นักเรียนนายทหารชั้นผู้นำ รุ่นที่ 1

 ดื่มฉลองด้วยแก้วไม้ไผ่ อย่างที่ไม่มีกองทัพของประเทศใดเคยใช้มาก่อน

เตรียมเดินสวนสนาม จากค่ายปางเสือลาย

 เหล่าทหารกล้ารุ่นที่ 6/2

เมื่อวันที่ 27 - 28 มกราคม 2549 ที่ผ่านมา กองกำลังไทยใหญ่ภาคใต้ SSA-S [Shan State Army-South] ภายใต้การนำของพันเอกเจ้ายอดศึก ได้จัดงานฉลองครบรอบ 10 ปี แห่งการต่อสู้กู้ชาติที่ไม่ยอมแพ้ ต่อรัฐบาลเผด็จการพม่านับตั้งแต่กองทัพเมืองไตย MTA ภายใต้การนำของขุนส่าล่มสลาย พร้อมกันนั้นได้มีพิธีปิดหลักสูตรการอบรมนายทหารระดับชั้นผู้นำรุ่นที่ 1 และการฝึกของเหล่าทหารกล้ารุ่นที่ 6/2 ที่กองบัญชาการใหญ่ ดอยไตยแลง ตรงข้ามอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยมีทหารที่เข้ารับการฝึกทั้งระดับชั้นผู้นำและทหารกล้ารวม 430 นาย 

โดยพันเอกเจ้ายอดศึก ผู้นำสูงสุดของ SSA-S ได้แถลงต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับความเป็นมาของวันจัดงานฉลองครบรอบ 10 ปี แห่งการต่อสู้ที่ไม่เคยคิดจะยอมแพ้ต่อพม่าเมื่อช่วงเที่ยงของวันที่ 27 ม.ค. 49 ซึ่งตอนหนึ่งมีใจความว่า "ช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ 10 ปีที่ผ่านมา พม่ากับไทยใหญ่ไม่มีใครแพ้หรือชนะ มีเพียงประชาชนพลเรือนที่เท่านั้นที่ต้องพบกับความสูญเสียอันเนื่องมาจากภาวะสงคราม แต่ถึงอย่างไรก็ตามเราจะพากองทัพสู้ต่อไป จนกว่าจะได้เอกราชกลับคืนมา"

พร้อมกันนั้นทางกองทัพ SSA ได้ออกแถลงการณ์ปรับโครงสร้างภายในไว้ 4 ข้อด้วยกัน คือ 1. ทางกองทัพมีมติเห็นชอบแต่งตั้งให้พันเอกเจ้าจายยี่ ผู้บัญชาสูงสุดของกองทัพแห่งชาติรัฐฉาน SSNA [Shan State National Army] ที่ประกาศร่วมต่อสู้กับกองทัพ SSA เมื่อวันที่ 21 พ.ค. 48 ที่ผ่านมา เป็นรองประธานสภาฟื้นฟูรัฐฉาน RCSS [Restoration Council Shan State] โดยมีพันเอกเจ้ายอดศึกเป็นประธานสูงสุด 2. SSA จะพัฒนากองทัพให้มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น 3.  SSA มีความเห็นชอบที่จะเป็นสัมพันธมิตรกับกลุ่มชาติพันธ์ติดอาวุธต่างๆ ในพม่าและพร้อมที่จะให้ความร่วมมือระหว่างกัน 4. สภาฟื้นฟูรัฐฉาน RCSS ยังจะยึดมั่นในนโยบายเดิม 6 ประการสืบต่อไป ซึ่งได้แก่ 1. ความเป็นเอกภาพภายในชาติ 2. น้ำใจในสนธิสัญญาปางโหลง 3. ประชาธิปไตย 4. พัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน 5. ต่อต้านยาเสพติด และ6 สร้างสันติภาพ            

ในช่วงเช้าของวันที่ 28 ม.ค. 49 ได้มีพิธีสวนสนามของเหล่านายทหารชั้นผู้นำและทหารกล้าที่เพิ่งเสร็จสิ้นการเข้ารับการฝึกอบรมไปยังลานพิธีค่ายปางเสือเผือก เพื่อแสดงศักยภาพและความมีระเบียบวินัยของกองทัพ พร้อมรับฟังโอวาทผู้นำ ซึ่งมีทหารชั้นผู้ใหญ่และผู้บัญชาการของทุกหน่วยของกองทัพเข้าร่วมในพิธี และมีประชาชนจากที่ต่างๆ ไปร่วมให้กำลังใจกว่า 600 - 700 คน จากนั้นในช่วงเย็นได้มีการรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน ระหว่างทหารทุกระดับชั้น และประชาชนที่ไปร่วมงานอย่างสนุกสนานและเป็นกันเอง โดยมีวงดนตรี และคณะลิเก(จ๊าตไตย) ร่วมสร้างกำลังใจตลอดทั้งคืน

ส่วนความเป็นมาของวันครบรอบ 10 ปี แห่งการต่อสู้ของกองทัพ SSA-S นั้น เริ่มนับจากเมื่อวันที่ 27 ม.ค. 2539 อันเป็นวันที่พันเอกเจ้ายอดศึกได้นำกำลังทหารภายใต้บังคับบัญชาในเขตพื้นที่เมืองทา ตรงข้ามบ้านเปียงหลวง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ประมาณ 300 กว่านาย แยกตัวออกจากกองทัพเมืองไตย MTA ของขุนส่า ขณะที่ขุนส่าเตรียมวางอาวุธให้กับทหารพม่า โดยได้ข้ามแม่น้ำสาละวินขึ้นไปทางภาคกลางรัฐฉาน เพื่อที่จะรวบรวมกำลังพลจัดตั้งกลุ่มขึ้นใหม่ต่อสู้กับทหารพม่าต่อไป และได้จัดตั้งเป็นกลุ่มกองทัพรัฐฉาน SSA เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2541 จนถึงปัจจุบัน

ตลอดช่วงเวลาแห่งการต่อสู้ที่ไม่ยอมแพ้ 10 ปีที่ผ่านมา หนังสือรายงานของกองกำลัง SSA ระบุว่า ได้เกิดการสู้รบกับทหารพม่า ว้า และกลุ่มอาสาสมัครของพม่าร่วม 1,319 ครั้ง  ฝ่ายตรงข้ามเสียชีวิตไปกว่า 4,111 นาย บาดเจ็บ 5,460 นาย และยึดอาวุธปืนชนิดต่างๆ ได้ 542 กระบอก ส่วนฝ่าย SSA ซึ่งส่วนใหญ่ใช้กลยุทธโจมตีแบบสายฟ้าแลบหรือซุ่มโจมตีเสียชีวิต 200 กว่านาย บาดเจ็บ 330 นาย ขณะที่ชาวบ้านตั้งแต่พื้นที่ภาคกลางถึงภาคใต้ถูกทหารพม่าข่มเหง รังแกด้วยวิธีการต่างๆ อันเนื่องมาจากภาวะสงครามอย่างหนัก

--------------------------------------------------------------------------------

ข่าวทั้งหมดแปลและสรุปความโดยสำนักข่าวเชื่อม เป็นหน่วยงานข่าวภาคภาษาไทยของสำนักข่าว S.H.A.N (Shan Herald Agency for News) ซึ่งเป็นเครือข่ายของศูนย์ข่าวสาละวิน (Salween News Network) ท่านสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ chuem@cm.ksc.co.th และ snn_news@cm.ksc.co.th พร้อมติดตามอ่านข่าวสารย้อนหลังรวมทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับประเทศพม่าภาคภาษาไทยได้ที่ www.salweennews.org ภาษาอังกฤษได้ที่ www.shanland.org และภาคภาษาไทยใหญ่ได้ที่ www.mongloi.org