21 กุมภาพันธ์ 2549

คณาจารย์"มทส."ลุกฮือไล่"ทักษิณ"-ยุติความเสียหายของชาติ

          ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- คณาจารย์"มทส."โคราชสุดทนต่อสภาพความกดดัน ของจริยธรรม-คุณธรรมทางการเมืองของประเทศ รวมตัวลุกฮือออกแถลงการณ์ขับไล่ "แม้ว" เพื่อยุติความเสียหายใหญ่หลวงต่อสังคมและประเทศชาติ พร้อมเสนอทางออก 4 ข้อเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายในอนาคต

          ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดนครราชสีมา ว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ( 21 ก.พ. ) กลุ่มคณาจารย์ผู้ห่วงใยสังคม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ได้ออกแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ลงวันที่ 21 ก.พ. 2549 พร้อมลงชื่อท้ายคำแถลงการณ์ร่วมกันจำนวน 32 คน เรียกร้องให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ลาออกจากตำแหน่ง ถวายคืนพระราชอำนาจแด่ในหลวง เพื่อทรงแต่งตั้งรัฐบาลชั่วคราว และผลักดันการปฏิรูปการเมือง ปรับปรุงแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อยุติความเสียหายใหญ่หลวงต่อสังคมและประเทศชาติโดยเร็ว

          รายละเอียดคำแถลงการณ์ฉบับที่ 1 ดังกล่าว ระบุว่า ด้วยบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ มาตรา 81 และ พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ มาตรา 6 ได้กำหนดให้คณาจารย์ ต้องสอนความรู้คู่คุณธรรมต่อลูกศิษย์ ซึ่งจะเป็นอนาคตของประเทศ พวกเรากลุ่มคณาจารย์ผู้ห่วงใยสังคมจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา จำนวน 32 คน ดังมีรายชื่อข้างล่างนี้ จึงไม่อาจนิ่งเฉยดูดาย ต่อสภาพความกดดันของจริยธรรม และคุณธรรมทางการเมืองของประเทศไทยในขณะนี้ได้อีกต่อไป

          แม้พวกเราจะเป็นนักวิชาการด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งดูเหมือนว่าห่างไกลจากปัญหาสังคมและการเมือง แต่ตระหนักดีว่า วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จักไม่สามารถตั้งอยู่และพัฒนาต่อไปได้หากขาดสังคมที่มีจริยธรรมและคุณธรรมเป็นรากฐานเกื้อหนุนค้ำจุน

          พวกเรามีวิจารณญาณเป็นฉันทานุมัติร่วมกันว่าการปฏิบัติงาน 5 ปี ที่ผ่านมาของรัฐบาลภายใต้การนำของ ฯพณฯ ทักษิณ ชินวัตร นั้น ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศนานับปการ ทั้งในเชิงรูปธรรม นามธรรมและคุณธรรม ดังเป็นที่ประจักษ์กันดีแล้ว ของวิญญูชนผู้ติดตามศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารบ้านเมืองอยู่เป็นนิจ หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปอาจเกิดความเสียหายใหญ่หลวง ต่อสังคมและประเทศในระดับที่ไม่สามารถพลิกฟื้นให้กลับคืนได้อีก

          ดังนั้น เพื่อยุติความเสียหายต่อสังคมชาติโดยเร็ว และเพื่อหาทางแก้ไขไม่ให้เกิดความเสียหายเช่นนี้อีกในอนาคต พวกเราขอเสนอข้อคิดเห็นดังนี้

          1.ผู้บริหารประเทศทีนักปราชญ์ติเตียนก็หมดความสง่างาม ถ้านักวิชาการติเตียนก็หมดความชอบธรรม ถ้าชนชั้นกลางจำนวนมากติเตียนก็หมดอาณัติในการบริหาร บัดนี้ปรงปราชญ์ราชบัณฑิตและนักวิชาการทั่วประเทศ ตลอดจนชนชั้นกลางจำนวนมหาศาลได้ติเตียนนายกรัฐมนตรีมามากและเป็นเวลานาน ฯพณฯ นายกฯ จึง หมดสิ้นแล้วซึ่งความสง่างาม ความชอบธรรม และอาณัติในการบริหารประเทศ

          2.ใคร่ขอให้ ฯพณฯ ทักษิณ ชินวัตร ลดทิฐิมานะแห่งตน ยอมรับผิดชอบในความเสียหายอันใหญ่หลวงนานับปการตลอด 5 ปี ที่ได้เกิดขึ้นต่อประเทศชาติ ด้วยการศึกษาหาช่องทางตามกฎหมายและหรือจารีตประเพณีเพื่อถวายคืนพระราชอำนาจในการบริหารประเทศแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เพื่อทรงแต่งตั้งรัฐบาลมาบริหารประเทศเป็นการชั่วคราว หากทำได้ดังนี้ ก็จักได้รับการให้อภัยและการสรรเสริญจากสังคมในระดับหนึ่ง

          3.จากนั้น ขอให้การปฏิรูปการเมือง โดยนำข้อบกพร่องในอดีตและปัจจุบันมาประมวลหาแนวทางปรับปรุง แก้ไข รวมทั้งแนวทางใหม่ เพื่อให้ดีและรัดกุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการป้องกันระบบธุรกิจการเมืองมิให้เกิดขึ้นได้อีกต่อไป การปฏิรูปการเมืองดังกล่าว ไม่พึงยึดติดกับรูปแบบการเมืองและประชาธิปไตย ของกลุ่มประเทศทางตะวันตกเสมอไป แต่พึงคำนึงถึงลักษณะเฉพาะ และระดับพัฒนาการของสังคมไทยประกอบด้วย

          4.ความเสียหายต่อประเทศที่เกิดขึ้น ในอดีตและปัจจุบันนับเป็นอุทาหรณ์อันดีว่า การจะสร้างกฎเกณฑ์เพื่อสนับสนุนระบบการเมืองให้ดีได้นั้น จำเป็นต้องคำนึงถึงทั้งคุณสมบัติของตัวบุคคลของตัวบุคคลและคุณสมบัติของระบบควบคู่กันไป ที่ผ่านมารัฐธรรมนูญมีการกำหนดคุณสมบัติของรัฐมนตรี และสมาชิกสภาแต่ในเชิงนิตินัยเท่านั้น มิได้กำหนดคุณสมบัติเชิงพฤตินัยประกอบด้วย ยังผลให้บุคคลที่มีความบกพร่องคุณธรรมจำนวนหนึ่ง ได้เข้ามาบริหารประเทศ สร้างความเสียหายต่อประเทศชาติครั้งแล้วครั้งเล่า

          ดังนั้น จึงควรสร้างมาตรการและกำหนดวิธีการในรัฐธรรมนูญ และหรือกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ เพื่อให้เป็นหลักประกันด้วยว่า จะได้บุคคลที่ทั้งเก่งและดีขึ้น เป็นผู้บริหารประเทศและเป็นสมาชิกรัฐสภา ดังที่องค์พระมหากษัตริย์ได้ทรงให้ข้อคิดไว้เนือง ๆ

          จึงแถลงการณ์มาเพื่อ ฯพณฯ ทักษิณ ชินวัตร โปรดพิจารณา และเพื่อสังคมไทยโปรดพิจารณาใช้ประโยชน์ตามสมควรต่อไป ลงชื่อ กลุ่มคณาจารย์ผู้ห่วงใยสังคมจากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา

          ประกอบด้วย รศ.ดร.ทวิช จิตรสมบูรณ์, ผศ.ดร.ตริตาภรณ์ ชูศรี, รศ.ดร.กนกอร อินทราพิเชฐ, รศ.ทรงพร ทาเจริญศักดิ์, ผศ.ดร.รังสรรค์ วงศ์สรรค์, รศ.ดร.วิจิตร รัตนพานี, ดร.ธีระสุต สุขกำเนิด, ดร.นฤมล รักษาสุข, ผศ.สัมพันธ์ ชาญศิลป์, อ.ดร.มัลลิกา สังข์สนิท

          ผศ.ดร.นิธินาถ ศุภกาญจน์, ดร.บุญชัย วิจิตรเสถียร, ผศ.ดร.จันทิมา ดีประเสริฐกุล, ผศ.ดร.กษมา จารุกำจร, ดร.กัณทิมา ศิริจีระชัย, ดร.จรียา ยิ้มรัตนบวร, ผศ.ดร.สมประสงค์ สัตยมัลลี, ผศ.ดร.อาทิตย์ ศรีแก้ว, ดร.ธีรวัฒน์ สินสิริ, ดร.ถิรยุทธ ลิมานนท์, ผศ.ดร.กิตติ อัตถกิจมงคล, ผศ.พะยอม ก้อนในเมือง

          ดร.จิตพนัส สุวรรณเทพ, ดร.ราเชนทร์ โกศัลวิตร, ดร.เจษฎา ตัณฑนุช, ผศ.ดร.กุลวดี รังษีวัฒนานนท์, ผศ.ดร.จิรวัฒน์ ยงสวัสดิกุล, ดร.โสภณ วงศ์แก้ว, ดร.สมร พรชื่นชูวงศ์, ดร.ศุภกฤตย์ ไทยอุดม, ผศ.ดร.วิมลลักษณ์ สุตะพันธ์, ผศ.วิทวัส ยมจินดา และ ดร.วารี วิดจายา

          ทั้งนี้ ตอนท้ายของคำแถลงการณ์ ได้ระบุหมายเหตุว่า แถลงการณ์นี้เป็นความคิดเห็นของกลุ่มคณาจารย์กลุ่มหนึ่ง ไม่จำเป็นต้องสอดคล้องกับนโยบายสาธารณะ ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี

ที่มา: http://www.manager.co.th