21 กุมภาพันธ์ 2549
ผู้นำแรงงานผนึกกำลังต้าน
วันเดียวกัน ที่โรงแรมริชมอนด์ นนทบุรี สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) จัดประชุมสุดยอดผู้นำ สรส.เพื่อร่วมเคลื่อนไหวกับพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย โดยมีนาย
นายสมศักดิ์ โกศัยสุข กล่าวในที่ประชุมว่า การเข้าร่วมชุมนุมที่ท้องสนามหลวงในวันที่ 26 ก.พ.นี้ไม่เกี่ยวกับเรื่องที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล ทะเลาะกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เพราะการที่เราออกมาเคลื่อนไหวเป็นเพราะเราทนไม่ได้อีกต่อไปแล้วกับพฤติกรรมของผู้นำประเทศ ดังนั้นเราต้องแสดงจุดยืนที่ชัดเจน ตนขอฟันธงว่ารัฐบาลทักษิณอยู่ต่อไปไม่ได้ เพราะประชาชนได้ออกมาขับไล่ถึงขนาดนี้แล้ว จึงมั่นใจว่าเขาจะอยู่ไม่ได้จริงๆ นอกจากนี้ในส่วนของนาย
หลังจากนั้นนายศิริชัยอ่านแถลงการณ์ของ สรส. แสดงความเห็นด้วยกับการชุมนุมทางการเมืองขององค์กรพันธมิตรภาคประชาชน และเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกจากตำแหน่งหรือยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชนเลือกรัฐบาลชุดใหม่ แกนนำกลุ่มต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุมทั้งหมดได้ยืนรวมตัวกันที่หน้าเวทีเพื่อแสดงถึงพลังภาคประชาชนอันยิ่งใหม่ในการต่อสู้กับอำนาจรัฐบาล ทุกคนประสานมือกันแล้วชูมือขึ้นพร้อมกับร้องตะโกนพร้อมกันว่า "ทักษิณออกไปๆๆ"
นายศิริชัยกล่าวว่า ที่ประชุม สรส.มีมติร่วมกันในการทำงานและกำหนดมาตรการในการขับเคลื่อนร่วมกับภาคประชาชน มีการกำหนดคาราวาน เดินเท้าแจกเอกสารที่สวนจตุจักร ทั้งนี้จะกระทำด้วยความสงบ ปราศจากอาวุธ ดังนั้นขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดสิทธิและพื้นที่ในการชุมนุมครั้งนี้ อย่าใช้ความรุนแรง และอย่าใช้บางสถานการณ์เพื่อจะหยุดการชุมนุม ถ้ามีมาตรการอะไรที่มาจากอำนาจของรัฐ พวกเราพร้อมที่จะมีมาตรการตอบโต้ โดยสหภาพแรงงานตกลงกันว่าหากมีการใช้อำนาจรุนแรงจากภาครัฐ เราจะใช้สิทธิในการหยุดงานเพื่อร่วมต่อสู้กับประชาชน
นอกจากนี้ในส่วนของสมาพันธ์ที่อยู่ต่างจังหวัดทั่วประเทศ จะมีการขับเคลื่อนตามจุดต่างๆ เช่น โคราช ขอนแก่น อุดรฯ อุบลราชธานี ลำปาง เชียงใหม่ แพร่ นครสวรรค์ ระยอง ชุมพร สุราษฎ์ธานี นครศรีธรรมราช หาดใหญ่ ซึ่งทั้ง 13 จุดนี้เราจะรณรงค์ในลักษณะ "ป่าล้อมเมือง" โดยจะมีการปักหลักชุมนุมและแจกเอกสารกับประชาชน โดยเวลา 15.00 น. วันที่ 26 ก.พ. เราจะนัดรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เพื่อเคลื่อนขบวนไปรวมกันที่ท้องสนามหลวง ซึ่งคาดว่าผู้ที่จะเข้าร่วมในส่วนของ สรส.จะไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นคน ส่วนกรณีที่มีการตั้งธงไว้ว่า "ไม่ชนะไม่เลิก" นั้น ต้องขึ้นอยู่กับองค์กรพันธมิตรฯ ที่จะประเมินสถานการณ์ อาจจะต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ก็ได้
ที่มา: http://www.thaipost.net