Skip to main content
sharethis

ประชาไท - แผนพัฒนาพื้นที่เกาะพีพีไม่คืบ เลื่อนถกเส้นทางหนีภัย - ระยะถอยร่นอีกรอบ ผู้ประสบภัยสึนามิพีพีซวยต่อ "กรมอุทยานฯ" ไม่ให้ที่สร้างบ้านถาวร โบ้ยให้ไปขอป่าสงวนจากกรมป่าไม้กับเอกชนคู่พิพาท ด้าน "สุวัจน์" ห้าว ไม่สน "สผ." ติงแบบท่าเรือเกาะพีพีทำลายภูมิทัศน์ สั่งกรมขนส่งทางน้ำฯ เร่งดำเนินการด่วน เบรกผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อมอย่าขวาง


 


เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 21 มกราคม 2549 ที่เกาะพีพี นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมเพื่อบูรณาการพัฒนาพื้นที่บริเวณเกาะพีพี โดยมีชาวบ้าน ผู้ประกอบการ เจ้าของที่ดิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมกว่า 100 คน


 


นายสนธิ เตชานันท์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ได้รายงานต่อที่ประชุมเรื่องการก่อสร้างบ้านพักถาวรว่า จากการตรวจที่ดินที่ได้รับบริจาค 12 ไร่พบว่า อยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติหาดนพรัตน์ธารา - หมู่เกาะพีพี 8 ไร่กว่า ทางจังหวัดกระบี่ได้ทำหนังสือขอใช้พื้นที่ไปยังกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชแล้ว


 


นายดำรง พิเดช อธิบดีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชชี้แจงว่า ทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืชเห็นว่า การขอใช้พื้นที่อุทยานแห่งชาติมีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน เพื่อให้เกิดความสะดวกกับทุกฝ่าย ตนเสนอให้ใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติบนเกาะพีพี ที่กำลังพิพาทกันอยู่ระหว่างกรมป่าไม้กับนางวิชชุดา จันทโร แทน เพราะไม่ว่าฝ่ายใดชนะก็สามารถขอใช้พื้นที่ได้ นายสุวัจน์ จึงมอบหมายให้นายสนธินัดเจรจากับนางวิชชุดา เพื่อขอใช้พื้นที่พิพาทดังกล่าว


 


ต่อมา นายสุวัจน์ ได้สอบถามความคืบหน้าการก่อสร้างท่าเทียบเรือเกาะพีพี นายถวัลย์รัฐ อ่อนศิระ อธิบดีกรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี ชี้แจงว่า คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้ชะลอการดำเนินการ เพื่อศึกษาความเหมาะสมเพิ่มเติม เนื่องจากรูปแบบท่าเรือที่กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวี มีขนาดใหญ่ ทำลายทัศนียภาพของเกาะพีพี


 


นายสุวัจน์ จึงขอให้สำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แนะนำการออกแบบท่าเรือที่เหมาะสมสำหรับเกาะพีพี เพื่อให้กรมการขนส่งทางน้ำและพาณิชยนาวีนำกลับไปออกแบบอีกครั้ง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นายชนินทร์ ทองธรรมชาติ รองเลขาธิการสำนักนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จึงให้คำแนะนำว่า ควรลดขนาดของท่าเรือลงมาอีก


 


จากนั้น นายสุวัจน์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องซ่อมและก่อสร้างโรงพยาบาลและโรงเรียนบนเกาะพีพี ในพื้นที่เดิม


 


สำหรับระบบไฟฟ้า ทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาครายงานต่อที่ประชุมว่า ขณะนี้อยู่ในระหว่างการกำหนดจุดวางสายส่งไฟฟ้าเคเบิลใต้น้ำ พร้อมกับขอใช้พื้นที่บนเกาะพีพี 5 ไร่ เพื่อใช้เป็นที่ทำการ ใช้งบประมาณการลงทุนประมาณ 620 ล้านบาท โดยให้ผู้ใช้ไฟฟ้ารับภาระใช้ไฟฟ้าแพงกว่าพื้นที่บนบก ซึ่งการลงทุนต่ำกว่า โดยทางการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคาดการณ์ว่า ราคาค่าไฟฟ้าจะอยู่ที่ประมาณ 15 บาทต่อยูนิต


 


ส่วนระบบประปา ทางการประปาส่วนภูมิภาคชี้แจงว่า จะวางท่อประปาใต้น้ำ  วงเงินงบประมาณ 778 ล้านบาท โดยจะใช้พื้นที่บนเกาะพีพี เพื่อทำสถานีจ่ายน้ำประมาณ 5 ไร่ ในกรณีที่การประส่วนภูมิภาคต้องลงทุนเองทั้งหมด อัตราค่าน้ำจะตกยูนิตละ 30 บาท


 


สำหรับการวางระบบสาธูรณูปโภคบนเกาะพีพี ให้คณะทำงานเพื่อบูรณาการพัฒนาพื้นที่บริเวณเกาะพีพี ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เป็นประธาน นำไปพิจารณาพร้อมกับการกำหนดเส้นทางเพื่อความปลอดภัย และระยะแนวถอยร่น ในวันที่ 27 มกราคม 2549 ที่เกาะพีพี


 


จากนั้น นายสมหมาย จันทร์ทิน ในฐานะคณะทำงานเพื่อบูรณาการพัฒนาพื้นที่บริเวณเกาะพีพี ได้สอบถามต่อที่ประชุมกรณีกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จัดเก็บค่าขึ้นชมอ่าวมาหยาจากนักท่องเที่ยวคนละ 200 บาท ซึ่งมีผลกระทบต่อปริมาณนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางไปยังอ่าวมาหยา


 


นายดำรง ชี้แจงว่า เงินที่เก็บจากนักท่องเที่ยว ทางกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้แบ่งให้องค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวนาง 5 เปอร์เซ็นต์ ส่วนที่เหลือนำไปเป็นค่าใช้จ่ายในการดูแลอุทยาน เพราะงบประมาณที่ได้รับไม่เพียงพอ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านที่เข้าร่วมประชุม


 


ขณะที่บรรยากาศกำลังเริ่มตึงเครียด นายสุวัจน์จึงถือโอกาสเดินออกจากที่ประชุม นายสมหมาย บุญสบ กรรมการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติจังหวัดกระบี่ ได้เข้าหารือปัญหาการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยไม่ทั่วถึง โดยมีชาวเรือที่ยังไม่ได้รับความเหลือใดๆ มากถึง 1,177 ราย ต้องการงบประมาณความช่วยเหลือ 17,181,138 บาท นายสุวัจน์ จึงได้สั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ ดำเนินการให้ความช่วยเหลือโดยด่วน จากนั้น นายสุวัจน์ พร้อมคณะได้เดินไปชมจุดที่จะก่อสร้างท่าเรือเกาะพีพี ก่อนจะเดินทางกลับในเวลาต่อมา


 


นายณัฐวุฒิ แก่นทอง ผู้ประสานงานองค์กรความร่วมมือผู้ประกอบการรายย่อยแรงงานและชุมชนที่ประสบภัยสึนามิ เกาะพีพี กล่าวภายหลังการประชุมว่า ทางองค์กรความร่วมมือฯ ยังคงยืนยันว่า ภายในวันที่ 27 มกราคม 2549 ทางองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน จะต้องส่งร่างกรอบแผนแม่บทการพัฒนาเกาะพีพีมาให้คณะทำงานเพื่อบูรณาการพัฒนาพื้นที่บริเวณเกาะพีพีพิจารณาก่อนว่า เหมาะสมและสอดคล้องกับความต้องการของชาวบ้าน ผู้ประกอบการ และเจ้าของที่ดินบนเกาะพีพีหรือไม่ หลังจากที่คณะทำงานเพื่อบูรณาการเห็นชอบร่างกรอบแผนแม่บทแล้ว จึงจะกำหนดเส้นทางเพื่อความปลอดภัย และระยะแนวถอยร่น


 


"ผมเชื่อว่า การประชุมในวันที่ 27 มกราคม 2549 ไม่สามารถกำหนดเส้นทางความปลอดภัย และระยะแนวถอยร่นได้อย่างแน่นอน เพราะองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ยังไม่ส่งร่างกรอบแผนแม่บทมาให้พิจารณาเห็นชอบ" นายณัฐวุฒิ กล่าว


 


นายณัฐวุฒิ กล่าวด้วยว่า กรณีที่นายสุวัจน์ ยอมรับข้อเสนอของกรมอุทยานสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้ไปใช้ที่ดินป่าสงวนแห่งชาติ ที่กำลังอยู่ในระหว่างพิพาท สร้างบ้านพักถาวรให้กับผู้ประสบภัย ก็จะเป็นอีกประเด็นหนึ่งที่สร้างความไม่พอใจให้กับชาวบ้านผู้ประสบภัย ที่ยังไม่มีบ้านพักถาวรอาศัย เพราะตนเชื่อว่าขั้นตอนในการขอใช้พื้นที่ ซึ่งจะต้องขอจากกรมป่าไม้ และเอกชนคู่พิพาท อาจจะนานเป็นปี โดยไม่สามารถคาดเดาได้ว่า จะได้รับอนุญาตให้ใช้ได้หรือไม่


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net