ประชาไท13 ม.ค. 2549 กรมชลประทานอุดรธานีเปิดใจคุยกับชาวบ้านกว่า 200 คนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายห้วยหลวงและฝายกุมภาวปี ยอมรับโครงการมีข้ผิดพลาดมาก เตรียมศึกษาผลกระทบใหม่ พร้อมเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ
ก่อนหน้านี้ ชาวบ้านกว่า 200 คนที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายห้วยหลวง และฝายกุมภาวาปี ได้รวมตัวกันในนาม "กลุ่มคนจนจากโครงการโขง-ชี-มูล" เดินเท้าตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค. มาปักหลักอยู่หน้าศาลาว่าการจังหวัดอุดรธานี และได้ชุมนุมยืดเยื้อมาเป็นเวลานานกว่าสัปดาห์ โดยกลุ่มชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องรับฟังปัญหาและพิจารณาเยียวยาความเสียหาย
กระทั่งวานนนี้ (12 ม.ค.) ชลประทานจังหวัดอดรธานี ได้เปิดการประชุมเพื่อรับฟังปัญหาโดยมีหัวหน้าสำนักงานชลประทานจังหวัดอุดรธานี ตัวแทน อบต.ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากฝายห้วยหลวง ในเขต อ.สร้างคอม อ.บ้านดุง อ.เพ็ญ ตัวแทนนายอำเภอทั้งสามอำเภอ หัวหน้าโครงการฝายหัวยหลวง และกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ เข้าร่วมเจรจาเพื่อหาข้อยุติปัญหาตามข้อเรียกร้องของผู้ชุมนุม
นายสมพร ดำนุ้ย ชลประธานจังหวัดอุดรธานี กล่าวในที่ประชุมว่า ที่ผ่านมาโครงการฝายห้วยหลวงมีข้อผิดพลาดอยู่มาก ตนไม่อยากวิจารณ์หน่วยงานราชการด้วยกัน และการผลักดันให้สร้างโครงการในช่วงนั้นยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโครงการนี้จะคุ้มทุนหรือไม่ แต่ด้วยเหตุผลทางการเมืองทำให้เร่งรัดสร้างโครงการ จึงต้องมีการศึกษาใหม่ ทั้งนี้ตามที่อธิบดีกรมชลประทานให้ความเห็นว่าโครงการต่าง ๆ ที่ได้รับมาจากกรมพัฒนาส่งเสริมพลังงาน หรือ พพ. เดิมนั้นมีความจำเป็นจะต้องศึกษาเรื่องผลกระทบ และประเมินความคุ้มทุนใหม่แทบทุกโครงการ จึงจะสามารถตัดสินใจได้ว่าควรดำเนินการต่อไปอย่างไร
ในการเจรจาได้มีการทำความตกลงเพื่อแก้ไขปัญหา เพื่อรายงานต่อผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี และดำเนินการต่อไปโดยมีข้อตกลงคือ
1.กรมชลประทานขอศึกษาทบทวนโครงการฝายห้วยหลวง ด้านผลกระทบสิ่งแวดล้อม สังคม วัฒนธรรม และประเมินความคุ้มทุนของโครงการก่อนจะตัดสินใจว่าจะมีการพัฒนาต่อไปหรือไม่
2. โครงการฝายห้วยหลวงมีเป้าหมายจะเก็บกักน้ำที่ระดับเก็บกัก 160 เมตร ลทก. ซึ่งมีพื้นที่เวนคือ 16,000 ไร่ แต่ที่ผ่านมาเก็บกักได้ที่ระดับ 154 เมตร ลทก. ซึ่งนับเป็นการลิดรอนการทำกินของชาวบ้านมานานกว่า 10 ปี แต่เป็นพื้นที่ที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ในการทำโครงการนั้น ให้ชาวบ้านที่ครอบครองทำประโยชน์อยู่สามารถเข้าไปทำประโยชน์ หรือดำเนินการขอเอกสารสิทธิได้
3.ให้ดำเนินการศึกษาตรวจสอบผู้เดือดร้อน และเยียวยาการเสียโอกาส และความเดือดร้อนของชาวบ้านอย่างเร่งด่วนต่อไป
4. ให้ตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัดแก้ไขผลกระทบจากโครงการห้วยหลวงเพื่อ
- รวบรวมเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับการไขปัญหาที่ผ่านมา เพื่อทำการรับรองข้อมูล
- ดำเนินการศึกษาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคมวัฒนธรรม ของโครงการ
- พิจารณาช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ
5. ให้กรมชลประทานเร่งรัดตัดสินใจในการกำหนดระดับการเก็บกักน้ำของฝายห้วยหลวงให้แน่นอนว่าจะเก็บกักที่ระดับใด เพื่อที่จะได้รู้ขอบเขตของพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบที่แน่นอนและชาวบ้านจะได้ไม่เสียโอกาสในการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ด้านนายเหลาไท นิลนวล ตัวแทนฝ่ายชาวบ้านที่ร่วมเจรจา กล่าวภายหลังเจรจาว่า กลุ่มชาวบ้านมีความพอใจกับข้อตกลงเบื้องต้นนี้ เพราะเป็นสัญญาณที่ดีที่ปัญหาได้นำมาพิจารณาใหม่ หลังจากที่ทอดทิ้งผู้เดือดร้อนมานาน อย่างไรก็ตามกลุ่มชาวบ้านก็ยังจะชุมนุมอยู่ที่หน้าศาลากลางต่อไป ทั้งนี้จะได้ยื่นหนังสือกับผู้ว่าฯ เพื่อจัดทำแผนการฟื้นฟูวิถีชีวิตและชุมชนที่ได้รับผลกระทบ โดยจะนำเสนอแผนการพัฒนาฟื้นฟูวิถีเกษตรกรรมยั่งยืนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบแล้วโดยจะนำเสนอแผนดังกล่าวต่อผู้ว่าฯในสัปดาห์หน้า นายเหลาไทยกล่าว
นายพร้อม ศรีสร้างคอม แกนนำชาวบ้านผู้ชุมนุม กล่าวว่า อย่างไรก็ตามชาวบ้านยังจะชุมนุมต่อไปเพื่อให้การแก้ไขปัญหาเริ่มขึ้นและจริงจัง เพราะที่ผ่านมามีความไม่โปร่งใสในเรื่องการแก้ไขปัญหาจนชาวบ้านเดือดร้อนฟรี ๆ มายาวนานนับแต่มีการสร้างฝายนี้ ส่วนเรื่องฝายกุมภวาปีจะได้มีการเจรจาในวันที่ 20 มกราคม 2549 นี้
ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)