ประชาไท—21 ธ.ค. 2548 ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ประชุมครม.อนุมัติ งบกลางประจำปี 2549 ให้กับโครงการพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง ( ตาก สุโขทัย อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์ ) และโครงการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดสุโขทัย จำนวน 540.82 ล้านบาท

สำหรับโครงการที่มีความสำคัญเร่งด่วนพร้อมดำเนินการได้ เป็นโครงการกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 4 โครงการ ได้แก่ โครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 2 โครงการคือ โครงการคลองชักน้ำ แม่น้ำน่านถึงคลองบางขอน ต.ศรีภิรมย์ อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก โครงการพัฒนาแหล่งน้ำคลองผันน้ำ คลองระบายน้ำ ต.บางระกำ อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงษ์ลี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เฉพาะจังหวัดสุโขทัย มีจำนวน 7 โครงการเป็นโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ 5 โครงการ คือโครงการทุ่งทะเลหลวง ต.บ้านกล้วย ต.ปากแคลง โครงการก่อสร้างป้องกันตลิ่งพังริมแม่น้ำยมในพื้นที่ 5 อำเภอ 26 แห่ง โครงการสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยทรวง หมู่ 12 บ้านปากทรวง ต.บ้านตึก โครงการพัฒนาล้ำน้ำแม่ลำพัน โครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กองค่าย อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และมีโครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวสุโขทัย 2 โครงการคือ โครงการพัฒนาเมืองมรดกโลก สุโขทัย ศรีสัชนาลัย เพื่อเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวและแก้ไขปัญหาความยากจน และโครงการจัดตั้งศูนย์คอลเซ็นเตอร์ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว 

ส่วนโครงการที่มีความสำคัญพร้อมดำเนินการระยะกลางเห็นควรเสนอของบประมาณปี 50 และจัดลำดับความสำคัญเมื่อเทียบกับกลุ่มจังหวัดอื่นๆด้วย รวมทั้งโครงการมีความสำคัญแต่ต้องจัดทำรายละเอียดเพิ่มเติม ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จก็ขอให้ ไปพิจารณาดำเนินการ

ทั้งนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีได้ให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า จะไม่มีการอนุมัติโครงการเขื่อนแก่งเสื่อเต้น รวมทั้งเขื่อนผาขอ ซึ่งจะกระทบกับราษฎรให้ต้องอพยพจำนวนมาก

ส่วนข้อเสนอของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เข้าสู่ที่ประชุม ครม. ในโครงการพัฒนาแหล่งน้ำวงเงิน 7,000 ล้านบาท เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งซ้ำซาก ในพื้นที่จ.เชียงใหม่ สุโขทัย อีสานใต้ ตะวันออก  นั้น ที่ประชุมอนุมัติในหลักการ ส่วนงบประมาณได้มอบหมายให้ 3 หน่วยงาน ประกอบด้วยกระทรวงเกษตรฯ สำนักงบประมาณ และสภาพัฒน์ กลับไปร่วมพิจารณารายละเอียดของโครงการ เพื่อให้เกิดความเหมาะสม และโครงการคุ้มค่าต่อการลงทุนมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ชาวบ้านต.สะเอียบ จ.แพร่ ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ครม.มีมติยกเลิกเขื่อนแก่งเสือเต้นโดยเด็ดขาด โดยแถลงการณ์ระบุว่า  จากการประชุมครม.ที่จังหวัดสุโขทัย วันที่ 20 ธ.ค.ที่ผ่านมา ครม.มิได้มีมติที่ชัดเจนว่าจะยกเลิกโครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น มีเพียงนายกรัฐมนตรีเท่านั้นที่ให้สัมภาษณ์ผ่านสื่อสารมวลชนว่าจะไม่สร้างเขื่อนแก่งเสือเต้นแล้ว อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่มีวิสัยทัศน์ ที่จะดำเนินการใช้แผนการจัดการน้ำ แบบบูรณาการ แทนการสร้างเขื่อนขนาดใหญ่ อีกทั้งยังอนุมัติแผนการจัดการน้ำ เครือข่ายอ่างเก็บน้ำขนาดเล็ก รวมทั้งแก้มลิง ทางเบี่ยงน้ำ ซึ่งจะนำไปสู่การแก้ไขปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม ได้อย่างยั่งยืน

"ประสบการณ์การต่อสู้ของพวกเรา สอนให้เรารู้ว่า รัฐบาลมิได้ให้หลักประกันใดๆ กับชาวบ้านดังที่ได้เคยสัญญาไว้ เรายืนยันที่จะต้องจัดพิธีกรรม มัดตราสังข์ ตอกฝาโลง โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น เพื่อไม่ให้โครงการเขื่อนแก่งเสือเต้น กลับมาหลอกหลอนสังคมไทยอีกต่อไป" แถลงการณ์ระบุ