Skip to main content
sharethis



 


ประชาไท - 24 ม.ค.49      รายงานข่าวจากในพื้นที่แจ้งว่า เมื่อวันที่ 22 ม.ค.ที่ผ่านมา ที่ห้องประชุมมูลนิธิอาสาสมัครเพื่อสังคม ตัวแทนชาวบ้านจาก จ.สระบุรี ประมาณ 15 คนจาก ต.บ้านลำ ต.เจริญธรรม ต.คลองเรือ ต.หนองสรวง อ.วิหารแดง ต.บ้านป่า และ ต.ทับกวาง ใน อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ได้แถลงข่าวความเดือดร้อนจากการก่อสร้างเสาและสายส่งไฟฟ้าแรงสูงของ บ.กฟผ.จำกัด และ โครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติวังน้อย - แก่งคอย ของ บ.ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยโครงการทั้งสองได้ใช้เจ้าหน้าที่เข้ามาดำเนินการสำรวจแนวและปรับที่ดิน ทั้งที่ชาวบ้านเจ้าของที่ดินไม่ยินยอม เมื่อมีการแจ้งความเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ โดยอ้างว่าทั้ง ปตท. และ กฟผ.มีอำนาจกระทำการได้ตามกฎหมาย


 


ทั้งนี้ โครงการทั้งสองนี้เป็นโครงการที่จะต่อเชื่อมไปยังโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2 ของบริษัท กัลฟ์ พาวเวอร์เจเนอเรชั่น จำกัด ซึ่งกำลังก่อสร้างอยู่ที่ ต.บ้านป่า อ.แก่งคอย มีกำลังการผลิต 1,468 เมกกะวัตต์ ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง หน่วยแรกมีกำหนดต้องจ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบในเดือนมีนาคม 2550 โครงการนี้ได้รับการคัดค้านจากชาวบ้านบางส่วนในพื้นที่อย่างหนักหน่วงมาตั้งแต่ปีทีแล้ว


 


สำหรับโครงการสายส่งและท่อก๊าซนั้น จะถูกวางในระยะทางกว่า 70 กม. โดยมีสายส่งอยู่ด้านบนและท่อก๊าซอยู่ด้านล่าง และการจ่ายค่าเวนคืนจะเป็นการจ่ายโดยใช้การรอนสิทธ์ คือจ่ายแค่ครึ่งเดียวของราคาประเมินโดยอ้างว่าเจ้าของที่ดินยังสามารถใช้ที่ดินได้ เช่น สามารถปลูกข้าวหรือพืชล้าลุกได้ แต่ไม่ให้ปลูกพืชยืนต้น และไม่ให้ก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างในแนวสายส่งและท่อก๊าซข้างละ 20 เมตร


 


นายประสิทธิ์ อินทโชติ ชาวบ้าน ต.บ้านลำ อ.แก่งคอยได้เรียกร้องว่า กฎหมายเช่นนี้ไม่เป็นธรรมให้อำนาจรัฐแก่เอกชนไปได้อย่างไร บริษัท กฟผ.และ ปตท.เป็นเอกชนแล้วกลับมีอำนาจมากกว่าเจ้าของที่ดินที่มีโฉนดอยู่ในมือ


 


"ผมเห็นว่ากฎหมายนี้เป็นกฎหมายที่ควรยกเลิกได้แล้ว เอาไปให้บริษัทเอกชนมากดขี่ข่มเหงชาวบ้านที่เป็นเจ้าของที่ดินได้อย่างไร ยังไม่สามารถตกลงเรื่องค่าชดเชยที่ดินกันได้ก็ขนของเข้าไปทำงาน ทั้งๆ ที่เจ้าของที่ดินทำจดหมายไปแจ้งแล้วว่าอย่ามาทำถ้ายังตกลงเรื่องค่าชดเชยกันไม่ได้ แต่กลับใช้อำนาจบุกรุกที่ชาวบ้าน เป็นการข่มเหงน้ำใจกันเกินไป" นายประสิทธิ์กล่าว


 


นายภูมพิสิฎฐ์ วัฒนารัตยากูล ชาวบ้านอีกคนหนึ่งชี้แจงว่า ชาวบ้านโดยเฉพาะคนแก่ที่เป็นเจ้าของที่ดินโดนกำนันและผู้ใหญ่บ้านเกลี้ยกล่อมให้เซ็นยินยอมให้มีการก่อสร้างเสาไฟฟ้าแรงสูงไปก่อน ทั้งๆ ที่เจ้าตัวก็บอกว่าไม่พอใจค่าชดเชยนี้ แต่กำนันผู้ใหญ่บ้านโกหกว่า เซ็นแล้วจึงค่อยอุทธรณ์ ต่อมาลูกๆ ได้ส่งใบอุทธรณ์ไปแล้วเป็นปีก็ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ


 


"ในตำบลบ้านลำ มีเพื่อนบ้านคนหนึ่งติดต่อขายที่ดินจนผู้ซื้อมาวางเงินมัดจำแล้ว ต่อมา กฟผ.มาสร้างสายส่ง ผู้ซื้อรายนั้นยอมทิ้งเงินมัดจำ และยกเลิกการซื้อที่ดินไปเลย เวลาพนักงานบริษัท กฟผ.มาบอกก็โกหกว่า ไม่เป็นไรสร้างสายส่งแล้วที่ดินก็ยังเหมือนเดิม จะเอาไปจำนำจำนองที่ไหนก็ได้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง จะมีความเจริญมากขึ้น ผมคิดว่าพวกผู้บริหาร กฟผ.หรือรัฐบาลทำในที่ดินคนอื่น ไม่โดนที่ดินของตัวเองก็ไม่รู้สึกอะไร" นายภูมพิสิฏฐ์กล่าว


 


นางสำลี อินทโชติ และนางอรทัย วงศ์ปาน ตัวแทนชาวบ้านในพื้นที่ ยืนยันว่าในวันที่ 24 ม.ค.จะไม่ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ กฟผ.เข้าทำงานตามที่ กฟผ.ได้มีหนังสือแจ้งมา ถ้ายังตกลงเรื่องค่าชดเชยกันไม่ได้


           


"เราได้ส่งจดหมายถึงผู้จัดการใหญ่ กฟผ.อุทธรณ์ให้คิดค่าชดเชยที่ใต้สายส่งเป็นการคิดแบบค่าเช่ารายปี แบบเดียวกับบริษัทโทรศัพท์มือถือเช่าที่ชาวบ้านตั้งเสาส่งสัญญาณทุกบริษัทเขาเช่า ราย 3 ปี และคิดค่าเช่าขึ้นให้อีก พร้อมจ่ายภาษีที่ดิน และทำประกันภัยหากเกิดอุบัติเหตุด้วย"


 


นางประเทือง อนุสิทธิ์ และนายสุเทพ ทิพย์ประเสริฐ ระบุว่าที่ดินของตน พ่อได้แบ่งให้พี่น้องคนละ 3 ไร่ โดนสายส่งไฟฟ้าแรงสูงพาดผ่าน เมื่อเอาโฉนดไปขอกู้เงินจากธนาคาร เจ้าหน้าที่ธนาคารระบุว่าจะตีราคาที่ดินให้เฉพาะที่อยู่นอกสายส่งเท่านั้น ใต้สายส่งจะไม่มีการนำมาคิดราคาด้วย


 


ท้ายที่สุดตัวแทนทั้ง 5 คนได้สรุปข้อเรียกร้องของชาวบ้านว่า 1.ขอให้ยกเลิกกฎหมายการรอนสิทธิ์ และยกเลิกสิทธิ์ที่พนักงาน กฟผ.และ ปตท.เข้าไปทำงานโดยเจ้าของที่ดินไม่ยินยอม 2.ให้กำหนดค่าทดแทนที่ดินตามที่เจ้าของที่ดินเห็นชอบด้วยเพื่อความเป็นธรรมแก่เจ้าของที่ดิน 3.ให้หยุดการดำเนินการในกรณีที่ดินที่เจ้าของไม่ยินยอมจนกว่าจะตกลงเรื่องค่าทดแทนที่ดินกับเจ้าของที่ดินได้


 


ขณะที่ในส่วนของ อ.วิหารแดง จ.สระบุรี ซึ่งเป็นจุดที่จะมีการวางท่อก๊าซโครงการวางท่อส่งก๊าซธรรมชาติวังน้อย - แก่งคอย ของ บ.ปตท.จำกัด (มหาชน) นายสุเทพ ทิพย์ประเสริฐ และนายประเทือง อนุสิทธิ์ชาวบ้านในพื้นที่ก็ยืนยันว่า ตนและพวกซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินทั้งหมด 9 แปลง จะไม่ยอมให้ ปตท.เข้าทำงานในที่ดินของพวกตนเด็ดขาด หากไม่มีการเจรจาเรื่องค่าชดเชยกันก่อน


 


--------------------------------------------------------
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
รู้จักกัลฟ์อิเล็คตริกและโรงไฟฟ้าแก่งคอย 2


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net