"ทักษิณ"วางศิลาฤกษ์อนุสรณ์สถานสึนามิ

ประชาไท - ทักษิณ"เป็นประธานพิธีวางศิลาฤกษ์อนุสรณ์สถานสึนามิและรำลึกเหตุการณ์ 1 ปีสึนามิที่เขาหลัก พร้อมย้ำไม่ทิ้งคนเดือดร้อนช่วยมากช่วยน้อยตามที่เหมาะ

 

งานรำลึกครบรอบ 1 ปีสึนามิ เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2548  การจัดที่รัฐบาลจัดขึ้นใน 4 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน ยกเว้นระนองและสตูล มีการทำพิธีรำลึกและไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิทั้งหมด 7 จุด โดยมีผู้เข้าร่วมทั้งคนไทยและต่างชาติหลายพันคน ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า โดยพิธีเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในเวลา 08.00 น.

 

โดยเมื่อเวลา 16.20 น. บริเวณหาดเล็ก อุทยานแห่งชาติเขาหลัก-ลำรู่ จังหวัดพังงา พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อนุสรณ์สถานสึนามิ โดยมีญาติญาติผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิและแขกที่รัฐบาลเชิญมาร่วมพิธีกว่า 500 คน โดยนายกรัฐมนตรีประกอบพิธีสงฆ์และพิธีพราหมณ์ ก่อนที่เรือของกองทัพเรือจะจอดเทียบท่า เพื่อเชิญศิลาจารึกดวงฤกษ์และชื่อประเทศผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์สึนามิมาไว้ที่บริเวณหน้าพิธี

 

จากนั้น นายกรัฐมนตรี ลงนามไว้อาลัยมีข้อความว่า "หวังว่าอนุสรณ์สถานแห่งนี้ จะเป็นสัญลักษณ์เตือนใจของความเข้าใจธรรมชาติและความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของมวลมนุษยชาติ เมื่อยามเผชิญภัยเราแสดงความรักและความห่วงใย ตลอดจนมีน้ำใจต่อกันและกัน ขอให้ดวงวิญญาณทุกดวงไปสู่สุคติ"

 

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวเปิดงานว่า ไม่บ่อยครั้งนักที่เราจะได้มีส่วนร่วมในนาทีประวัติศาสตร์และได้รับรู้ จดจำไปอีกนาน ยิ่งไปกว่านั้นนาทีที่เราได้มาพร้อมหน้ากันอยู่ ณ สถานที่แห่งนี้ ในพิธีวางศิลาฤกษ์อนุสรณ์สถานที่จะก่อสร้างเร็ว ๆ นี้ ไม่ได้เป็นแต่เพียงประวัติศาสตร์ของประเทศไทย แต่อยากจะกล่าวว่า เรากำลังเป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์สำคัญของภูมิภาคหรือของโลกว่า เหตุการณ์ธรณีพิบัติภัยสึนามิที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 ธ.ค. 2547 เป็นภัยธรรมชาติอันร้ายแรงที่สุดที่คนไทยรุ่นปัจจุบันพบเห็น ความเสียหายและผลกระทบที่เกิดขึ้นไม่ได้จำกัดเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่มีผลกระทบกว้างไปถึงหลายประเทศรอบมหาสมุทรอินเดียและหลายประเทศในทวีปต่าง ๆ

 

"ภัยธรรมชาติลักษณะนี้เป็นเรื่องใหม่ที่เราไม่คุ้นเคย หรือพูดอีกแง่มุมคือเราไม่มีความรู้ความพร้อมเพียงพอที่จะรับมือภัยสึนามิ การสร้างอนุสรณ์สถานนี้ เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะประมวลความรู้ ความเข้าใจและบทเรียนจากเหตุการณ์สึนามิที่ผ่านมาเพื่อเป็นแหล่งศึกษาภัยธรรมชาติ เป็นอนุสรณ์สถานเตือนใจให้รำลึกถึงผู้สูญเสียในเหตุการณ์ อนุสรณ์สถานแห่งนี้เป็นประหนึ่งเครื่องหมายเตือนใจให้เราดำเนินชีวิตต่อไปด้วยความไม่ประมาท ตามหลักพระพุทธศาสนา" นายกรัฐมนตรี กล่าว

 

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวอีกว่า ในนามรัฐบาลไทยขอขอบคุณผู้แทนประเทศต่าง ๆ โดยเฉพาะผู้แทนจาก 37 ประเทศที่สูญเสียประชาชนระหว่างเกิดเหตุการณ์สึนามิในประเทศไทย ตลอดจนขอบคุณผู้แทนองค์กรระหว่างประเทศ อาสาสมัคร เอ็นจีโอ มูลนิธิต่าง ๆ ที่ให้ความร่วมมือช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่มาร่วมงานครั้งนี้ พร้อมขอให้ร่วมกันน้อมจิตอธิษฐาน ตามความเชื่อของแต่ละคนเพื่ออุทิศส่วนกุศลไปยังผู้ล่วงลับ

 

ภายหลังประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์ นายกรัฐมนตรี ได้เจิมแผ่นอิฐทอง นาถ เงิน บนแผ่นศิลาฤกษ์ก่อนประกอบพิธีวางดอกไม้มงคล พลอย 9 สี โปรยข้าวตอกดอกไม้ จากนั้น นายกรัฐมนตรี กรวดน้ำรับพร ก่อนเดินเยี่ยมชมนิทรรศการบริเวณรอบอนุสรณ์สถานสึนามิ

 

พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวในการให้สัมภาษณ์ว่า การช่วยผู้ประสบภัยที่มีการร้องเรียนว่าช่วยเหลือไม่ทั่วถึงนั้น  คนที่เข้าไปแจ้งว่าได้รับผลกระทบส่วนใหญ่ ทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นคนตรวจสอบ และจะมีชื่อส่งมาที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ตนเชื่อว่าจะให้ความช่วยเหลือครบทุกคน ยกเว้นเรื่องบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ

 

"ส่วนที่ไม่ครบถ้วนจริงๆ อาจจะไม่ใช่การเสียหายโดยตรง เช่น เรือประมง เรามีหลักเกณฑ์ช่วยเหลืออยู่ลำละ 5 หมื่นบาท แต่ปรากฏว่า เรือลำนั้นราคาแพง ประชาชนก็คาดหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือเป็นล้าน เรื่องนี้จึงอยู่ระหว่างที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเข้าไปช่วยดูแล ตนได้กำชับไปว่าอย่าไปใช้กฎเกณฑ์ที่ตายตัว เพราะความเสียหายไม่เท่ากัน จึงได้มอบให้กระทรวงเกษตรฯไปดู โดยเฉพาะคนที่เสียหายมา ก็อาจจะต้องช่วยมากหน่อย" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว

 

สำหรับ การฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทางกรมสุขภาพจิตก็เข้าไปดูแลแล้ว และทำร่วมกับกรมการศาสนา แต่สิ่งที่เป็นปัญหาก็คือ เมื่อนักท่องเที่ยวยังไม่กลับมา คนเหล่านี้ก็ไม่รู้จะทำมาหากินอะไร ทำให้สภาพจิตใจย่ำแย่ พอนักท่องเที่ยวไม่มา รายได้ก็ขาดหายไป ตรงนี้คือ 1 ปีที่ผ่านมา แต่ตอนนี้นักท่องเที่ยวเพิ่งจะกลับเข้ามา และนี่คือสิ่งที่ตนเชิญเขามาเพื่อมากระตุ้นเพื่อให้เห็นสภาพปกติ และคิดว่าปีหน้าจะดีกว่านี้ ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมีน้อย ซึ่งอาจเกิดจากสภาพจิตใจเขาส่วนหนึ่ง ก็ต้องเข้าไปดูแล และต้องดูแลในเรื่องรายได้ของเขาด้วย ปีนี้น่าจะดี และจะพยายามเร่งทำต่อไป

กลับหน้าแรกประชาไท

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท