สืบเนื่องจากรัฐบาลไทย ภายใต้การนำของพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ  ชินวัตร ได้มีนโยบายเปิดเขตการค้าเสรี (Free Trade Agreement: FTA) เพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างประเทศให้มากขึ้น ซึ่งระหว่างวันที่ 9-13 มกราคมนี้ จะมีการเจรจาข้อตกลงFTA ระหว่างประเทศไทยกับประเทศสหรัฐเอมริกาในรอบที่ 6 ท่ามกลางข้อครหาของภาคประชาชนว่า การเจรจาข้อตกลงทางการค้านี้ มีวาระซ่อนเร้นแอบแฝงด้วยผลประโยชน์ของกลุ่มทุนในรัฐบาลเป็นหลักโดยที่ประชาชนส่วนใหญ่เสียประโยชน์  ดังเช่นกรณีตัวอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาแล้ว เช่น การทำข้อตกลงทางการค้าระหว่างไทย - จีน ซึ่งเกษตรกรไทยได้รับผลกระทบจำนวนมาก และการทำสัญญาดังกล่าวก็ยังไม่ได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาแต่อย่างใด

สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.)  ซึ่งเป็นองค์กรหนึ่งที่ได้ร่วมประกาศการเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านการเจรจา FTA ไทย-สหรัฐฯ ในครั้งนี้ร่วมกับเครือข่ายองค์กรภาคประชาชนไทยอีก 10 องค์กร ณ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งมีนิสิตนักศึกษา จากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์วิทยาเขตปัตตานี  มหาวิทยาลัยรังสิต และเยาวชนจากภาคใต้  รวมกว่า 100 คน ร่วมเดินขบวนรณรงค์เพื่อประท้วงรัฐบาลไทยในครั้งนี้ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ให้รัฐบาลตระหนักว่า การทำ FTA ดังกล่าว ไม่มีความชอบธรรมแต่อย่างใด ทั้งนี้ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย(สนนท.) มีความคิดเห็นและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทย ดังต่อไปนี้

1.        สนนท. เห็นว่า การเจรจาข้อตกลง FTA  ไทย-สหรัฐฯในครั้งนี้ มีวาระซ่อนเร้น เนื่องจากมีการนำผลประโยชน์ของสังคมไปแลกเปลี่ยนเพื่อผันผลกำไรให้แก่กลุ่มทุนในรัฐบาลพรรคไทยรักไทย ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากมายที่ประชาชนส่วนใหญ่เป็นผู้แบกรับ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรกร ผู้ใช้ยา หรือคนจนกลุ่มอื่น ทำให้การเข้าถึงการใช้ทรัพยากรขั้นพื้นฐานของชีวิตเป็นไปได้ยากขึ้น

2.        สนนท. ไม่เห็นด้วย กับการแปรรูปทรัพย์สินของรัฐซึ่งประชาชนเป็นเจ้าของร่วมกันให้กลายเป็นทรัพย์สินที่นายทุนเอกชนสามารถเข้ามาครอบครองเป็นส่วนตัว และไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนสิทธิของประชาชน หรือสวัสดิการของรัฐให้กลายเป็นสินค้าที่ต้องซื้อขายในระบบตลาด เนื่องจากเป็นสิ่งที่รัฐต้องรับผิดชอบภาระค่าใช้จ่ายตามหน้าที่อันพึงปฏิบัติของรัฐ เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนสามารถเข้าถึงปัจจัยขั้นพื้นฐานของการดำรงชีวิตได้อย่างเท่าเทียมกัน

3.       ตามหลักรัฐธรรมนูญ พันธสัญญาหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ ที่ส่งผลกระทบต่อประเทศ สังคม และประชาชน นโยบายหรือข้อตกลงนั้นต้องผ่านกระบวนการรัฐสภา โดยให้ผู้แทนที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนมีส่วนพิจารณาเห็นชอบด้วย แต่นายกรัฐมนตรีไม่ได้ดำเนินตามหลักการดังกล่าวแต่อย่างใด โดยอ้างว่ามีการจัดเตรียมอย่างรอบคอบแล้ว ดังนั้น เท่ากับว่า นายกรัฐมนตรีไม่เคารพหลักรัฐธรรมนูญ ไม่สนใจรัฐสภาและการมีส่วนร่วมของประชาชน  ดังนั้น การเจรจา FTA ที่ประชาชนไม่มีส่วนร่วมนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ และหากรัฐบาลยังดื้อดึงที่จะเจรจาข้อตกลงทางการค้า หรือ FTA ไทย-สหรัฐฯนี้ต่อไปโดยไม่ยั้งคิด และไม่เปิดเผยข้อมูลต่อประชาชนแล้ว นายกรัฐมนตรีก็ต้องมีความผิด ฐานล้มล้างรัฐธรรมนูญ สหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) จึงขอเรียกร้องให้รัฐสภาไทย ดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่งเพื่อดำเนินความผิดแก่นายกรัฐมนตรีอย่างเด็ดขาด

เชื่อมั่นในพลังประชาชน

10 มกราคม 2549 - จังหวัดเชียงใหม่