โดย ภัควดี วีระภาสพงษ์
มีรายงานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ให้เห็นว่า ผู้หญิงที่กินอาหารที่ทำจากสิ่งมีชีวิตดัดแปลงพันธุกรรม (GMO) ระหว่างการตั้งครรภ์ อาจทำให้ตัวอ่อนในครรภ์มีอันตรายได้
ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ คาดว่าองค์การการค้าโลกหรือ WTO จะสนับสนุนข้อร้องเรียนของรัฐบาลบุชที่ต้องการบังคับให้ประเทศในทวีปยุโรปยอมรับอาหารจีเอ็มโอ แต่ผลการศึกษาวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ชั้นนำจากสถาบันวิทยาศาสตร์รัสเซียค้นพบว่า กว่าครึ่งหนึ่งของลูกหนูที่เกิดจากแม่หนูที่เลี้ยงด้วยถั่วเหลืองดัดแปลงพันธุกรรม จะเสียชีวิตหลังจากเกิดได้เพียง 3 สัปดาห์ จำนวนที่ตายนี้มากกว่าลูกหนูที่เกิดจากแม่ที่เลี้ยงอาหารธรรมชาติถึง 6 เท่า นอกจากนี้ ลูกหนูที่เกิดจากแม่ที่กินถั่วจีเอ็มโอยังมีน้ำหนักน้อยถึงขั้นอันตรายมากกว่าถึง 6 เท่าด้วย
งานวิจัยที่กำลังเตรียมตีพิมพ์นี้ เป็นหนึ่งในงานวิจัยระยะหลังหลายชิ้นที่ทำให้เกิดความกริ่งเกรงว่า อาหารจีเอ็มโออาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพมนุษย์ งานวิจัยของอิตาลีค้นพบว่า ถั่วเหลืองดัดแปลงพันธุกรรมมีผลกระทบต่อตับและตับอ่อนของหนูทดลอง ออสเตรเลียต้องยอมยกเลิกความพยายามกว่าทศวรรษที่จะพัฒนาถั่วลิสงดัดแปลงพันธุกรรมขึ้นมา เมื่อการศึกษาวิจัยอย่างเป็นทางการพบว่า อาหารจีเอ็มโอชนิดนี้เป็นอันตรายต่อปอด
และเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว มีการเปิดเผยรายงานลับของบริษัทไบโอเทคยักษ์ใหญ่อย่างมอนซานโต ในรายงานระบุว่า หนูที่เลี้ยงด้วยข้าวโพดจีเอ็มโอมีไตเล็กกว่าปรกติและมีจำนวนเม็ดเลือดขาวสูงกว่าปรกติ แสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่อาหารจีเอ็มโอมีอันตรายต่อระบบภูมิคุ้มกัน
องค์การอาหารและเกษตรกรรมของสหประชาชาติจัดสัมมนาเชิงปฏิบัติการเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารดัดแปลงพันธุกรรมที่สำนักงานใหญ่ในกรุงโรมเมื่อปลายปีที่แล้ว นักวิทยาศาสตร์ที่เข้าร่วมการสัมมนา ล้วนมาพร้อมกับงานวิจัยที่แสดงความกังวลเกี่ยวกับอันตรายที่อาหารชนิดนี้อาจมีต่อสุขภาพมนุษย์ กระนั้นก็ตาม WTO ก็ยังมีทีท่าว่าจะบังคับให้ประเทศในยุโรปเปิดทางแก่อาหารจีเอ็มโอ งานวิจัยของรัสเซียชิ้นล่าสุดน่าจะมีผลกระทบต่อความคิดเห็นของชาวยุโรปเป็นอย่างมาก เพราะชาวยุโรปส่วนใหญ่ก็ต่อต้านอาหารจีเอ็มโออยู่แล้ว
งานวิจัยชิ้นนี้ทำการทดลองโดย ดร.
ดร.อีรีนาพบว่า ลูกหนูของแม่ที่เลี้ยงด้วยถั่วเหลืองจีเอ็มโอ มี 36% ที่น้ำหนักตัวน้อยจนถึงขีดอันตราย ในขณะที่ลูกหนูในกลุ่มอื่นๆ มีเพียง 6% เท่านั้นที่มีปัญหาน้ำหนักน้อย ที่น่าตกใจยิ่งกว่านั้นคือ ลูกหนูที่เกิดจากแม่ที่กินถั่วเหลืองจีเอ็มโอ มีถึง 55.6% ที่เสียชีวิตภายในสามสัปดาห์แรกหลังคลอด ในขณะที่ลูกหนูในกลุ่มที่กินถั่วเหลืองธรรมดาและไม่กินถั่วเหลืองเลยมีอัตราการตายอยู่ที่ 9% และ 6.8% ตามลำดับ
กายสัณฐานวิทยาและโครงสร้างทางชีวเคมีของหนูมีความคล้ายคลึงกับมนุษย์มาก ผลการทดลองนี้จึงยิ่งน่าวิตก มันชี้ให้เห็นว่าอาหารจีเอ็มโอมีความเสี่ยงต่อมารดาและทารกในครรภ์ แม้ว่าผลการทดลองอาจอยู่ในขั้นเริ่มต้น แต่ก็มีผลกระทบร้ายแรงจนสมควรต้องทำการทดลองต่อไปอย่างใกล้ชิด สถาบันการแพทย์สิ่งแวดล้อมอเมริกันได้ขอร้องให้สถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ สนับสนุนการทำวิจัยอย่างอิสระในเรื่องนี้ต่อไปทันที
ทั้งนี้ถั่วเหลืองจีเอ็มโอของมอนซานโตมีการบริโภคกันอย่างแพร่หลายในหมู่ชาวอเมริกัน
โทนี คูมเบส ผู้อำนวยการด้านกิจการสาธารณะของบริษัทมอนซานโตในอังกฤษกล่าวว่า "มีหลักฐานจำนวนมากจากงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ที่ศึกษาวิจัยอย่างอิสระ มีการตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญและตีพิมพ์ออกมาแล้ว ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นว่า ถั่วเหลือง "ราวด์อัพเรดี" (Roundup Ready) เป็นอาหารที่ปลอดภัยต่อการบริโภคของหนู รวมทั้งสัตว์ชนิดอื่นๆ ที่นำมาทดลอง"
.
ที่มา : จาก Geoffrey Lean, "GMOs: Unborn babies could be harmed," Asheville Global Report: http://www.agrnews.org 16 January, 2006