พ.ร.ก.ฉุกเฉินไม่ขลัง "ทักษิณ"ลองยาสูตรใหม่ปั้น"กอสย."ดับไฟใต้



ไชยยงค์ มณีพิลึก นายกสมาคมนักหนังสือพิมพ์ภาคใต้แห่งประเทศไทย

 

 

วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม 2006 14:25น.

ศูนย์ข่าวอิศรา สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย

 

การต่ออายุการใช้พระราชกำหนดบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน ( พ.ร.ก.ฉุกเฉิน) ต่อไปอีกสามเดือน หลังจากที่มาแล้วหกเดือน ของรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้อยู่นอกเหนือความคาดหมายของคนทั้งประเทศ ทั้งฝ่ายที่เห็นด้วย และที่ไม่เห็นด้วย

 

หกเดือนที่ประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉบับนี้สถานการณ์ความไม่สงบที่ชายแดนภาคใต้ก็ยังมีความรุนแรงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดมา การยืนยันถึงผลดีและคุณประโยชน์ของภาครัฐว่าพ.ร.ก.ฉบับนี้มีผลทำให้สถานการณ์ดีขึ้นนั้น จึงถูกตั้งคำถามมาโดยตลอดว่าเป็นเช่นนั้นจริงหรือ

 

การตั้งคณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรม และส่งเสริมสิทธิเสรีภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ( กอสย) ที่มีนายอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา เป็นประธาน อาจเป็นการทดลองใช้แนวทางสันติวิธีและสมานฉันท์ หลังจากกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบและแนวร่วมเริ่มจะดื้อยาพ.ร.ก.ฉุกเฉิน

 

เนื่องจากรัฐบาลอ้างว่า หลังการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการแก้ปัญหา "ไฟใต้" ทำให้เจ้าหน้าที่ สามารถ จับกุม แกนนำ แนวร่วม ในขบวนการแบ่งแยกดินแดน ได้จำนวนหนึ่ง และสามารถ เปิดเกม รุกไล่ แนวร่วม ทั้งที่เป็น แนวร่วมที่แท้จริง และแนวร่วม จำยอม ให้ออกมารายงานตัว และหลบออกจากพื้นที่ ซึ่ง พล.อ.สนธิ บุญรัตกลิน ผบ.ทบ. เชื่อว่า เป็นวิธีการที่ "แยกปลาออกจากน้ำ" ได้สำเร็จ

 

ส่วนดีของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน คือทำให้ประชาชนสามารถเห็นถึงตัวเลขของผู้ถูกจับกุมได้เป็นจำนวนมาก และทำให้มั่นใจในอำนาจรัฐ เพราะก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถจับกุมผู้ก่อเหตุร้ายในพื้นที่ได้เลย

 

แต่ส่วนเสียของการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่มีมากกว่า กลับไม่มีใครกล้าที่จะนำมาเปิดเผยมากนัก เนื่องจาก "ไฟใต้" ที่เกิดขึ้นอย่างยาวนาน ได้สร้างอารมณ์ โกรธ เคียดแค้น เกลียดชัง ให้กับกลุ่มคนผู้ถูกกระทำ กลุ่มคนผู้สูญเสีย ซึ่งได้รับความเดือดร้อนในวิถีชีวิต โดยเฉพาะชาวไทยพุทธ ซึ่งเป็นคนส่วนน้อย ที่ตกเป็น "เหยื่ออธรรม" ดังนั้น ถ้าใครคัดค้าน พรก.ฉุกเฉิน หรือให้ ยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน จะถูกมองว่า คนเหล่านั้น เป็นส่วนหนึ่งของ ผู้ไม่หวังดี

 

เช่นเดียวกับที่ บรรดานักสิทธิมนุษย์ชน และ เอ็นจีโอ หรือองค์กรอื่นๆ ที่เคยออกมาคัดค้านการใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ เคยถูกกล่าวหา และตำหนิ มาแล้ว

 

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีเคยตั้งคำถามต่อองค์กร หรือกลุ่มผู้คัดค้านไม่เห็นด้วยกับการพ.ร.ก ดังกล่าวว่า"เป็นคนไทยหรือเปล่า" ดังนั้น ไม่ว่า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะมีส่วนเลวร้ายอย่างไร จึงหาผู้ที่ออกมา คัดค้าน ยากขึ้นทุกวัน

 

พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ประกาศใช้มาครึ่งปีแล้ว แต่โดยข้อเท็จจริง คนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนใหญ่ ยังไม่เข้าใจ และยังไม่มีหน่วยงานไหนที่เข้าไปทำความเข้าใจกับประชาชน

 

ในขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติ ทำให้ชาวบ้านมองภาพของพ.ร.ก.ฉบับนี้ในรูปแบบที่ว่า ใครก็ตามที่ไม่ทำตามที่เจ้าหน้าที่ต้องการ จะต้องถูกจับกุม ตามอำนาจของกฎหมายฉบับนี้

 

วันนี้ คนในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงอยู่ในภาวะจำยอม กับเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงาน ที่ใช้ อำนาจของ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการปฏิบัติการต่อประชาชนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยผู้ที่ไม่เห็นด้วย ไม่พอใจ ต่างเก็บความไม่พอใจ โกรธแค้น ไว้ภายใน เพื่อรอวันที่จะปะทุออกมา

 

ดังนั้น พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จึงเป็นเชื้อไฟอย่างดี และเป็น"เชื้อไฟ" ที่ขบวนการแบ่งแยกดินแดน ต้องการที่จะให้มี เพราะเมื่อ "เชื้อไฟ" เป็นของเจ้าหน้าที่รัฐ แนวร่วม เพียงแค่ "เป่าลม" เข้าไป ไฟใต้ ก็จะลุกลามไปเรื่อยๆ โดยไม่มีวันสงบลง

 

ถ้า พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เป็นยาวิเศษจริง หลังจากใช้มาเป็นเวลาเกือบปี เหตุการณ์ก่อการร้าย จึงควรยุติลง รวมทั้ง แกนนำ แนวร่วม ระดับสูง ควรจะลดบทบาทในการก่อการร้าย เพื่อหันมาใช้แนวทางสมานฉันท์ในการสร้าง สันติภาพ ให้เกิดขึ้น

 

แต่สถานการณ์ไม่เคยสงบลงได้เลยแม้แต่วันเดียว เป็นสิ่งที่บอกเหตุได้อย่างชัดเจนว่ากฎหมายฉบับนี้ ไม่ใช่ยาวิเศษ ในการดับ "ไฟใต้"

 

ภาพความสงบเรียบร้อยที่เกิดขึ้นบ้างในชั่วขณะจึงเป็นเพียงเปลือกนอก ที่มาจากความหวาดกลัวของ ประชาชนเท่านั้น

 

ไฟใต้ จะดับได้ จึงไม่ได้อยู่ที่มีการบังคับใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน กับประชาชน แต่ต้องขจัด"เงื่อนไข"แห่งปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งจะพบว่า ตลอดระยะเวลา 2 ปี ที่ผ่านมา เงื่อนไขที่ทำให้เกิด"ไฟใต้" ยังไม่ได้รับการขจัด ให้เป็นไปตามที่ต้องการ

 

คนที่ถูกอุ้ม ฆ่า หายไป จำนวนมาก ยังไม่มีคำตอบว่า ใครเป็นผู้กระทำ และยังไม่มีการนำเอาคนผิดมาลงโทษ ทนายสมชาย นีละไพจิตร ทนายของชาวมุสลิมที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ตายแล้ว ตามที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้เปิดเผย แต่ใครเป็นคนฆ่า ยังไม่ถูกจับกุม

 

คดีม็อบตากใบ ที่มีคนตาย เจ็บ และมีคนที่ไม่ผิดรวมอยู่ด้วย ยังไม่มีการเยียวยา คืนความเป็นธรรมให้กับพวกเขา ในขณะที่เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ กลับได้รับความชอบถ้วนหน้า รวมทั้งความอยุติธรรมอื่นๆ ที่ยังดำรงอยู่ ยังไม่ได้รับการแก้ไข ตามที่คนส่วนใหญ่ต้องการ สิ่งเหล่านี้ ไม่สามารถใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาแก้ปัญหาได้

 

การดิ้นรนของ รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ในการตั้ง คณะกรรมการอิสระเพื่ออำนวยความยุติธรรม และส่งเสริมสิทธิเสรีภาพใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ( กอสย) โดยแต่งตั้งให้นายอุกฤษ มงคลนาวิน อดีตประธานรัฐสภา เป็นประธาน เพื่อให้เห็นว่า รัฐบาลเห็นด้วยกับแนวทางสมานฉันท์ของคณะทำงานของ กอส. ที่มี นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน จึงเป็นการแก้ปัญหา "ไฟใต้"ที่ชัดเจน และตรงกับข้อเท็จจริง

 

โดย พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องการที่จะได้หน่วยงานที่เคยทรงประสิทธิภาพในการกำกับดูแล แก้ปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือ ( ศอ.บต.) ซึ่งถูก พ.ต.ท.ทักษิณ สั่งยุบทิ้งด้วยตนเองมาทดแทน ซึ่งได้มีการตั้งหน่วยงานที่ต้องการให้มาแทนที่ ศอ.บต.แล้วหลายหน่วย รวมทั้ง กอ.สสส.จชต. แต่ก็ไม่สามารถ ที่จะมาแทนที่ ศอ.บต.ได้

 

ดังนั้น กอสย. ที่กำลังจะเกิดขึ้น จึงยังไม่ใช่คำตอบว่าจะเป็น หน่วยงานที่สามารถดับ"ไฟใต้" โดยสร้างความสมาฉันท์ให้เกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ ตามที่คาดหวัง เพราะหลังจากการยุบ ศอ.บต. และ พตท.43 ในครั้งนั้นแล้ว หน่วยงานที่ตั้งขึ้นมาใหม่ทุกหน่วย ต่างประสพกับปัญหา คือ ไม่เป็นที่ยอมรับของคนในพื้นที่ ถูกมองด้วยความหวาดระแวง ไม่ให้ความร่วมมือ ไม่เชื่อว่าจะมีความบริสุทธิใจ

 

ต่างกับ ศอ.บต. ที่คนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เชื่อมั่น และเห็นว่าเป็นที่พึ่งพิงของเขาได้ ดังนั้นหน่วยงานใหม่อย่าง กอสย. จึงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์ ให้ประชาชนเห็นถึงความ จริงใจ ของรัฐบาล ในการที่จะ สมานฉันท์ อย่างแท้จริง

 

และแน่นอน กอสย. จึงเหมือนยาตัวใหม่ ที่รัฐบาลส่งมาเพื่อ ทดลอง กับหนูตะเภาในสามจังหวัดชายแดนภาคใต้อีกครั้ง และคนที่ต้องทำงานหนัก และเสี่ยงเกียรติภูมิ เป็นอย่างจริง ย่อมไม่ใช่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่เป็นนายอุกฤษ มงคลนาวิน ต่างหาก

 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไทอัพเดท ได้ที่:
Facebook : https://www.facebook.com/prachatai
Twitter : https://twitter.com/prachatai
YouTube : https://www.youtube.com/prachatai
Prachatai Store Shop : https://prachataistore.net
ข่าวรอบวัน
สนับสนุนประชาไท 1,000 บาท รับร่มตาใส + เสื้อโปโล

ประชาไท