Skip to main content
sharethis

นักวิชาการออกโรงประณามเด็กปลอดประสพ ถ่อยเถื่อน ที่ใช้ความรุนแรง เหิมเกริม ในขณะที่กลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่ ย้ำให้สู้กันด้วยสันติวิธีและใช้เหตุผล และยืนยันให้รัฐเปิดเผยข้อมูลโครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี หวั่นกระทบทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม จารีตประเพณี วัฒนธรรมและศาสนธรรม


 


รศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ อาจารย์ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ กล่าวถึงกรณี คนติดตามนายปลอดประสพ สุรัสวดี ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะผอ.โครงการเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี ได้ปรี่เข้าชกนายชัยพันธ์ ประภาสะวัติ ผอ.สถาบันเพื่อสิทธิชุมชน กลางเวทีรายการ "ถึงลูกถึงคน" ที่มีนายสรยุทธ ทัศนะจินดา ว่า เหตุการณ์เช่นนี้ มองได้สองแง่สองประเด็น คือ กรณีเกิดความรุนแรงในสถานที่แบบนี้ ถือว่า มีการเหิมเกริมของผู้ใช้อำนาจรัฐในทุกระดับ ที่คิดว่าตนเองจะกระทำอะไรก็ได้ ในสถานที่ใดก็ได้ เหมือนกับกรณีการอุ้มฆ่าในชายแดนภาคใต้


 


"เหตุการณ์ดังกล่าว ถือว่าเป็นสิ่งที่ควรประณาม เพราะเป็นการกระทำที่เลวทราม ถ่อยเถื่อนอย่างมาก ซึ่งหากคนติดตามเป็นเจ้าหน้าที่ข้าราชการ ก็สมควรจะต้องถูกปลดออก เพราะเป็นความเหิมเกริมในการใช้ความรุนแรงในสถานที่เช่นนี้ และนายปลอดประสพ ก็ควรจะพิจารณาตัวเอง เพราะนายไม่ดูแล ซึ่งในความเป็นไทย คำว่า นาย นั่นหมายความว่า จะต้องควบคุมดูแลลูกน้อง ไม่ใช่ให้เป็นนักเลงเถื่อนๆ แบบนี้"


 


รศ.ดร.อรรถจักร์ กล่าวต่อว่า มองอีกในแง่หนึ่ง ถือว่าเหตุการณ์ดังกล่าวมีความเหิมเกริมของข้าราชการระดับสูง โดยเฉพาะประเด็นการสร้างเชียงใหม่ไนท์ซาฟารีที่ผ่านมา ซึ่งไม่มีการทำประชาพิจารณ์ใด ๆ เลย แต่ผู้มีอำนาจก็ยังดึงดันที่จะสร้าง โดยคนอื่นไม่ได้รับรู้ และยังมีการพยายามปกปิด ไม่โปร่งใสมาโดยตลอด ครั้นพอมีคนซักถามข้อมูล ก็ออกอาการโกรธ ซึ่งเป็นความเหิมเกริมของข้าราชการระดับสูงอย่างเห็นได้ชัด


 


"ยิ่งกรณีที่นายชัยพันธ์ นำบทกวีของศักดิ์สิริ มีสมสืบ กวีซีไรต์ ออกมาอ่านในตอนท้ายของรายการ และนายปลอดประสพได้ออกอาการไม่พอใจนั้น ยิ่งชี้ให้เห็นว่า นายปลอดประสพไม่เข้าใจกวีนิพนธ์ ไม่มีสุนทรียะอรรถรสในเนื้อหากวี ทั้ง ๆ ที่บทกวีชิ้นนั้นเป็นของกวีรางวัลซีไรต์" รศ.ดร.อรรถจักร์ กล่าวทิ้งท้าย


 


ในขณะที่ พระมหาสง่า ธีรสํวโร ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า จริง ๆ แล้ว ความรุนแรงเช่นนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้น น่าจะพูดคุยกับแบบผู้ใหญ่ ใช้เหตุผลคุยกัน แน่นอนการที่นำประเด็นมาพูด ย่อมกระทบต่อบุคคลที่สาม ซึ่งย่อมสร้างความไม่พอใจ อย่างไรก็ตามทุกฝ่ายจะต้องใจเย็น ไม่แสดงอารมณ์ร่วม แต่ควรจะนำประเด็นดังกล่าวไปคิดพิจารณาว่ามันถูกต้องหรือไม่


 


"ในนามของภาคีคนฮักเจียงใหม่ ยังยึดแนวทางสันติวิธี และใช้เหตุใช้ผลมาคิดพิจารณาว่า สิ่งไหนดีหรือไม่ดี ถ้าโครงการพัฒนาใดๆ ชาวบ้านส่วนใหญ่เชื่อว่าดี เราก็ยอมรับ แต่ถ้าผลของการพัฒนาใดๆ กระทบทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม ด้านจารีตประเพณี วัฒนธรรมและศาสนธรรม เราก็อยากเรียกร้องให้มีการทบทวน เพื่อให้ชาวบ้านได้มีสิทธิร่วมคิดพิจารณา เพราะในอนาคต อีก 5 - 10 ปี มีอะไรเกิดขึ้นไปแล้ว ทุกคนก็ต้องยอมรับ และแก้ไขอะไรไม่ได้ ซึ่งเชื่อว่า มันจะเกิดผลกระทบอย่างแน่นอน เพราะแค่คิดกันว่าเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี เป็นเรื่องดี ก็ยังทะเลาะกันเลย" ตัวแทนภาคีคนฮักเจียงใหม่ กล่าว


 


อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 26 ธ.ค.นี้ เวลา 08.30 - 16.45 น. ณ ห้องประชุมทองกวาว UNISERV มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ กลุ่มภาคีคนฮักเจียงใหม่ ซึ่งเกิดจากการรวมตัวของพระสงฆ์ ลูกหลานพ่อค้าแม่ค้า ประชาชน ที่ห่วงใยในทิศทางความเจริญของจังหวัดเชียงใหม่ เห็นว่า โครงการต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังขาดการมีส่วนร่วม ทั้งในด้านการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร และการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นของประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น จึงได้จัดเวทีสาธารณะ "คนฮักเจียงใหม่" และการสัมมนา เรื่อง "สัตว์ป่ากับสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"


 


โดยในช่วงเช้า ศ.ดร.นิธิ เอียวศรีวงศ์ จากมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน จะกล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง "เชียงใหม่ ศูนย์รวมโครงการหมื่นล้าน" และมีวงเสวนาเรื่อง "กระบวนการติดตามตรวจสอบโครงการต่างๆ ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น คนเชียงใหม่จะมีส่วนร่วมอย่างไรบ้าง" โดย พระมหาสง่า ธีรสํวโร รศ.ดร.ธเนศวร์ เจริญเมือง รศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ นักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่


 


และในช่วงบ่าย มีการสัมมนา เรื่อง "สัตว์ป่ากับสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี" มีการบรรยาย เรื่อง "ปัญหาและแนวทางแก้ไข การอนุรักษ์สัตว์ป่าไทย " โดยนายพิสิษฐ์ ณ พัทลุง ประธานมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ และมีการอภิปราย เรื่อง "ปัญหาและแนวทางแก้ไขสัตว์ป่า กรณีสวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี"


 


รายงานแจ้งอีกว่า หลังการสัมมนา จะมีการออกเดินทางไปร่วมรณรงค์ต่อต้าน การเปิดร้านอาหารเนื้อสัตว์ป่าและการนำเข้าสัตว์ป่าจากต่างประเทศ ที่สวนสัตว์เชียงใหม่ไนท์ซาฟารี พร้อมร่วมกันอ่านแถลงการณ์ แสดงเจตนารมณ์ ในการอนุรักษ์สัตว์ป่าเนื่องในวันคุ้มครองสัตว์ป่าแห่งชาติ ประจำปี พ.ศ. 2548

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net