Skip to main content
sharethis

9 กุมภาพันธ์ 2549


คณาจารย์รัฐศาสตร์รามฯ ร่วมวงไล่'ทักษิณ'


 


          คณาจารย์คณะรัฐศาสตร์ รามคำแหง ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาตัวเอง เพื่อชาติและประชาชนไทยเป็นส่วนรวม ขอให้ลาออก หรือยุบสภา ตามกติกาประชาธิปไตยโดยเร็ว


          หนังสือเรียกร้องให้เหตุผลว่า ได้ติดตามความเคลื่อนไหว และท่าทีห่วงใยชาติบ้านเมืองของคนไทยบางส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาเพื่ออาจารย์จากสถาบันต่างๆ อย่างใกล้ชิดด้วยความชื่นชมและขอสนับสนุนข้อเรียกร้อง และท่าทีต่างๆด้วยความกระตืนรือร้น


          อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหงพิจารณาเห็นว่าการเมืองแบบประชาธิปไตยต้องเป็นประชาธิปไตยทั้งรูปแบบและจิตใจ ทั้งนักการเมืองและประชาชนต้องมีส่วนร่วมทางการเมืองอย่างรู้สำนึกและมีความตระหนักในความรับผิดชอบต่อสังคมเป็นส่วนรวม และที่สำคัญทั้งนักการเมืองและประชาชนต้องมีศีลธรรมและจริยธรรม การเมืองที่ขาดศีลธรรมและจริยธรรม เป็นการเมืองที่จะนำ ประเทศชาติไปสู่ความพินาศ


          พวกเราพิจารณาว่า รัฐบาลของพรรคไทยรักไทย ภายใต้การนำของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ได้รับชัยชนะอย่างล้นหลามในการเลือกตั้งปี 2544 และ 2548 จนสามารถจัดตั้งรัฐบาลที่มีฝ่ายบริหารที่เข้มแข็งมาก และเป็นรัฐบาลพรรคเดียวในปัจจุบัน เป็นการเข้ามาเป็นรัฐบาลที่ถูกต้องตามรูปแบบของประชาธิปไตยอย่างเป็นทางการและตามกฏหมาย แต่เราไม่คิด และไม่แน่ใจว่า นักการเมืองที่เข้ามาเป็นฝ่ายบริหารและฝ่ายนิติบัญญัติ เพื่อใช้อำนาจแทนประชาชนนั้น เข้ามาอย่างมีศีลธรรมและจริยธรรม ชัยชนะในการเลือกตั้งและการจัดตั้งรัฐบาลจึงไม่ใช่การเป็นประชาธิปไตยด้วยจิตใจและวิญญาณ แต่เป็นชัยชนะที่มาจากอิทธิพลของปัจจัยทั้งในและนอกระบบ โดยเอาประชาชนผู้บริสุทธิ์เป็นทางผ่าน


          ด้วยความถูกต้องตามกฏหมายอย่างแกนๆ รัฐบาลพรรคไทยรักไทยบริหารราชการแผ่นดินด้วยความเชี่ยวชาญของกลุ่มนักธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งความสามารถด้านการตลาดและโฆษณาชวนเชื่อ ทำให้คนไทยจำนวนมากหลงเชื่อและยินดีรับผลประโยชน์เล็กน้อยเฉพาะหน้าด้วยความชื่นชม โดยที่เขาเหล่านั้นมองไม่เห็นหายนะที่รัฐบาลกำลังนำมาประเทศชาติไปเผชิญผลประโยชน์ทับซ้อนที่รัฐบาลมีผลประโยชน์ทางธุรกิจส่วนตน และกำหนดนโยบายของประเทศเพื่อประโยชน์ดังกล่าว ทำให้ความร่ำรวยมั่งคั่งเกิดขึ้นอย่างมหาศาลกับกิจการทางธุรกิจของผ้นำรัฐบาลและครอบครัวพวกพ้อง แต่สังคมไทยส่วนรวมต้องประสบปัญหาทั้งทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม การบริหารราชการอย่างไร้ศีลธรรม ไร้จริยธรรมของนักธุรกิจที่มีคติ "ด้านได้อายอด" ทำให้สังคมไทยและคนไทยกำลังเดินตกเหวแห่งความวิบัติ โดยที่คนไทยบางส่วนยังคงยิ้มระรื่นด้วยความรู้เท่าไม่ถึงการณ์


          รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้สร้างกลไกและมาตรการต่างๆเพื่อการถ่วงดุลอำนาจของฝ่ายบริหารไว้อย่างดีพอสมควร แต่กลไกและมาตรการเหล่านั้นกลับถูกนักธุรกิจการเมือง "ด้านได้อายอด" ครอบงำและควบคุมจนทำให้ตกอยู่ในสภาพไร้สมรรถภาพ


          การแสดงความคิดเห็นของนักวิชาการ ผู้สนใจกิจการบ้านเมืองและสื่อมวลชนบางส่วนถูกมองจากรัฐบาลของนักธุรกิจการเมืองว่า เป็นคนไม่รักชาติ ไร้สาระ และไม่หวังดีต่อประเทศชาติ


          ในสภาวะการบริหารราชการของรัฐบาลปัจจุบัน พวกเราบรรดาอาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งมีความรักและห่วงใยประเทศชาติ และผลประโยชน์ของประเทศชาติโดยรวมอย่างมาก พิจารณาเห็นว่า ถ้ารัฐบาลยอมรับความจริงอย่างสุภาพบุรุษ ตระหนักถึงความเสื่อมโทรมที่เกิดขึ้นกับประเทศชาติ รัฐบาลต้องพิจารณาตัวเอง และเลือกที่จะยุติสภาวะดังกล่าวด้วยการลาออก หรือการยุบสภาตามกระบวนการประชาธิปไตย และเห็นว่าหากรัฐบาลยังคงดื้อรั้นที่จะบริหารประเทศเพื่อผลประโยชน์ของตน พรรคพวก และครอบครัวต่อไป กระแสการต่อต่านจะยิ่งรุนแรงขึ้น จนอาจเกิดการเผชิญหน้าและนำไปสู่ความวิบัติของสังคมไทย พร้อมๆกับการสูญเสียชีวิต เลือดเนื้อ และทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมากเช่นที่เคยเป็นมาในอดีต เพื่อหลีกเลี่ยงวิบัติอันไม่พึงปรารถนานี้ คณาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ขอเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาตัวเองด้วยความเป็นสุภาพบุรุษ และความหวังดีต่อชาติ และประชาชนไทยเป็นส่วนรวม โปรดลาออก หรือยุบสภาตามกติกาประชาธิปไตยโดยเร็ว


 


ที่มา: http://www.bangkokbiznews.com


 

ร่วมบริจาคเงิน สนับสนุน ประชาไท โอนเงิน กรุงไทย 091-0-10432-8 "มูลนิธิสื่อเพื่อการศึกษาของชุมชน FCEM" หรือ โอนผ่าน PayPal / บัตรเครดิต (รายงานยอดบริจาคสนับสนุน)

ติดตามประชาไท ได้ทุกช่องทาง Facebook, X/Twitter, Instagram, YouTube, TikTok หรือสั่งซื้อสินค้าประชาไท ได้ที่ https://shop.prachataistore.net