระยะทาง 134 กิโลเมตร และผู้โดยสารแต่ละเที่ยวไม่เกิน 45 คน" นายกนก กล่าว


สำหรับค่ารถโดยสารรถเมล์สายอุบลฯ - ปากเซ จะคิดค่าบริการเที่ยวละ 200 บาทไทย หรือ 50,000 กีบของ สปป. ลาว โดยไม่รวมค่าทำพิธีทางศุลกากรที่บริเวณด่านชายแดนช่องเม็กของไทยและด่านวังเต่าของ ส.ป.ป.ลาว ซึ่งผู้โดยสารที่มีพาสปอร์ตอยู่แล้ว จะเสียค่าใช้จ่ายระหว่างทำพิธีทางศุลกากรประมาณ 40 บาท และจะเดินทางได้โดยสะดวก แต่หากใช้ใบบอเดอร์พาส(บัตรผ่านแดนชั่วคราว) ซึ่งสามารถอยู่ใน ส.ป.ป.ลาวได้ 3 วัน 2 คืน จะเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 100 บาทต่อคน /คืน


 


การเปิดเดินรถระหว่างประเทศในครั้งนี้ คาดว่าจะได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวภายในประเทศ 80% และนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 20 % เพราะปัจจุบันการเดินทางของพ่อค้า ประชาชน และนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเข้าไปเที่ยว ส.ป.ป.ลาวโดยเหมารถของบริษัทเอกชนเข้าไป ซึ่งในอนาคตหากได้รับความนิยมอาจเพิ่มเที่ยวรถมากขึ้นกว่านี้


 


ทั้งนี้ การเปิดสายเดินรถอุบล ฯ - ปากเซนั้น บริษัทขนส่ง จำกัด ของไทย ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายด้านการสัมปทานเส้นทางแต่อย่างใด รวมทั้งไม่รัฐบาลไม่ต้องสิ้นเปลื้องงบประมาณกับโครงการดังกล่าว เนื่องจาก บริษัทขนส่ง จำกัด มีรถปรับอากาศของบริษัทอยู่แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าโครงการดังกล่าวจะนำเม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวเข้าสู่จังหวัดอุบลราชธานี พร้อมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจภายในจังหวัดมากขึ้น โดยนักท่องเที่ยวอาจมาเลือกซื้อสินค้าโอท็อปของจังหวัดอุบลฯ กลับไปเป็นของฝากด้วย


 


สำหรับประโยชน์ที่ทาง สปป. ลาว คาดว่าจะได้รับคือแหล่งท่องเที่ยวจะเป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น เนื่องจาก สปป.ลาวมีแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติจำนวนมาก อาทิ น้ำตกหลี่ผี น้ำตกคอนพะเพ็ง เป็นต้น และในอนาคตอาจจะเพิ่มเส้นทางเดินรถเชื่อมระหว่างอุบลราชธานีกับลาวตอนใต้ เพื่อเชื่อมไปยังเมืองดานัง ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันลาวเองก็ได้มีการเสนอให้เปิดเส้นทางเดินรถระหว่างปากเซ-กรุงเทพฯ แต่เป็นเพียงข้อเสนอ ซึ่งต้องดูรายละเอียดความเป็นไปได้และความเหมาะสมของทั้งสองฝ่าย


 


ในช่วง 2 ปี ที่ผ่านมาไทย - สปป. ลาวได้เปิดเส้นทางท่องเที่ยวระหว่าง หนองคาย - เวียงจันท์ และอุดรธานี - เวียงจันทร์ ซึ่งในช่วง 3 - 4 เดือนแรกอยู่ในภาวะขาดทุนเล็กน้อย แต่เมื่อมีการประชาสัมพันธ์ทำให้นักท่องเที่ยวรู้จักมากขึ้นปัจจุบันจึงมีกำไรจากการท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและคาดว่าในช่วงแรกเส้นทาง อุบลฯ - ปากเซ ก็คงประสบปัญหาเดียวกัน ขณะเดียวกันในปี 2550 คาดว่าจะสามารถเปิดการเดินรถ มุกดาหาร - สะหวันเขต หลังจากที่การสร้างสะพานฝั่ง ไทย - สปป. ลาวแล้วเสร็จ

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net